หนุ่มขับเก๋งโผล่ก้มกราบขอโทษ เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ วอด 80 ล้าน ลั่น ไม่เคยคิดโกรธเคือง
จากกรณี รถเก๋งพุ่งชนร้านบางกอกลิฟวิ่งมอลล์ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเกิดไฟลุกไหม้รถเก๋ง และลุกลามไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด โดยประมาณค่าเสียหายประมาณ 80 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.พ.62 ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพนักงานสอบสวน ได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพบกันเป็นครั้งแรกเพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหาย โดย นายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี หรือ แบงค์ เดินทางมาพร้อมกับพ่อและแม่ และยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ มีผ้าพันแผลที่ใบหน้าและที่คิ้วซ้ายที่จมูกและที่มือ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย พร้อมกับเตรียมดอกไม้มาขอขมาเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์
ทั้งนี้ วินาทีและความประทับใจและความซึ้งใจก็เกิดขึ้น เมื่อ นายอัชอารีย์ วันอับดุลเลาะฮ์ เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์เดินทางเข้ามายังห้องพนักงานสอบสวน และทั้งสองฝ่ายได้พบพบหน้ากันเป็นครั้งแรก ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกได้ยกมือไหว้ นายอัชอารีย์ เพื่อขอโทษ โดยเฉพาะ นายพฤหัส กับนางนงลักษณ์ ซึ่งเป็นแม่ถึงกับทรุดตัวก้มลงกราบเท้า นายอัชอารีย์ และร้องไห้พร้อมกับคำขอโทษตลอดเวลา
ในขณะที่ นายอัชอารีย์ ก็รับคำขอโทษและพยายามที่จะพยุงร่างของทั้งสองแม่ลูกขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และยังบอกว่าได้ให้อภัยตั้งแต่วันแรกแล้วไม่เคยถือโทษโกรธแค้น และความผิดพลาดทั้งหมดก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว และหาวิธีแก้กันต่อไป และบอกให้นายพฤหัส รวมทั้งพ่อและแม่ไม่ต้องเครียด และให้อภัยทุกคนด้วยความเต็มใจ และนายพฤหัส ก็ได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อแสดงความขอโทษด้วยความบริสุทธิ์ใจ
นายพฤหัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตัวเองเครียดมากทำอะไรไม่ถูกและที่ผ่านมาก็คิดที่จะมาพบและขอโทษแต่เครียดมากไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร และขออภัยทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างไร และขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นายอัชอารีย์ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องค่าเสียหายจำนวน 80 ล้านบาทนั้น ก็จะดูว่าทางครอบครัวนี้มีความสามารถที่จะจ่ายได้แค่ไหนก็คงจะให้จ่ายเท่าที่จะจ่ายได้ ส่วนเรื่องคดีแพ่งก็ต้องว่ากันอีกทีหลังจากที่ได้ข้อสรุปหลังจากที่มีการคุยกันแล้ว
อย่างไรตาม ในทางคดีพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี นายพฤหัส ใน 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและจะคุมตัวส่งฟ้องศาลในวันจันทร์นอกจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะมาพบ และคุยกันเรื่องค่าเสียหายแล้ว ยังมีเจ้าของร้านเหล็กที่อยู่ติดกันซึ่งได้รับความเสียหายราว 1,500,000 บาทก็มาเจรจาเรื่องค่าเสียหายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายยงานว่า มีประโยคหนึ่งที่นายอัชอารีย์ บอกกับครอบครัวของนายพฤหัสว่า "เราอยู่ในโลกใบเดียวกันก็เหมือนอยู่บ้านเดียวกัน"
นายอัชอารีย์ เปิดเผยว่า การที่น้องและครอบครัวมาขอโทษตนเองก็อภัยให้ด้วยความเต็มใจ ส่วนเรื่องขอความเสียหายหลังจากนี้ก็จะคุยกันว่าตัวน้องและครอบครัวจะว่าอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะเจรจาตั้งแต่แรกแล้วส่วนเรื่องของการอภัยก็อภัยให้หมดแล้ว เพราะความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ