ภาพสุดสะเทือนใจ! กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในกรุงเทพฯ รวมตัวกันไปยืนขวางทาง “รถขนหมู” ขณะกำลังขับไปโรงเชือด
ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Brighde Reed หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่มองว่าการบริโภคเนื้อสัตว์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งเธอก็ได้เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวลงในโลกโซเชียล มีข้อความที่น่าเศร้าว่า
1 เย็นวันศุกร์ที่ร้อนระอุในเดือนเมษา มีกลุ่มคนที่มาจากหลากหลายประเทศและวิถีชีวิตมารวมตัวกัน
2 พวกเราทุกคนใส่เสื้อสีขาวพร้อมกับขวดน้ำและกล้องในมือ ยืนรอรถบรรทุกขนหมู ซึ่งไม่นานนักรถบรรทุกก็มาถึง พวกเรารีบเดินไปยังรถบรรทุกนั้นด้วยความสั่นกลัว ถึงแม้ว่าเราจะรู้แล้วว่าต้องพบเจอกับอะไร
3 หมูกว่า 80 ตัวบนรถบรรทุกถูกขนมาจากฟาร์มเลี้ยงหมู ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นฟาร์มจากที่ใด
4 เรามีวัตถุประสงค์ 2 อย่างคือ
- เพื่อที่จะได้เผยแพร่ถึงความน่าสงสาร และไม่มีความช่วยเหลือใดๆ ส่งถึงหมูเหล่านั้นที่ถูกปฏิบัติอย่างไร้ความยุติธรรม
- เพื่อแสดงถึงความรักที่พวกเรามีให้กับหมูเหล่านั้นในวาระสุดท้ายของชีวิต
5 หลังรถบรรทุกที่แปรสภาพเป็นที่ลำเลียงหมู คนงานก็ทยอยลำเลียงหมูขึ้นไปอย่างยากลำบาก
6 พวกเราสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากสายตาของหมูเหล่านั้น พวกเราต้องการให้หมูเหล่านั้นได้รับรู้ถึงความรัก ความเมตตาจากมนุษย์ แม้ว่าหมูจะได้รับเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา
7 หมูเหล่านั้นถูกเข้าไปในกรง และไม่ยอมลงจากรถ เพราะรู้ว่าถ้าลงไปจะต้องเจออะไร แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อย ไร้เรี่ยวแรงอย่างไรก็ตาม หมูเหล่านั้นก็ใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีในการพยายามหนี
8 หมูเหล่านั้น ทับกันเป็นกองๆ และก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย
9 พวกคนงานมีตัวช่วย ท่อนเหล็กเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บ่อยที่สุด การกระทุ้ง ทิ่มแทง และฟาดตีไปที่ใบหน้าของหมู ทำให้พวกเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและต้องขยับเขยื้อนตัวไปโดยปริยาย
การใช้ท่อนเหล็กจี้แบบไฟฟ้า (ซึ่งมีการใช้กันที่อื่น) แม้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับสัตว์ได้เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ได้เห็น ก็อาจรู้สึกสะอิดสะเอียนใจน้อยกว่า
10 หมูอยู่บนรถบรรทุกหลายชั่วโมง อากาศก็ร้อน ทำให้หมูกระหายน้ำ โดยเฉพาพหมูตัวบนๆที่ผิวหนังเผชิญกับแสงแดดโดยตรง หมูทุกๆ ตัวเผชิญกับความร้อนแผดเผานี้เช่นกัน เมื่อพวกเรายื่นน้ำให้ หมูก็พากันมาดื่มอย่างกระหาย หมูตัวที่อยู่ริมก็ส่งเสียงร้องขอน้ำจากพวกเรา
11 หมูเกิดอาการเครียด จึงกัดกรงเหล็กบนรถบรรทุก
12 สายตาหมูแลดูโศกเศร้า
13 ความเอื้ออาทรที่พวกเราแสดงต่อหมู ในช่วงที่ใกล้วาระสุดท้ายของชีวิตหมูเหล่านั้น
14 พวกเราถ่ายรูปกับหมูที่ตกเป็นเหยื่อเหล่านั้น…
15 หลังจากนั้นไม่นาน มีหมูหนึ่งตัวพยายามหนีออกมาจากรถบรรทุกและหลบอยู่ใต้ท้องรถ น้องหมูมีการมึนงงและพยายามเดินอย่างยากลำบาก
16 พวกเราพึ่งเห็นว่ายังมีหมูอีกตัวที่พยายามหนีออกมาจากรถบรรทุก หมูตัวนี้ขยับไม่ได้ ได้แต่นอนอยู่ตรงนั้น
17 หมูตัวนี้ไม่ได้หวาดกลัวต่อการที่พวกเราเข้าไปสัมผัสเลย แต่ตอนนี้หมูขยับร่างกายไม่ได้แล้ว
18 หมูพยายามยืนอย่างยากลำบากด้วยขาหลัง 2 ขา ซึ่งลีบและไม่มีแรง ส่วนขาหน้าที่ดูเหมือนจะมีแรงแต่ผิดรูปไปแล้ว
19 พวกเราไม่ต้องการอะไรเลย นอกจากอยากให้หมูหลุดพ้นจากวงจรอันน่าสงสารนี้
20 หมดเวลาแล้ว
21 เราได้กลิ่น ได้ยินเสียงกรีดร้อง จึงต้องถอยห่างออกจากบริเวณนั้น และก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
22........
23 เรายืนมองเพื่อนใหม่ของพวกเราจิบน้ำอย่างกระหายตามพื้นดิน และไม่นาน คนงานก็มาลากเขาออกไป
24 หัวใจพวกเราแทบแตกสลาย เมื่อเห็น คนงาน ใช้เหล็กแหลมๆ เกี่ยวจมูกหมูและลากไป
25 ในขณะที่เรากำลังจะกลับ บานประตูข้างหนึ่งเปิดออก หลังรถขนส่งเปิดขึ้น เนื้อหมูชิ้นสดๆ จากร่างไร้วิญญาณของหมูที่เราปลอบประโลมเมื่อครู่ ถูกโหลดขึ้นไว้บนนั้น
26 บานประตูปิดลง แต่เสียงกรีดร้องยังคงโหยหวน'
27 พวกเราจบการทำกิจกรรมเช่นเดียวกับตอนเริ่มต้น ด้วยการรวมตัว สื่อใจถึงใจ และแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน
เรายืนแสดงความอาลัย ไม่เพียงแต่ต่อหมูเหล่านี้ แต่ยังระลึกถึงสรรพสัตว์อีก 150 ล้านชีวิต ที่ต้องถูกฆ่าเพื่อการบริโภคเป็นอาหารในวันนี้