เรื่องน่าคิด!! จากการที่กูเกิ้ลประกาศ ต่อไปหัวเว่ยจะใช้แอนดรอยด์ไม่ได้ การแสดงจุดยืนนี้ทำให้บริษัทผู้ผลิตมือถือทุกค่ายทั้งโลกเกิดความระแวงว่า สักวันหนึ่งมันอาจจะถึงคิวของเรา
จากการที่กูเกิ้ลประกาศว่า ต่อไปหัวเว่ยจะใช้แอนดรอยด์ไม่ได้อีก การแสดงจุดยืนอย่างนี้ทำให้บริษัทผู้ผลิตมือถือทุกค่ายทั้งโลกเกิดความระแวงว่า สักวันหนึ่งมันอาจจะถึงคิวของเรา
แล้วทุกค่ายมือถือต่างพากันพัฒนาosเป็นของตัวเอง หรือมิฉะนั้นทุกค่ายมือถือจับมือกันแอนตี้กูเกิ้ลแล้วร่วมกันพัฒนาosใหม่ขึ้นมาให้เป็นมาตราฐานที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์... และนั่นมันทำให้กูเกิ้ลพังยับเยิน ซึ่งการกระทำของกูเกิ้ลเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ...ทั้งนี้เพราะกูเกิ้ลเคยทำมือถือออกมาเหมือนกัน แต่ไม่เวิร์ค จึงต้องทำตัวเป็นตัวหมัดดูดเลือดจากมือถือทุกยี่ห้อในโลกต่อไป
______เมื่อหัวเว่ยถูกระงับการใช้แอนดรอยด์อย่างนี้ แทนที่หัวเว่ยจะยุบบริษัทอย่างที่บริษัทไอทีชั้นนำของอเมริกาทั้ง5 (แอปเปิ้ล,อเมซอน, กูเกิ้ล, ไมโครซอฟต์, เฟสบุ๊ค) หวังไว้ แต่กลับตาลปัตร หัวเว่ยฮึดสู้ ประกาศจะใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองที่พัฒนามา10ปี โดยให้ชื่อว่าระบบปฏิบัติการHongmeng มาใช้แทนแอนดรอยด์
______การประกาศของหัวเว่ยนั้น ..มันทำให้อเมริกาตื่นตระหนกอย่างหนัก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหัวเว่ยจะมีแผนซ้อนแผนรับมือกับแผนระงับการใช้แอนดรอยด์ได้ จึงระดมผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีและการตลาดทั้งหลายมาประชุมหารือกันถึงผลประโยชน์ที่จะกระทบต่ออเมริกาในกรณีนี้
______แน่นอน!!! ระบบปฏิบัติการHongmengที่พัฒนามา10ปี ยอมจะเห็นข้อบกพร่องของแอนดรอยด์ทุกจุดและได้อุดช่องว่างทั้งหมด ทำให้ค่ายมือถือจีนที่ครองอันดับ4,5,6..อย่างXiaomi, oppo, vivo, Honor, Meizu, Lenovo, Qiku 360, Smartisan, Motorola ,ZTE Nubia, Oneplus ตบเท้ากันมาขอใช้ปฏิบัติการ Hongmeng ทั้งหมด และค่ายมือถือเกาหลีไต้อย่างsamsung ไต้หวันอย่างaser, asus ญี่ปุ่นอย่างsony คงไม่รีรอที่จะขอใช้ปฏิบัติการนี้ด้วย นั่นมันทำให้แอนดรอยด์ถูกลอยแพชัดๆ แทนที่จะเป็นหัวเว่ย
______อเมริกาเห็นว่าการเดินหมากแบบนี้เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ จึงได้แก้เกมใหม่ด้วยการประกาศขยายเวลาให้หัวเว่ยใช้แอนดรอยด์ต่อไปอีก90วัน....แต่นายRen Zhengfei ซีอีโอของ Huawei ย้อนว่าการต่ออายุ 90 วันของสหรัฐฯ นั้น ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อหัวเว่ยเพราะ Huawei ก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้มาอย่างยาวนานแล้ว นั่นคือได้สร้าง OS ของตัวเองขึ้นและอาจจะเตรียมใช้งานทั่วโลกปี 2021..ถึงตอนนี้ มันคงสายไปสำหรับกลุ่มไอทีอเมริกาที่จะเดินเกมใหม่ มีแต่รอชะตากรรมเท่านั้น
______ส่วนการมีกระแสข่าวว่า ARM ได้มีการส่งจดหมายเวียนภายในให้ยุติการทำธุรกิจร่วมกับ Huawei ตามคำสั่งของอเมริกาแล้วโดยมีผลบังคับใช้ทันที ทำให้ Huawei ไม่สามารถพัฒนาชิปเซต Kirin และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ ARM ต่อไปในอนาคตได้อีกนั้น ...ถ้าARM ทำอย่างนั้นจริง มันก็ไม่มีผลอะไรต่อหัวเว่ยเลย ....ตรงข้ามARMเสียอีกที่จะล้มพับไปกับเขาอีกราย เพราะอะไร
______เพราะหัวเว่ยซื้อสิทธิบัตรจากARM สิ่งที่ซื้อมาคือสถาปัตยกรรมการออกแบบ พูดง่ายๆคือโครงสร้างการออกแบบชุดคำสั่งในรูปแบบRISC เพื่อนำไปผลิต CPU ของตัวเอง
______เมื่อหัวเว่ยผลิตCPU โดยให้ชื่อว่าKirin659 ได้ ถ้าหัวเว่ยต้องการพัฒนาCPUตัวใหม่ก็ต้องซื้อสิทธิบัตรARM อีก แล้วสร้างCPUตัวใหม่ชื่อว่า Kirin710
______Kirin980 เป็นชิปเซ็ตที่ซื้อลิขสิทธิ์จากRPMแล้ว และตอนนี้ ได้ครองอันดับ1ของโลกที่แรงที่สุดล้ำหน้าsnapdragon820ของซัมซุงไปแล้ว
______Kirin 980 เร็วขึ้น 20% และกินไฟน้อยลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม และแน่นอนชนะ Snapdragon 845 ในทุกด้าน
______ เพราะฉะนั้นถึงแม้ARM จะแบนหัวเว่ย ไม่ขายสิทธิบัตรใหม่ให้ ต่อให้หัวเว่ยจะหยุดพัฒนาไป2ปี ค่ายมือถืออื่นๆก็ไล่ตามไม่ทัน...แต่จะถึง2ปีหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะค่ายมือถืออื่นๆจะเจ๊งเสียก่อน เหลือเพียงหัวเว่ยเจ้าเดียวในโลก
______ไม้ตายอีกอย่างที่อเมริกากลัวนั่นก็คือเทคโนโลยี5G ที่มีแต่มือถือหัวเว่ยเท่านั้นที่กุมความลับอยู่ในมือ ถ้ามือถืออื่นๆจะคิดค้น5Gให้สำเร็จต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง2ปี ในระหว่างนี้เทคโนโลยี5จี ของจีนได้เข้าไปสัมปทานกับรัฐบาลทุกประเทศด้วยราคาที่ต่ำ ได้เข้าไปรื้อระบบ4จีที่ล้าสมัยทั้งโลก นี่แหละที่ทำให้สหรัฐใช้ความพยามอย่างสุดความสามารถที่จะทำลายหัวเว่ยให้ได้ เพราะมิฉะนั้นจีนจะแย่งผลประโยชน์ของอเมริกาไปทั้งโลก และสิ่งที่ตามมาคือหายนะของเงินดอลลาร์
______อำนาจทางทหารอย่างเดียวมันช่วยอะไรไม่ได้กับสงครามเศรษฐกิจที่ต้องอาศัยเทคโนยีของสินค้าเป็นตัววัดความเหนือชั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้อเมริกาก็คือลูกไก่ที่อยู่ในกำมือจีน
BillionPixelStudio