หนองในแท้ และหนองในเทียม
หนองในเกิดจากเชื้อแบคทีเรียมักจะแสดงอาการในผู้ชายโดยจะมีอาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองไหล ในบางรายอาจมีการติดเชื้อที่ตา หรือคอได้ ถ้าไม่รักษาอาการอาจทุเลาลง แต่จะลุกลามไปที่อวัยวะใกล้เคียงเช่นอันฑะ ก่อให้เกิดอันฑะอักเสบจนกระทั่งเป็นหมันได้
หนองในแท้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Nesseria gonorrhoeae
หนองในเทียมเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย chlamydia trachomatis
โดยทั้งสองโรคไม่้สามารถแยกโรคได้ด้วยการดูรอยโรค หรือฟังจากอาการ ต้องทดสอบโดยห้องปฎิบัตการเท่านั้นดังนั้นการรักษา จะทำการรักษาทั้งสองโรคในคลาวเดียวกัน และรักษาทั้งผู้หญิง และผู้ชาย
การรักษา
หนองในแท้ (แพทย์จะจ่ายยาชนิดใดชนิดหนึ่งให้ผู้ป่วยขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์)
1.อะซิโทรมัยซิน(Azithromycin) กิน 1,000 มิลลิกรัม ครั้งเดียว( ยากิน จำนวน 4แคปซูล)
2.ซิโปรฟล็อกซาซิน (Ciprofloxacin) กิน 500 มิลลิกรัม ครั้งเดียว
หนองในเทียม (แพทย์จะจ่ายยาชนิดใดชนิดหนึ่งให้ผู้ป่วยขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์)
1.ด็อกซีไซคลิน (Doxycyclin) กินครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2ครั้ง เช้า เย็น ติดต่อกัน 14 วัน
2.อะซิโทรมัยซิน(Azithromycin) กิน 1,000 มิลลิกรัม ครั้งเดียว( ยากิน จำนวน 4แคปซูล) *วิธีนี้อาจได้ผลไม่ถึง 100% เนื่องจากเชื้ออาจดื้อยาได้
สรุปการรักษา หนองในแท้ หนองในเทียมโดยส่วนใหญ่ แพทย์จะจ่ายยามาให้ 2 ขนานเช่นให้Ciprofloxacin กิน 500 มิลลิกรัม ครั้งเดียว คู่กับ Doxycyclin 100 มิลลิกรัม วันละ 2ครั้งติดต่อกัน 14 วันโดยให้ผู้ป่วยกินต่อเนื่องจนยาหมด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม ที่สำคัญงดการมีเพศสัมพันธ์ทุกกรณี รวมถึงการรักษาคู่นอนด้วย
อาการแสดง ในผู้ชาย ปัสสาวะแสบขัดมีหนองขุ่นข้นไหลจากท่อปัสสาวะ โดยพบว่าผู้ป่วยมีประวัติไม่สวมถุงยางอนามัย อาจจะติดผ่า่นการออรัลเซ็กซ์ได้หากฝ่ายหญิงมีเชื้ออยู่ในลำคอ หากไม่ทำการรักษาอาการอาจทุเลาลง แต่จะลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงเช่นอัณฑะ ทำให้เกิดการอักเสบหรือเป็นหมันได้ในอนาคต นอกจากนั้นอาจจะมีการติดเชื้อที่เนื้อเยื่ออ่อนที่ตา หรือลำคอได้โดยอาจมีหรือไม่มีหนองไหลออกมาก็ได้ แต่จะมีอาการตาแดง อักเสบ
อาการแสดงในผู้หญิง ส่วนใหญ่จะมีอาการตกขาว กลิ่นเหม็น ปัสสาวะอาจมีอาการแสบขัด หรือ ท่อปัสสาวะ ปากมดลูกอาจมีอาการอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษาโรคอาจลามไปที่อุ้งเชิงกราน เกิดฝีบวมโต ปีกมดลูกอักเสบ ท่อนำไข่อุดตันอาจส่งผลให้เป็นหมันได้ในอนาคต
ทารก อาจพบอาการผิดปกติที่ตาในทารกแรกคลอดได้ หากมารดามีเชื้ออยู่ โดยเชื่อจะเข้าตาเด็กขณะคลอดผ่านช่องคลอด ทำให้เกิดอาการตาอักเสบ หากไม่รักษาอย่างถูกต้องเด็กอาจตาบอดได้
การป้องกันโรค
1.สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
2.หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการติดโรค
3.เมื่อพบว่าเป็นโรคหนองในควรรับการรักษาทันทีโดยทำการรักษาทั้งตนเองและคู่นอน
4.กินยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด