ในโมงยามสุดท้ายของ ISIS นั้นทัพเคิร์ดกำลังมีปัญหามากในการจัดการครอบครัว ISIS หลายหมื่นคนที่มายอมแพ้โดยเฉพาะที่เป็นชาวต่างชาติ พวกนี้มี่ที่มาหลากหลายถึง 49 ประเทศทุกคนทำลายพาสปอร์ตเดิมของตัวเองทิ้ง (เพราะตอนแรกตั้งใจย้ายมาเป็นประชากรของประเทศ ISIS นั่นแหละ) ทำให้ยืนยันตัวยากมาก
ฝ่ายเคิร์ดเห็นว่าพวกนี้มายอมแพ้แล้วก็อยากมีมนุษยธรรม แต่เลี้ยงไว้ก็เปลืองและมีอันตราย ครั้นพยายามส่งตัวกลับประเทศต่างๆ ประเทศเหล่านั้นกลับพากันปฏิเสธ
ตัวอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงคือสาวอังกฤษ ชื่อ ชามิมา เบกัม เธอหนีมาสวามิภักดิ์ ISIS ตั้งแต่อายุ 15 จนตอนนี้อายุสิบเก้าแล้วกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอเป็นกลุ่มท้ายๆ ที่หนีมาหาเคิร์ด
“ฉันไม่เสียใจที่เคยเข้าร่วมประเทศของกาหลิบ” เบกัมกล่าว “ฉันไม่ใช่คนอ่อนแอ ฉันไม่หวาดกลัวแม้จะเคยเห็นศีรษะมนุษย์ถูกทิ้งในถังขยะ”
“แต่สิ่งที่ทำให้สะเทือนใจบ้างคือลูกของฉันสองคนก่อนหน้านี้ป่วยตายท่ามกลางภาวะสงคราม”
“ชีวิตในรัฐกาหลิบไม่แย่ แม้จะถูกทิ้งระเบิดตลอดเวลา แต่รวมๆ แล้วไม่ต่างจากที่คาดหวังมาก”
“แต่พวกเขา (หมายถึงรัฐบาล ISIS) นั้นคอรัปชันมากจนไม่สมควรที่จะชนะ”
ชามิมายังบอกว่าไม่แปลกใจที่ ISIS แพ้ ไม่เสียใจกับทางเดินที่ผ่านมา ตอนนี้อยากทำทุกอย่างเพื่อกลับอังกฤษ ขอสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ กับลูก ไม่เอาแนวคิดก่อการร้ายไปเผยแพร่
แน่นอนว่ารัฐบาลอังกฤษไม่อยากให้เธอกลับ บอกว่าคนที่ตัดสินใจไปเป็นประชากรของ ISIS แล้วแปลว่าเกลียดประเทศอังกฤษมาก แค่ตอนนี้กลัวลำบากเลยกลับมา อย่างไรก็ตามในทางกฎหมายนั้นพวกเขาจะสามารถยับยั้งเบกัมจากการกลับประเทศได้หรือไม่ยังเป็นปัญหาอยู่
คำถามคือเมื่อรัฐกาหลิบไม่มีแล้ว ควรจะจัดการกับประชากรของรัฐกาหลิบที่เข้าขั้นฮาร์ดคอร์เหล่านี้อย่างไรดี? เคิร์ดไม่อยากฆ่า ไม่อยากเลี้ยง ประเทศแม่ก็ไม่อยากรับ
พวกเขาจะมีชะตากรรมอย่างไรต่อไป?
ภาพแนบ: ชามิมา เบกัม