พลอยไพลิน ผู้สมัคร ส.ส. ยัน “ตนไม่ใช่ไซด์ไลน์” เตรียมผลักดันอาชีพ “พริตตี้เต็มที่”
พลอยไพลิน รัตนสเถียร ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม เปิดใจ หลังเจอกระแสถล่ม ยันไม่ใช่ไซด์ไลน์ เตรียมผลักดัน พริตตี้ ขึ้นทะเบียนอาชีพ ชี้เป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้น่ารังเกียจ
เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก เมื่อมีการเผยภาพ พลอยไพลิน รัตนสเถียร หรือ คำแก้ว ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.มหาสารคาม พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ลงสู้ศึกเลือกตั้ง 2562 เพราะหลายคนมองว่า ไม่เหมาะสม เนื่องจากเคยถ่ายภาพแนวเซ็กซี่มาก่อน
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์ ไบรท์ทีวี ช่อง 20 ได้เผยสัมภาษณ์ พลอยไพลิน ถึงประเด็นนี้ ซึ่งเธอก็บอกว่า ความรู้สึกตอนแรกคือเสียใจ แต่ตอนนี้เราเหมือนมีแรงฮึด ผลักดันตัวเองมากขึ้นที่จะเข้ามาทำในจุด ๆ นี้ ทางพรรคได้ให้โอกาสหนูมาแล้ว หนูรู้สึกอยากจะทำให้เขาได้เห็นว่าอาชีพของหนูก็ไม่ได้น่ารังเกียจหรือมีผลเสียต่อสังคม อาชีพของหนู ก็เป็นอาชีพสุจริต ยิ่งกระแสมองอาชีพหนูในทางลบ ก็ยิ่งผลักดันให้หนูอยากก้าวเข้ามาในจุด ๆ นี้ค่ะ
เท่าที่ดูกระแสตอนนี้มีทั้งด้านลบ และด้านบวก ในด้านบวกคนก็มองว่าเราทำอาชีพสุจริต เราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำเพื่อครอบครัว เราหาเงิน หาเลี้ยงครอบครัวของเราด้วยอาชีพที่ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ปล้นหรือชิงทรัพย์ใครเขามา เราทำด้วยแรงกายของเรา คนอาจจะมองว่าอาชีพหนูต้องสวยอย่างเดียว แต่มาทำจริง ๆ ไม่นะ อาชีพหนูต้องมีไหวพริบแก้ปัญหาต่าง ๆ ต้องมีความสามารถรับแรงกดดันในการทำงานได้ค่อนข้างสูง ส่วนด้านลบคนจะมองว่าเหมือนไซด์ไลน์ แต่ไม่ใช่แน่นอนค่ะ
หนูอยากผลักดันให้อาชีพพริตตี้อยู่ในทะเบียนอาชีพ สามารถที่จะทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากอาชีพทั่วไป สามารถรับรองได้ว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง สามารถทำได้ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ๆ ในสังคมไทยเรา และในส่วนธุรกิจออนไลน์ ก่อนหนูจะมาเป็นพริตตี้หนูเคยทำธุรกิจออนไลน์มาก่อน หนูก็มองว่ามันเป็นโอกาสหนึ่งที่ทำให้เด็กรู้จักหาเงินด้วยตัวเอง มันไม่เสียหายเลยทีจะทำ หนูเลยอยากให้ธุรกิจนี้ก้าวเข้ามาเป็นธุรกิจที่มั่นคง ทุกคนสามารถเอามาเป็นอาชีพหลักได้
สำหรับในพื้นที่ตอนนี้ ถ้ามุมมองนักศึกษาตอนนี้ก็ตกใจฮือฮา แบบเราเป็นใคร ทำไมเราสมัครแล้วถ่ายรูปแบบนี้ หนูก็เข้าใจว่าการที่เราจะมาอยู่จุดนี้เราต้องมีการวางตัวให้เหมาะสม แต่หนูต้องบอกว่าในชีวิตปกติของหนู หนูก็ไม่ได้เป็นคนที่วางตัวไม่เหมาะสม ที่จะไม่รู้กาลเทศะ แต่เมื่ออยู่ในอาชีพ ในการทำงาน ถ้าเขาจ้างเราแล้ว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด ก็คิดว่าเด็กทุกคนที่เห็นก็น่าจะเริ่มเข้าใจและเปิดรับได้
แหล่งที่มา: http://brinknarak.com