Motive Influence ตอกย้ำความเป็นผู้นำ พัฒนาระบบ AI วิเคราะห์ Fraud Risk ยกระดับมาตรฐาน Influencer Marketing ในไทย
วินาทีนี้ คงไม่มีนักการตลาดคนไหนไม่รู้จัก Influencer Marketing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้เหล่า Influencer มาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Instagram ที่เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดของ Influencer เลยก็ว่าได้
เมื่อกระแส Influencer Marketing เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง นักการตลาดต่างเพิ่มกลยุทธ์นี้เข้าไปในแผนการตลาดของตนเอง แล้วเริ่มมองหา Influencer ที่เหมาะจะเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผู้บริโภค โดยใช้ตัวเลขมาเป็นตัวคัดเลือก Influencer และชี้วัดความสำเร็จ ก่อให้เกิดคำถามสำคัญต่อมาก็คือ เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้น มี “คุณภาพ” หรือ “ประโยชน์ที่แท้จริง” ซ่อนอยู่หรือไม่
คุณสุทธิชัย รัตนวิไลวรรณ ผู้บริหาร Motive Influence ซึ่งแสดงจุดยืนในการให้ความสำคัญด้านคุณภาพมาโดยตลอดกล่าวว่า “เมื่อนักการตลาดคัดเลือก Influencer จากจำนวน Follower และ Engagement พร้อมใช้ตัวเลขเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ทำให้เกิดแรงจูงใจต่อ Influencer บางกลุ่มที่พยายามให้ได้มาซึ่งตัวเลขตามความคาดหวังของแบรนด์ด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของ Influencer Marketing ในภาพรวม และยังส่งผลกระทบต่อ Influencer ที่ตั้งใจสร้างงานผลที่ดีอีกด้วย Fake Follower หรือ Fake Engagement รวมถึงการทำให้เกิดตัวเลข Follower หรือ Engagement รูปแบบใด ๆ ก็ตามที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความชื่นชอบ จะไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในตัวสินค้าและบริการที่แท้จริงให้เกิดขึ้นกับ Follower ได้ แม้จะเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดตัวเลขที่ดูดี แต่อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ลูกค้าต้องการ”
Motive Influence จึงร่วมมือกับทีมงานของ modeAI พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์คุณภาพของ Influencer และ Follower ให้ดียิ่งขึ้น โดยคุณสุทธิชัยกล่าวว่า “ตามสถิติประมาณ 8% -15% ของบัญชีผู้ใช้ใน Social Media เป็นบัญชีปลอม Facebook ให้ข้อมูลว่าได้ทำการระงับการใช้บัญชีปลอมจำนวนกว่า 2.1 พันล้านล้านบัญชีใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2018 และแม้ที่ผ่านมาจะมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่ประกาศไม่ร่วมงานกับ Influencer ที่ซื้อ Follower ทำให้ Instagram หันมาจริงจังกับการปรับอัลกอริทึมเพื่อกำจัด Fake Follower แบบเข้มข้นขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ การปรับเปลี่ยนอัลกอริทึมแต่ละครั้งอาจใช้เวลามาก ในฐานะที่ Motive Influence เป็นผู้ให้บริการด้าน Influencer Marketing ที่เน้นย้ำเรื่องคุณภาพมาตลอด จึงได้นำระบบ AI มาวิเคราะห์และให้ค่าความเสี่ยง (Fraud Risk Score) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ Fake Follower และ Fake Engagement โดยหวังว่าจะเป็นตัวช่วยให้การทำ Influencer Marketing มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จาก Motive Influence ไม่ใช่เพียงตัวเลขที่สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางการตลาดได้อย่างที่คาดหวังไว้จริง ๆ พร้อมทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานให้ดีขึ้นด้วย”
นอกจากนั้น คุณสุทธิชัยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งนี้จะส่งผลสอดคล้องกันในหลากหลายมิติ เมื่อแบรนด์ให้ความสำคัญกับคุณภาพพอ ๆ กับตัวเลข ก็เป็นหน้าที่ของ Influencer ที่ต้องสร้างคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมให้ได้ตามความคาดหวัง นำไปสู่การแข่งขันในเชิงความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้ตัวแพลตฟอร์มเองกลับมามีเสน่ห์ในฐานะที่เป็น Community คุณภาพที่เพื่อน ๆ (Natural Sharer) และผู้นำทางความคิด (Influencer) จะมาแชร์รูป อวดผลงานและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นอย่างที่ตั้งใจไว้แต่เดิม”
คุณสุทธิชัยได้กล่าวปิดท้ายว่า "ระบบที่เรานำมาใช้ในตอนนี้ จะมีการปรับปรุงและพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอต่อไป ซึ่งเราคาดหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่สามารถส่งต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนให้ตระหนักถึงสิ่งที่เราเชื่อมั่นมาตลอดได้”