ศาลเจ้าพ่อหอเชือก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวกรมศิลปากร
ศาลเจ้าพ่อหอเชือกหรือศาลเจ้าพ่อเชือกหนัง เป็นศาลไม้ทรงไทย ตั้งอยู่ริมรั้วด้านในข้างประตูทางเข้า กรมศิลปากร ภายในมีแผ่นไม้รูปเทพารักษ์หรือเทวดาถือพระขรรค์ (เจว็ด) ของเก่าเมื่อสมัยแรกตั้งศาล ประดิษฐานอยู่พร้อมกับเชือกบาศหรือเชือกปะกำของหมอช้าง อันเป็นที่มาของชื่อศาล
เนื่องจากเจ้านายที่ประทับ ณ วังถนนหน้าพระลานคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ทรงว่าราชการกรมพระคชบาลหรือกรมช้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพลเรือโท พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบำราบปรปักษ์ พระโอรสทรงช่วยราชการกรมช้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หอเชือกนี้เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปหรือพระครูปะกำ ซึ่งบรรดาครูช้างและหมอเฒ่าเคารพบูชา และเป็นที่เก็บเชือกบาศของหมอช้าง ทั้งยังมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ที่สำคัญคือเป็นที่ประกอบพิธีคชกรรมประจำปี ได้แก่ พิธีทอดเชือกดามเชือก เพื่อสำรวจตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคงของเชือกบาศ และบูชาไหว้ครู ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ที่ฝึกหัดช้างจะต้องเสด็จเข้าร่วมในพิธีทุกพระองค์
ต่อมาเมื่อบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ช้างมิได้ถือเป็นสัตว์พาหนะและยุทธปัจจัยสำคัญเช่นในอดีต ทำให้ราชการกรมช้างคลายความสำคัญลง บริเวณหอเชือกกลายเป็นที่รกร้าง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อหอเชือก อัญเชิญเทวรูปไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และย้ายศาลพระภูมิไปตั้งบริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่หน้ากรมศิลปากร ศาลนี้ต่อมาเรียกว่า ศาลเจ้าพ่อหอเชือก หรือ ศาลเจ้าพ่อเชือกหนัง มีสถานภาพเป็นศาลพระภูมิ ทำหน้าที่ปกปักรักษาภูมิสถาน และชาวกรมศิลปากรถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาตลอดมา
เมื่อพุทธศักราช ๒๕๔๔ กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะเชือกบาศของเดิมแล้วเชิญไปเก็บรักษาไว้ในพระบรมมหาราชวัง และจัดสร้างเชือกบาศใหม่ประดิษฐานที่ศาลแห่งนี้