ยิ่งกว่าพรหมลิขิต หญิงพบรักกับชายคนที่เคย “มีลูก” จากสเปิร์มกับเขาเมื่อ 12 ปีก่อน
สำหรับคนที่มีความรักต้องลองอ่านบทความดีๆของคู่รักคู่นี้ดูค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องราวของหญิงสาวชาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่ได้พบรักใหม่กับชายคนหนึ่ง หลังจากเคยมีลูกกับเขาเมื่อ 12 ปีก่อน ผ่านการบริจาคสเปิร์ม เพื่อให้เธอสร้างชีวิตครอบครัวกับคนรักในอดีต
ย้อนกลับไปในช่วงหลายสิบปีก่อน เจสสิก้า แชร์ คิดว่าชีวิตของเธอนั้นสมบูรณ์พร้อมแล้ว หลังจากที่ได้แต่งงานกับหญิงคนรัก ใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะคู่รักร่วมเพศที่บ้านในรัฐออริกอน พวกเธอวางแผนชีวิตไว้พร้อม ตั้งใจจะมีลูกด้วยกันด้วยวิธีการผสมเทียม แต่ใครจะคาดคิดว่าหลังจากนั้นโลกของเจสสิก้าจะพังทลายลงในพริบตา เมื่อแฟนสาวเลือกที่จะทิ้งเธอไป ปล่อยให้เธอต้องใช้ชีวิตในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวหลังจากนั้น แต่ใครจะคิดว่าการจากลาครั้งนั้น จะกลับตามมาด้วยการพบเจอสุดอัศจรรย์ เมื่อเจสสิก้ามีอันได้พบรักครั้งใหม่ กับชายที่เธอเคยมีลูกเป็นสายเลือดของเขาเมื่อ 12 ปีก่อน
เรื่องราวชีวิตของเจสสิก้าถูกนำมาบอกเล่าผ่านเว็บไซต์มิเรอร์ โดยเผยว่า ในตอนที่ชีวิตสมรสของเจสสิก้ากับแฟนสาวยังหวานชื่นดีนั้น พวกเธอตั้งใจที่จะมีลูกด้วยกันถึง 4 คน และได้เตรียมตั้งชื่อไว้ให้เด็ก ๆ จนพร้อมแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปปรึกษาศูนย์ผสมเทียม ในตอนนั้นพวกเธอได้เฟ้นหาผู้บริจาคที่มีคุณสมบัติที่ต้องการ จนกระทั่งสะดุดตากับผู้บริจาคหมายเลข 2008 ที่เขียนบรรยายตัวเองไว้ว่า เขาเป็นทั้งนักเขียน นักดนตรี และคนขับแท็กซี่ พวกเธอจึงตกลงใจที่จะใช้สเปิร์มจากผู้บริจาครายนี้ มาทำการผสมเทียมเข้ากับไข่ของเจสสิก้า ซึ่งหลังจากความพยายามนานถึง 7 เดือน ในที่สุดเจสสิก้าก็ได้ตั้งครรภ์สมใจ
การได้มีลูกคนแรกด้วยกัน ทำให้เจสสิก้ากับแฟนสาวรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งในตอนที่เด็กน้อยเกิดมา เธอก็แทบไม่ต่างจากนางฟ้าตัวน้อย เจสสิก้าตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า อลิส จากนั้นอีก 18 เดือนต่อมา เจสสิก้ากับแฟนสาวก็มีลูกสาวด้วยกันอีกคน จากสเปิร์มของผู้บริจาครายเดียวกัน โดยครั้งนี้ฝ่ายแฟนสาวเป็นผู้ตั้งครรภ์เอง เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คนเกิดขึ้นจากพ่อคนเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่มีลักษณะที่คล้ายกันอย่างมาก ทั้งส่วนสูงที่โดดเด่นกว่าเด็กคนอื่น ผมยาว ปากบาง จมูกเล็ก และดวงตาเป็นประกาย
เจสสิก้ารักลูก ๆ มาก แต่แล้วในปี 2553 โลกของเจสสิก้าก็พังทลายลง เมื่อแฟนสาวเลือกจะตีจาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะยอมสลับกันเลี้ยงดูเด็ก ๆ ในแต่ละสัปดาห์ แต่หลังจากเวลาผ่านไป 7 ปี ขณะที่อลิสอายุ 10 ขวบ อดีตคนรักของเธอก็ขอตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวคนโตอีกต่อไป แถมยังไม่ยอมให้เจสสิก้าเจอหน้าลูกสาวคนเล็กอีกเลยนับจากนั้น
ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว เจสสิก้าต้องพยายามเดินหน้าต่อไปเพื่อตามหาความสุขในชีวิตอีกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องยากเต็มที แต่เหมือนโชคชะตาเป็นใจ เมื่อในวันหนึ่ง อลิส ลูกสาวของเธอ เกิดได้ฟังเรื่องราวลักษณะการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากยายของเธอ ทำให้เด็กน้อยอยากรู้ขึ้นมาว่าชายที่เป็นพ่อโดยกำเนิดของเธอนั้นเป็นใคร ดังนั้นในวันคริสต์มาสปีนั้น อลิสก็ได้ขอของขวัญเป็นชุดตรวจดีเอ็นเอ
หลังจากนำตัวอย่างดีเอ็นเอส่งให้บริษัทที่จะทำการตรวจสอบให้ ใน 8 สัปดาห์ต่อมา อลิสกับเจสสิก้าก็ได้ทราบผลว่า ชายอเมริกันชื่อ แอรอน ลอง มีพันธุกรรมที่เข้ากับอลิสได้ถึง 50% เจสสิก้าจึงได้สืบหาเรื่องของชายคนนี้มากขึ้น จนไปเจอรูปของเขาในโซเชียลมีเดีย ตอนนั้นเองที่เธอมั่นใจว่าเขาต้องเป็นผู้บริจาคหมายเลข 2008 ที่บริจาคสเปิร์มแก่เธอ เพราะลักษณะของเขานั้นช่างดูเหมือนกับอลิสอย่างมาก
เจสสิก้าจึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึงเขา แล้วทั้งคู่ก็เริ่มต้นคุยกันนับตั้งแต่ปี 2560 โดยเจสสิก้ากับแอรอนตกลงที่จะเป็นเพื่อนกันในโซเชียล จนกระทั่งวันหนึ่ง แอรอนตัดสินใจที่จะลองตามหาเด็กคนอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นลูกที่เกิดจากการบริจาคสเปิร์มของเขา แล้วก็เชิญทั้งหมดมาร่วมปาร์ตี้ด้วยกัน ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสเจอหน้าเขากับพี่น้องคนอื่น ๆ
เจสสิก้าก็พาอลิสไปร่วมงานด้วย และนั่นทำให้เธอได้พบกับแอรอนเป็นครั้งแรก…
“เขาดูเป็นคนที่ฉันรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก ด้วยลักษณะและท่าทางของเขาที่คล้ายกับอลิส เด็กน้อยที่ฉันรู้จักและมอบความรักมาให้นานเป็นสิบปี” เจสสิก้า เผย
หลายสัปดาห์หลังจากนั้น เจสสิก้ามีปัญหากับเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นช่วงที่อพาร์ตเมนต์ของแอรอนมีห้องว่างพอดี เธอจึงได้ตัดสินใจย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งเดียวกับเขา การได้อยู่ใกล้กันทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น จนในที่สุดก็พัฒนาขึ้นเป็นความรัก และการเริ่มต้นคบหากัน ขณะนี้เจสสิก้า วัย 42 ปี กับแอรอน วัย 52 ปี ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข กับอลิส ลูกสาวที่เกิดขึ้นจากสายเลือดของพวกเขาทั้งคู่ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้อลิสจะยังรู้สึกว่าแอรอนเป็นเพียงแฟนของแม่ ไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิด แต่ทั้ง 3 คนก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี และจะยังคงเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่แสนสุขกันต่อไปในอนาคต