สยองเลย สาวอยากสวยเก๋ไปจัดฟันในราคา 1,500 บาท สุดท้ายปากเป็นหนองบวมเป่ง

19 มีนาคม 2562 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ  รายงานว่า หมอชาวมาเลเซียที่ชื่อ อซิลา ได้โพสต์แชร์เรื่องราวของคนไข้รายหนึ่งที่มารักษากับเธอ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกๆ คน โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่คิดจะไปจัดฟันเถื่อนเพื่อความสวยงาม ว่าผลลัพธ์ของมันนั้นเลวร้ายกว่าที่คิด และไม่คุ้มค่าเลยกับสุขภาพที่เสียไป เช่นเดียวกับคนไข้หญิงคนนี้ ที่ต้องมาเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจเพราะมัน

หมออซิลา กล่าวว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อยตัดสินใจจัดฟัน ทั้งที่ฟันของตัวเองปกติดี ไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไข เพราะอยากสวยงามตามเทรนด์แฟชั่น แต่การจัดฟันที่คลินิกมีราคาสูง ดังนั้นร้านจัดฟันเถื่อนจึงเป็นทางออก และมันก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยคนไข้รายนี้เป็นหญิงชาวเมืองยะโฮร์ ทางตอนใต้สุดของมาเลเซีย เพื่อนร่วมงานของเธอต่างก็จัดฟันกันตามเทรนด์ทุกคน ยิ้มทีก็จะเห็นเหล็กหลากหลายสีสัน เธอจึงอยากจัดฟันแฟชั่นกับเขาบ้าง 

หญิงสาวค้นหาข้อมูลการจัดฟัน กระทั่งพบกับร้านจัดฟันแห่งหนึ่ง เจ้าของร้านเป็นผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นหมอฟัน เธอติดต่อไปพูดคุยเรื่องราคากับเขา และตกลงค่าใช้จ่ายในการทำอยู่ที่ 190 ริงกิต หรือประมาณ 1,500 บาท (อ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) โดยเขาเดินทางมาทำให้ถึงบ้าน 

หญิงสาวพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ หญิงสาวก็มีแผลในปาก ริมฝีปากด้านในบวมฉึ่ง เป็นหนอง สร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เธอยังมีอาการไข้สูงมาก และนอนซมติดเตียงเป็นเวลานานถึง 3 วัน ลุกไปไหนไม่ได้เพราะพิษไข้ 

หญิงสาวได้ติดต่อไปยังผู้ชายที่จัดฟันให้กับเธอ และเล่าอาการให้เขาฟัง ชายที่อ้างเป็นหมอฟันกล่าวว่า มันเป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป มันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และบอกหญิงสาวว่าไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆ แต่อาการของเธอกลับแย่ลง ไม่มีทิศทางว่าจะดีขึ้น

เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปหาหมอ และถูกเจาะเลือดไปตรวจ ผลตรวจเลือดระบุว่าเธอติดเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นผลมาจากเหล็กจัดฟันเถื่อนในปากของเธอ และหญิงสาวก็ต้องแอดมิตนอนโรงพยาบาลอยู่ 2 คืน 

หลังออกจากโรงพยาบาล หญิงสาวเดินทางไปพบหมอฟันเพื่อนำเหล็กจัดฟันเถื่อนออก และต้องเสียค่าใช้จ่ายไป 650 ริงกิต หรือกว่า 5,000 บาท 

เรื่องนี้นับเป็นบทเรียนอันเจ็บปวดครั้งใหญ่สำหรับเธอ ซึ่งเธอคงไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต และคงไม่คิดกลับไปจัดฟันเถื่อนอีกแล้ว และถ้าหากเธอเชื่อคำพูดของหมอฟันเถื่อนว่ามันเป็นอาการปกติ แล้วไม่ยอมไปหาหมอ ทนต่อไปเรื่อย ๆ อาการของเธออาจลุกลามบานปลายหนักกว่าเดิม และอาจถึงขั้นร้ายแรงถึงชีวิต