รวม 13 ภาพตึกระฟ้า ที่จะทำให้ชาวโลกต้องตะลึง!
Q1 — Gold Coast, Australia
View this post on Instagram
อาคาร Q1 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สถานที่สำคัญ ของรัฐควีนส์แลนด์ ในเรื่องของ “ ความสำเร็จทางวิศวกรรมที่โดดเด่น” เป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดเป็นอันดับหกของโลก และสูงที่สุดในออสเตรเลียและซีกโลกใต้ ซึ่งการออกแบบของอาคารนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากคบเพลิงโอลิมปิกที่ซิดนีย์ ในปี ค.ศ. 2000
Kingdom Center — Riyadh, Saudi Arabia
อาคารแห่งนี้ เป็นอาคารที่สูงที่สุดอันดับสามของโลก มีช่องเปิดขนาดใหญ่ ประดับด้วยไฟในเวลากลางคืน สามารถเปลี่ยนสีเองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนโค้งกลับด้านบนนั้นถูกขนานนามว่าเป็น "สร้อยคอ" ของเมืองแห่งนี้
Lakhta Center — Saint Petersburg, Russia
อาคารแห่งนี้ มีความสูงอยู่ที่ 1,516 ฟุต เป็นอาคารที่สูงที่สุดในรัสเซียและในยุโรป เป็นอาคารที่ไม่เหมือนใครและเป็นตึกระฟ้าที่อยู่ในเขตเหนือที่สุดของโลก ซึ่งการเทคอนกรีตของฐานรากของอาคารนั้นได้รับการขึ้นทะเบียน Guinness World Record ว่าเป็นงานเทคอนกรีตต่อเนื่องที่ใหญ่ที่สุด แรงบันดาลใจในการออกแบบคือการรวม หลายๆ อย่างเข้าไว้ด้วยกัน เช่น ดอกไม้, เปลวไฟ, คบเพลิงน้ำแข็ง, ประภาคาร, และยอดแหลม
Al Noor Tower — Casablanca, Morocco (อยู่ในขั้นตอนการเสนอ)
อาคารที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเสนอนี้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะกลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา โดยเป็นแนวความคิดของนักออกแบบชาวฝรั่งเศสชื่อ Amédée Santalo ซึ่งการออกแบบของอาคารแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกับปากกาหมึกซึม - เป็นสัญลักษณ์ในการเขียนอนาคตของแอฟริกาโดยเจ้าของ Sheikh Tarek bin Laden
Moscow State University — Moscow, Russia
อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเรียนที่สูงที่สุดในโลก มีประวัติย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 1755 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ มหาวิทยาลัย Lomonosov ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้ง มีประเพณีอันยาวนานของความเป็นเลิศทางวิชาการ ซึ่งที่แห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยรัสเซียที่เก่าแก่ที่สุดและโด่งดังที่สุด บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงและผู้ชนะรางวัลโนเบล ล้วนเป็นเป็นศิษย์เก่าของมหาลัยแห่งนี้
Grand Lisboa — Macau, China
ตึกระฟ้าแห่งนี้มีความโดดเด่นที่งดงามตระการตาอย่างแท้จริงทั้งภายนอกและภายใน มีสีสันตระการตาที่แสดงถึงความทันสมัย แรงบันดาลใจในการออกแบบสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของโปรตุเกสที่ผสมผสานความเป็นมาเก๊าและอเมริกาใต้
Dynamic Tower — Dubai, United Arab Emirates
แต่ละชั้นของอาคารแห่งนี้ สามารถหมุนได้โดยผู้อยู่อาศัย สร้างบรรยากาศใหม่ๆ ได้ในแต่ละวัน โดย David Fisher สถาปนิกรายหนึ่งผู้ที่ไม่เคยสัมผัสเจ้าอาคารแห่งนี้ ได้พูดถึงมันว่า “designed by time, shaped by life — which will open our vision all around, to a new life.”
W350 — Tokyo, Japan
เนื่องจากโครงการมีแผนจะแล้วเสร็จในปี 2041 นี้ อาคาร W350 จะกลายเป็นตึกระฟ้าไม้ที่สูงที่สุดในโลก โครงสร้างได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงธรรมชาติ - ผู้คนสามารถเพลิดเพลินไปกับสายลมและแสงแดดภายในอาคารได้เช่นกัน มันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การพักผ่อนที่จำเป็นมาก ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในเมืองที่แสดงออกถึงความอบอุ่นและความสงบ
Agora Tower — Taipei City, Taiwan
อาคาร "กินหมอกควัน" ของไต้หวัน เป็นหนึ่งในแหล่งพักอาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งออกแบบโดย Vincent Callebaut สถาปนิกที่ชนะการประกวดการออกแบบสำหรับโครงการในปี 2010 การตกแต่งภายนอกด้วยต้นไม้สีเขียวเป็นแนวคิดบุกเบิกการก่อสร้างเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน” ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในอนาคต!
Evolution Tower — Moscow, Russia
อาคารแห่งนี้มีความสูงถึง 807 ฟุต เป็นอันดับ 2 ในรางวัล Emporis Skyscraper Awards ในปี 2015 ในฐานะหนึ่งในตึกระฟ้าที่ดีที่สุดในโลก รูปร่างเหมือนกับเกลียวคู่ใน DNA เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวกันของบุคคล ครอบครัว และการให้กำเนิด
One World Trade Center — New York, USA
เดิมอาคารแห่งนี้มีชื่อว่า "Freedom Tower" มันถูกสร้างขึ้นในความพยายามที่จะระลึกถึง "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" ดั้งเดิมที่ถูกทำลายไปจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2012 ปัจจุบัน One World Trade Center เป็นอาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่ 1,776 ฟุต - เป็นการอ้างอิงโดยเจตนาถึงปีที่มีการลงนามในปฏิญญาอิสรภาพ
The Big Bend — New York, USA (อยู่ในขั้นตอนการเสนอ)
ตึกโค้งขนาดใหญ่นี้ มีความยาวอยู่ที่ 4,000 ม. ซึ่งโค้งขนาดใหญ่ดังกล่าว จะทำให้กลายเป็นอาคารที่ยาวที่สุดในโลกถ้าสร้างขึ้น มันถูกออกแบบโดย Ioannis Oikonomou ในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงข้อ จำกัด เกี่ยวกับความสูงของตึกสูงในแมนฮัตตัน
Jeddah Tower — Jeddah, Saudi Arabia (อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง)
โครงการแห่งนี้ประมาณว่าจะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2020 เจดดาห์ทาวเวอร์จะเป็นอาคารแห่งแรกในโลกที่มีความสูง 1 กม. (3,281 ฟุต) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มใบไม้ที่แตกหน่อจากพื้นดิน โดยอาคารแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อแสดงถึงการเติบโต และความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานะทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของราชอาณาจักร