ให้ผมกราบผมก็ยอม! โน้ต เชิญยิ้ม ทนไม่ไหว ดราม่าครอบครัวชูษี ลั่นกลับมารักกันเถอะ
หลังจากที่ตลกดัง ชูษี เชิญยิ้ม ออกมาประกาศตัดพ่อ ตัดลูกกับลูกสาว น้องบูม จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล ล่าสุด โน้ต เชิญยิ้ม ตลกรุ่นใหญ่ที่อยู่ในวงการมายาวนาน และสนิทกับครัวนี้มากๆ ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวผ่านทางรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31
หลายคนทราบอยู่แล้วเรื่องชูษี ตัดขาดลูกสาว ส่วนตัวคิดว่าแรงไปไหม?
โน้ต : ผมว่ายังไงก็ตัดกันไม่ขาด ถึงปากจะพูดยังไงแต่หัวใจไม่ได้พูด เผลอๆ เขาทั้งคู่หัวใจร้องไห้ คือน้ำตาที่ออกมา จริงๆ มันคือหัวใจนะ เพียงแต่มันไม่มีสี ชูษีเป็นคนที่รักลูก รักครอบครัว เพียงแต่ภาพที่ออกมาเขาไม่ได้รับผิดชอบอะไร แต่คนบ้านนอกทุกคนลูกสำคัญที่สุด สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดคือสถาบันครอบครัว เพราะมันเป็นสิ่งที่เปราะบางมาก ซึ่งผมคิดว่าถ้าคนเราดูแลสถาบันครอบครัวให้มีความสุขไม่ได้ เราไปทำงานใหญ่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ทำไมถึงสนิทกับครอบครัวนี้?
โน้ต : ชูษีเหมือนน้อง เหมือนลูกศิษย์ ชื่อผมก็เป็นคนตั้งให้ มาอยู่เชิญยิ้มกับผมในยุคแรกๆ คือไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ส่วนทางนก วนิดา ทางพ่อ แม่ เขาก็เป็นลิเกเหมือนกับผม แล้วนกโตมาจากลิเกแล้วมาเป็นตลกมาอยู่กับเพชรดาราฉาย เสร็จแล้วก็ดึงเข้าไปอยู่ รายการก่อนบ่ายคลายเครียด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไม่ลืมบุญคุณนก วนิดา เลยช่วงที่ทำลูกทุ่งแล้วเจ๊งไม่เป็นท่า บ้านแทบจะถูกยึด ลูกต้องหยุดเรียน เป็นหนี้ไปกู้เขาร้อยละยี่สิบ เอาเช็คไปแลก ทบต้นทบดอก เงินแทบจะไม่มี นก วนิดา เราเคยช่วยเขา รถที่เขาผ่อนหมดแล้ว เขาขับมาให้ผม แล้วบอกว่าเอารถไปเข้าไฟแนนซ์
พอเรื่องของชูษีบานปลายหนึ่งในสองมีใครมาปรึกษาบ้าง?
โน้ต : ผมได้คุยกับชูษีบ้าง ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ ถ้าเราต่างคนต่างพูด ถามว่าเราได้อะไรมั้ย จริงๆ ในความเป็นพ่อ เป็นลูกด้วยสายเลือด ผมว่าค่อยๆ พูดกันดีกว่า เมื่อสองวันที่แล้วผมประชุม 39 เชิญยิ้ม อยู่กับเป็ด เชิญยิ้ม ก็เกี่ยงกันว่าเราจะเป็นโซ่ข้อกลางได้ขนาดไหน แต่ถ้าเป็นไปได้ผมจะเชิญเขามารายการนี้ พ่อ แม่ ลูก แล้วผมกับเป็ดจะมาด้วย มาคุยกันเลย ในความเป็นจริงชูษีเขาเป็นคนดีมาก เป็นคนที่รักครอบครัว ถึงแม้เขาจะหย่าร้างกัน แต่บางครั้งสิ่งที่ชูษีได้ยินเข้าหูเกี่ยวกับลูกของเขามันแง่ลบมากกว่าแง่บวก พอพ่อไปพูดฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง บางทีก็เฉยฟังแต่ไม่ปฏิบัติ พ่อก็ทนไม่ไหวไม่รู้จะอธิบายยังไงเขาก็ระบายออกทางโซเชียล ผมอยากให้เขามาเจอกันในรายการคุยแซ่บ พูดกันแบบสดๆ เลย ผมอยากจะฝากถึงน้องบูมว่า ดูชูษีอย่าไปฟังที่ปากให้ดูที่หัวใจ
คือมันมีบางกระแสบอกว่า น้องบูม เป็นเด็กก้าวร้าว?
โน้ต : เป็นเด็กดื้อดีกว่า มนุษย์เราเกิดมาถ้าดื้อแล้วเชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองทำถูก ถ้าคนอื่นไปพูดแล้วยังทำอยู่ แล้วพอพ่อไปพูดก็ยังทำ คนก็เลยคิดว่าเด็กคนนี้ก้าวร้าว ทั้งนี้การก้าวร้าวทุกอย่างมันมีเหตุและผล ผมว่าทั้งสามคนที่กำลังเถียงกันอยู่ ผมใช้คำว่ามันน่าสงสาร ด้วยจิตด้วยสมอง หัวใจสั่งงานแล้วสมองคิดแล้วมือพิมพ์ มันง่าย พิมพ์เสร็จปล่อยไปแล้วมันแก้ไม่ได้
เป็นคนกลางอึดอัดไหม?
โน้ต : อึดอัดมาก อึดอัด สงสาร เห็นใจ ห่วงหา อาทร ห่วงใยว่าไม่เกิดเรื่องแบบนี้ได้ไหม เรื่องแบบนี้ไม่มีได้ไหมกับพวกเรา พวกเราเป็นตลกขายขำ เราเป็นคนที่เอารอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปแลกเป็นเงินมา แล้วถ้าเกิดคุณมาทำแบบนี้ แล้วถ้าประชาชนเขาเสื่อมขึ้นมา แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น ตลกอ่ะต่อให้เล่นขำแค่ไหน ถ้าคนดูไม่ชอบ ไม่ศรัทธาทำยังไงก็ไม่ขำ อีกสองวันผมจะเจอกับครอบครัวนี้แล้วผมจะพูด แต่ผมจะปรึกษาคุณเป็ด เชิญยิ้มอีกทีว่าจะพูดวิธีไหนให้สองฝ่ายเข้าใจว่าที่พูดไม่ได้สอนหรือห้ามนะ อยากให้เขาคิดว่านี่คือคำแนะนำที่ดีที่โน้ต และเป็ด เชิญยิ้ม ได้ยินมาถามว่าเราทรมานมั้ย ทรมาน อึดอัดมั้ย อึดอัด แต่เราสงสารทั้งสองครอบครัว
ถ้าเกิดเขาดูอยู่อยากบอกอะไรกับเขา?
โน้ต : ผมอยากจะกราบเขามากกว่า จริงๆ ผมอยากจะกราบชูษี และกราบนก วนิดา กราบไอ้บูมด้วย ผมกล้ากราบนะให้เอ็งมารักกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็รักกันได้ แล้วก็เลิกที่จะพูดในสิ่งที่ไม่จำเป็นให้คนอื่นรู้ ถ้าพ่อ แม่ ลูก ไม่กราบกัน ผมก็จะกราบเขาในรายการนี้