ไม่กล้าเปิดใจหรือเป็นโรคกลัวความรัก (philophobia)
ความกลัวในระดับปกติ ถือว่าเป็นสิ่งดีเพราะทำให้มนุษย์รู้จักป้องกันตัวเอง แต่ความกลัวที่ไม่ปกติ มากกว่าปกติ เรียกว่า phobia (โฟเบีย) นับเป็นโรคทางจิตเวชาอย่างหนึ่ง
เช่น เจ้าของโพสต์เป็นโรคกลัวงู แค่เห็นรูปก็มีอาการตัวสั่น มือสั่น ตัวเย็น ขนลุก ดวงตาเบิกกว้าง หัวใจเหมือนหยุดเต้น เสี่ยงช็อคได้ แบบนี้เป็นอาการที่มากกว่าการกลัวปกติและเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต เพราะต้องคอยระแวงว่าจะเจอเมื่อไหร่ แม้กระทั่งรูปบนอินเตอร์เน็ต
ประเภทของโรคกลัว หลัก ๆ มี 3 ชนิด ได้แก่
1. โรคกลัวเฉพาะอย่าง เช่น กลัวงู แมลงสาบ ของมีคม ผีเสื้อ กลัวเลือด กลัวความสูง กลัวความมืด กลัวผลไม้บางอย่าง(ดาราชอบเป็นกัน) กลัวรูเยอะ ๆ กลัวเข็มฉีดยา
2.โรคอะโกราโฟเบีย (agoraphobia) เป็นกลุ่มอาการกลัวที่มีลักษณะหลายอย่างร่วมกัน เช่น การกลัวชุมชนที่คนเบียดเสียด กลัวที่แคบ กลัวห้องไม่มีหน้าต่าง กลัวการนั่งรถตู้ด้านหลัง กลัวการเข้าเครื่อง MRI กลัวการขึ้นเครื่องบิน
3.โรคกลัวกิจกรรมทางสังคม (social phobia) อาการกลัวการตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่น เช่น กลัวการพูดหน้าที่ประชุม กลัวการพูดผ่านไมโครโฟน กลัวลุกไปเข้าห้องน้ำในที่ ๆ มีคนเยอะ ๆ
สาเหตุเกิดจาก มีหลายทฤษฎี เช่น ปมขัดแย้งในจิตใจ ความฝังใจตั้งแต่วัยเด็ก สารสื่อสมองผิดปกติ หรือการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
อาการ กล้ามเนื้อตึง ปวดศีรษะ หายใจไม่ทัน มือสั่น ปากสั่น รู้สึกชา มือเย็น เท้าเย็น ใจหาย ใจหล่นวูบ บางรายอาจช็อคได้
การรักษา ปกติแพทย์จะวินิจฉัยโรค และรักษา 2 แบบ
- พฤติกรรมบำบัด ค่อยๆให้ผู้ป่วยเข้าหาและเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
- รักษาด้วยยา
โรคกลัวความรัก (philophobia)
เป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง โรคกลัวการตกหลุมรัก (Philophobia) หรือ โรคกลัวความรัก เป็นความกลัวเมื่อต้องเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์กับใคร แต่หากมีอาการมากเกินไปอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คือ วิตกกังวล กระสับกระส่าย เก็บตัว หลบหนีจากผู้คน ไม่กล้าเข้าสังคม
สาเหตุ อาจเกิดจากปมในวัยเด็กจากครอบครัว หรือประสบการณ์ผิดหวังอย่างรุนแรง/อกหัก หรือวัฒนธรรมหรือศาสนา หรือการไม่เห็นค่าในตัวเอง ไม่เห็นว่าตัวเองมีคุณค่า เหมาะสมพอที่จะได้รับความรักจากใคร ทำให้เลือกที่จะปิดตัวเอง หรืออาจเกิดจากพันธุกรรม
โรคกลัวความรักต่างจากไม่กล้าเปิดใจอย่างไร?
จะมีอาการกลัวที่มากเกินไปกว่าปกติทั่วไป เมื่อเริ่มรู้สึกโดนเข้าใกล้ ดังนี้
-เครียด ประหม่า กังวล คิดมาก
-หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม ชอบอยู่คนเดียว เงียบขรึม
-เหงื่อออกด้วยความตกใจหรือกลัว
-หัวใจเต้นเร็วจนหายใจไม่ออก
-หายใจติดขัด
-สมองไม่สั่งงาน ควบคุมตัวเองไม่ได้
-มีอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม
เมื่อปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้มีผลต่อการใช้ชีวิต เช่น กลัวการเข้าสังคม ไม่กล้าคุยกับใคร โรคซึมเศร้า โรคเครียด เสี่ยงต่อการใช้สารเสพติด หรืออาจถึงขั้นฆ่าตัวตายได้
การรักษา คุยกับจิตแพทย์ ช่วยปรับทัศนคติมุมมองให้เราควบคู่กับการทำสมาธิ การฝึกจิตใจ การฝึกให้เจอกับสถานการณ์ที่กลัว ฝึกให้เจอกับเพศตรงข้าม ไปทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อปรับตัวให้คุ้นชินกับแรงกดดันและอาการประหม่า และยาลดความกังวล
----------------------------------------------------
เห็นมั้ยคะ ว่าอาการที่เราไม่กล้าเปิดใจกับโรคกลัวความรักมันต่างกันมาก (ชื่อก็บอกอยู่ว่า 'โรค' คือความผิดปกติ) ถ้าใครที่ผิดหวังจากความรัก อกหักและตะโกนขึ้นฟ้าว่า
'ฉันเข็ดกับความรัก ฉันจะไม่รักใครอีก'
แต่ก็ยังใช้ชีวิตกับเพื่อนตามปกติ ยังเข้าสังคมได้ตามปกติ คุยกับผู้ชายได้ ทำกิจกรรมร่วมกันได้ แต่พอเขาเริ่มจีบเราก็แค่เว้นช่องว่าง ไม่ถึงขั้นหน้ามืด มือไม้สั่นจนตัวเย็น(หรืออาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่รู้สึกผิดปกติ เช่น อึดอัด) ก็ถือว่าเป็นอาการปิดใจธรรมดา อยู่ที่ความพร้อมของแต่ละคนแล้วล่ะค่ะว่าพร้อมเปิดใจเมื่อไหร่ แต่สำหรับใครที่มีอาการหวาดกลัว ลองพบจิตแพทย์ดูนะคะ ^^ แล้วลองปรับพฤติกรรม
แหล่งที่มา: psychological articles from healthline และวารสารทางการแพทย์รพ.บำรุงราษฎร์