ไม่ยอมให้เธอไป
ว่ากันว่าคนที่ตายอย่างกะทันหัน วิญญาณจะยังไม่รู้ตัว ต้องรอคนมาอุทิศส่วนกุศลไปให้
แต่ผมจะไม่ยอมให้เธอไป...
ณ มุมหนึ่งของห้องครัวที่มีสภาพเหมือนขาดการดูแล หลอดไฟสีส้มอ่อนแสงดับลงอุณหภูมิลดต่ำลง อากาศที่ว่าร้อนกว่าลอยตัวสูงลงมา ลมเย็นพัดเข้ามาแทนที่ ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบพุ่งเข้ามาอาบร่างในฉับพลัน
ใกล้บ้านหลังนั้น สุนัขต่างพากันเห่าหอนรับต่อกันเป็นทอดๆ เมื่อโสตประสาทของมันสัมผัสได้ถึงคลื่นเสียงความถี่สูง
ความมืดช่วยขับร่างเรืองดูเด่น แม้จะเป็นเพียงเงารางๆแต่ผมก็มั่นใจว่านั่นต้องเป็นเธอ
พรพรรณ...ผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ ผมเฝ้ารอเธอมานาน รอเธออยู่ตรงนี้ทุกคืน ด้วยความหวังว่าผมจะได้พบกับคนรักอีกครั้ง แค่เพียงวิญญาณ เท่านี้ก็มีความสุข ต่อให้กาลเวลาจะผ่านไปนานนับอสงไขย แต่ก็ไม่ทำให้ความรักที่ผมมีต่อพรพรรณลดน้อยลง ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมตั้งแต่วันที่เธอจากไป
หมู่บ้านจัดสรรแห่งนี้มีเพียงผมคนเดียว แต่มันไม่ง่ายเมื่อผมต้องตกเป็นเป้าสายตาจากเพื่อนบ้านที่ชอบเผือก ทั้งที่ผมพยายามจะไม่สุงสิงกับใครแล้วก็ตาม คำนินทาก็ยังประดาเข้ามาเรื่อยๆ ผมอ่านจากสีหน้าทุกคน ยามที่เร่งฝีเท้าก้าวเดินเพื่อจะไปให้พ้นๆบ้านหลังนี้ บ้านที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ วันนั้นมีเด็กชายกลุ่มหนึ่งเผลอแตะลูกบอลข้ามรั่วมา ผมยืนมองพวกเขาจากหน้าต่างชั้นสอง ผมดันเอามือไปโดนกระถางกระบองเพชรเล็กๆที่วางอยู่ข้างหน้าต่าง มันตกลงมาแตก เสียงไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้พวกเขากลัว รีบวิ่งปีนหนีกันออกไป ทว่าพลาดตกตาลีตาเหลือกหนีเสียงประหลาด หัวฟาดพื้นหวิดคอหัก ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย ขาอีกข้างของเขาถูกรั่วเหล็กเสียบเอาไว้
ผมยังคงเฝ้าสังเกตุการณ์จากความมืด แม้แสงอาทิตย์เริ่มจางลง แต่ผมก็ไม่คิดจะเปิดไฟภายในบ้าน มีเพียงดวงเดียวที่ส่องสว่างทั้งวันทั้งคืนคือดวงที่อยู่ตรงห้องครัวชั้นล่าง ผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานจนคุ้นชินกับมันเสียแล้ว แม้จะมืดมิดสักแค่ไหน ผมก็สามารถหลับตาเดินได้สบาย เพราะผมคือส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้
เสียงเอะอะโวยวาย หลังวัยรุ่นกลุ่มนั้นโทรให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตัดเหล็กออกแล้วพาเด็กคนนั้นไปส่งโรงพยาบาล
ดูแล้วคงไม่มีใครรับผิดชอบเรื่องรั้วของผมที่ถูกตัดออกไป
พวกเขาคงไม่รู้ว่ามีคนอยู่ในบ้าน พวกเขามองไม่เห็นผมที่ซ่อนตัวอยู่ในม่านเงา
คุณอาจคิดว่าผมจิตใจด้านชาที่เอาแต่ยืนดูคนเจ็บโดยไม่คิดช่วยอะไร...คุณว่าอย่างนั้นก็ได้ และผมจะไม่แก้ตัว ไม่ร้องขอความเห็นใจ อธิบายไปก็เหมือนแก้ตัว ครั้นออกไปช่วยก็เป็นฝ่ายผิด ดีไม่ดีจะว่าเป็นตัวต้นเหตุของเรื่อง ทั้งที่มันเป็นบริเวณหน้าบ้านของผมกับภรรยาแท้ๆ ไอ้พวกเวรนั้นต่างหากที่บุกรุกเข้ามา!!
ผมเบื่อพวกชอบเสือกเรื่องชาวบ้านมันนินทากันสนุกปากมากหรือไง คนเรามักเผลอคิดว่าตนรู้จักคนอื่นดี ด้วยการเติมแต่งจินตนาการลงไปทั้งที่ตัวเองไม่รู้จักเขาดีพอ อย่างผมคนก็มองว่าบ้า วิกลจริต สติไม่ดี เพียงเพราะชอบเก็บตัว น้อยคนนักที่จะเห็นใจและมองผมในแง่ดี เช่นกาเอ่ยชมในฐานะผู้ชายผู้มีจิตใจมั่นคงและศรัทธาในความรัก มั่นคง ศรัทธาและคนบ้า เดี๋ยวนี้เราแยกกันไม่ออก
ผมจะปล่อยให้เรื่องเหล่านั้นเป็นเพียงสายลมที่พัดมาและพัดไป พวกมันไม่รู้อะไรหรอก และอย่างที่บอก ผมไม่มีอะไรต้องแก้ตัว เพราะชินกับการโดดเดี่ยวของตัวเองมาพักใหญ่ ใครจะมองยังไงก็ช่าง ในเมื่อผมไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน เดี๋ยวนี้คนเรามันก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ
พรพรรณ ผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ เธอเป็นคนฉลาดและมีเสน่ห์ เราพบกันในงานแห่งหนึ่ง ผมก็ตกหลุมรักเธอทันที มนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอ
ดวงใจยังเจ็บทุกครั้งที่ระลึกได้ว่าเธอจากไป
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงไม่ยอมไปจากบ้านหลังนี้ เพราะทุกๆคืนจะได้พบเธอที่นี่ พรพรรณผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ เธอค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบขวดเหล้าที่อยู่บนชั้น เธอรินใส่แก้วด้วยสายตาเหม่อลอย สีหน้าของเธอดูเศร้าสร้อย ก่อนรอยยิ้มปริศนาที่มุมปาก รอยจางๆภาพจะเลือนราง เธอวางแก้วลงบนโต๊ะ นั่นคือสิ่งที่ผมเฝ้าดู เธอทำเช่นนี้ทุกคืน ทำซ้ำๆจนผมสามารถท่องจำได้ขึ้นใจ แต่โชคร้ายปลายเท้าไม่อาจทรงตัวได้ดี ร่างนั้นล้มลงและพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ยึดเหนี่ยว ตู้ไม้ใบใหญ่ที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เต็มถูกดึงจนเอนคว่ำทับร่างของเธอ ผมยืนมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้พรุ่งนี้เธอจะดื่มมันอีกไหม เธอดื่มหนักทุกวัน ทุกวัน ผมอ่านออกจากสีหน้า ผมไม่ได้บ้า ผมปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เป็นเพียงสายลมที่พัดมาและพัดไป เครื่องเรือนทุกชิ้นยังอยู่ในที่ของมัน ผมอยากให้ทุกอย่างคงสภาพเดิมไว้เช่นตอนเธอมีชีวิตอยู่ ผมไม่ต้องการให้ความทรงจำบิดเบือนไปจากเดิม
ผมเสียใจกับเหตุการณ์ในคืนนั้น คืนครบรอบแต่งงานของเรา ผมยังเฝ้ารอด้วยใจคิดถึง รอคอยการปรากฏตัวลึกลับของเธอ อยากจะไถ่ถอนความรู้สึกผิดที่ผมไม่เข้าไปห้ามเธอไม่ให้ดื่ม ผมกลับเอาแต่ยืนนิ่ง เธอไม่สำนึกหรือเห็นใจผมเลยสักนิดผมโกรธมากจนชั่ววูบหนึ่งก็ยินดีกับการตายของเธอ 'พรพรรณ ผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ' ผมอยากขอคืนดีกับเธอ แต่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อมาพบเธอยังเลือกดื่มไม่หยุด เป็นสิ่งที่น่าละอาย กำกระดาษในมือแน่นด้วยความโกรธ ไม่น่าเชื่อว่าผมจะคิดร้ายกับเธอถึงเพียงนี้ แต่ก็เป็นไปแล้ว ผมเดินไปหยิบแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะเหนือศพภรรยา ยกขึ้นมาดื่มอย่างมีชัย ผมเตือนเธอแล้วว่าเหล้ามันอันตราย สาเหตุที่ผมพลั้งพลาดไปนอกใจเธอก็เพราะเหล้านี่แหละ!!
ผมก้มดูศพเธอใกล้ๆ นึกสงสารเพราะเคยมีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน แต่อาการโหยหาอิสรภาพที่อัดอั้นอยู่ภายในก็กำลังเต้นระริก ผมจะได้เป็นอิสระจากพันธะทั้งปวง ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างที่ใจอยาก ไม่ต้องคอยกุเรื่องโกหก เธอตายแล้ว ผมลุกขึ้นจับชีพจรตรงข้อมือเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีทางฟื้น ผมวางแก้วไว้บนโต๊ะ หันกลับเพื่อจะเดินออกไปโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่เท้าเจ้ากรรมของผมดันเหยียบเหล้าบนพื้นลื่นหัวกระแทกพื้นตาย
พรุ่งนี้ผมจะมารอเธออีก
ว่ากันว่าคนที่ตายอย่างกะทันหัน วิญญาณจะยังไม่รู้ตัว จึงต้องกระทำซ้ำๆ จนกว่าจะมีคนมีอุทิศส่วนกุศลให้
แต่ฉันไม่ยอมให้เขาไป.....
แหล่งที่มา: