หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตะลุยเวียดนามด้วยตนเอง วันที่ 1 ฉบับใครๆ ก็ไปได้

เนื้อหาโดย sonew

 

Day 1 (23.10.61)

เที่ยวเวียดนาม โฮจิมินห์ ดาลัท มุยเน่ 23-27 ต.ค.61

มันเป็นรูทเดินทางที่เคยล่มไปของเราเมื่อ 2 ปีทที่แล้ว แต่คราวนี้เราไปแน่ เราจะไม่พลาด พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

เราจองที่พักก่อนเดินทาง โดยจองผ่าน Agoda โดย พักที่ Tulip Hotel 3 ที่ดาลัท 2 คืน และ พักที่ The Sinh Tourist Mui Ne Resort ที่ มุยเน่ 1 คืน และสำหรับแพลนการเดินทางของเราที่วางไว้คือ ดังนี้ค่ะ

วันที่ 23 ต.ค. 61 
เดินทางออกจากดอนเมือง 07.30 น. ถึง สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต เมือง โฮจิมินห์ (ไซง่อน)
เดินเที่ยวเมืองโฮจิมินห์
ซื้อตั๋วรถทำหรับเดินทางจนถึงวันกลับในวันนี้ให้เสร็จเลย
เดินทางด้วยรถนอน ตอน 22.00 เพื่อไปเช้าที่ดาลัท

วันที่ 24 ต.ค. 61
ถึงดาลัท เข้าที่พัก เช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวดาลัท
นอนดาลัทคืนที่ 1

วันที่ 25 ต.ค. 61
เช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวดาลัทต่อ
นอนดาลัทอีก 1 คืน

วันที่ 26 ต.ค. 61
เดินทางจากดาลัท ไปมุนเน่ ในช่วงเช้า
ถึงมุยเน่ ซื้อ Half-day tour 
ช่วงเย็นกินอาหารทะเล
นอนมุยเน่ 1 คืน

วันที่ 27 ต.ค. 61
เดินทางจากมุยเน่ กลับ โฮจิมินห์
เข้าสนามบินเตรียมเดินทางกลับไฟลท์ 21.30 น.

ดูคร่าวๆ แล้ว ยังไม่เข้าใจ ไปเที่ยวพร้อมๆกัน เลยแล้วกันค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

Day 1 วันที่ 23 ต.ค. 61 
เราเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองไฟลท์ 07.30 น. เพราะวางแผนว่าเมื่อไปถึงโฮจิมินห์ จะได้เที่ยวกันต่อ นั่งเครื่องปุ๊บๆ ปั๊บๆ 1.30 ชม. เราก็เดินทางมาถึง สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต ตอนประมาณ 09.00 น. อากาศสดใส พร้อมแล้ว ไปตะลุยเวียดนามกันค่ะ (เราไม่ได้โหลดกระเป๋า เลยไม่ต้องเสียเวลาคอย)

เดินออกมาจากเกต ยังไม่ต้องทำอะไร มองทางซ้ายมือไว้ เพราะตรงนั้นจะเป็นที่รวบรวมที่แลกเงินและที่ขายซิมโทรศัพท์ของเวียดนามหลายค่ายเลย ทั้ง Vinaphone, Viettel และ mobiphone สามค่ายยอดฮิต ราคาก็พอๆ กัน ลองเข้าไปสอบถามดูได้ค่ะ แต่เนื่องจากว่า เราอ่านรีวิวมาจากประเทศไทย ว่า Viettel นั้นดี เราก็เลย โอเค ดีก็ดี สรุปแล้วเราใช้ของค่ายนี้ค่ะ สนนราคา 250,000 ดอง (352 บาท) เน็ต unlimit 5.5 กิก (ป.ล. บางคนบอกว่า ซื้อซิมไม่ควรเกิน 200,000) โอเคได้ซิมการ์ดมาเรียบร้อย ก็พร้อมโลดแล่นท่องเน็ตในเวียดนามแล้ว ส่วนเรื่องเงินเราไม่ได้แลกค่ะ เนื่องจากแลกมาจากเมืองไทยแล้ว .... ต่อไป เตรียมตัวเดินทางเข้าใจกลางกรุงโฮจิมินห์ หรือไซง่อน กันค่ะ

เราเดินทางตามรอยการรีวิวของหลายๆ ท่าน นั่นคือ การนั่งรถเมล์เข้าเมือง จุดสังเกตที่จอดรถเมล์ นั่นคือ ออกจากประตูเทอมินอลสนามบินมา ให้เดินไปทางร้าน Burger King เราจะเห็นรถเมล์จอดเรียงกันอยู่ทางซ้ายมือ โดยรถเมล์จะมี 2 สี คือสีเหลืองสาย 109 และ สีเขียวสาย 152 ความแตกต่างของรถเมล์ 2 ค่ายนี้คือ รถสีเหลือง จะใหม่กว่า และรถสีเขียวจะเก่ากว่านิดหน่อย 5555 ข้อมูลมีประโยชน์มาก แต่เท่าที่อ่านมา ทั้ง 2 สาย ไปถึง ตลาดเบนถัน และ ฟามงูเหลา ได้ทั้งคู่ค่ะ ...
เนื่องจากตอนที่เราไปรถคันสีเหลืองออกไปพอดี เราก็เลยขึ้นคันสีเขียว สนนราคาคนละ 5,000 ดอง (7 บาท)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

วิธีการนั่งรถเมล์..
1.ขึ้นรถ
2.เลือกที่นั่ง
3.บอกจำนวนผู้โดยสารกับพนักงาน (คนเดียวก็บอกคนเดียว ไปเป็นกลุ่มก็บอกจำนวนเขาไป) แล้วก็บอกว่า ฟามงูเหลา หรือ เบนถัน 
4.เตรียมเงิน และจ่ายให้กระเป๋ารถเมล์ 
5.กระเป๋ารถเมล์จะเดินไปกดตั๋วจากเครื่อง แล้วนำมาให้เรา จบ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

รถใช้เวลาจากสนามบิน เข้าสู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์ประมาณ 45 นาที เหมือนรถเมล์ไทยค่ะ จอดทุกป้ายที่มีคนรอ และมีคนลง ป้ายไหน ดูคนเยอะหน่อย ก็จอดนานหน่อย แต่ก็ไม่นานมาก จากนั้นเราก็เดินทางมาถึงบริเวณถนน “ฟามงูเหลา” ค่ะ 
ป.ล. ยังไม่ถึงซะทีเดียว ต้องเดินนิดหน่อย ข้อสังเกตสำหรับป้ายรถเมล์ที่ใกล้ถนนฟามงูเหลา ก็คือ ....

*** เมื่อรถวิ่งผ่านหอนาฬิกาบริเวณตลาดเบนถัน (คงจำกันได้เนอะ ถ้าใครเคยอ่านรีวิวเที่ยวเวียดนามของคนอื่นๆ มา) ป้ายรถเมล์ต่อไปให้นับเป็นป้ายที่ 1 จากนั้นรถจะขับผ่านวงเวียนที่มีความวุ่นวายและจะหยุดที่ป้ายรถเมล์ที่ 2 เราลงป้ายนั้นเลย แล้วก็ เปิด GPS ต่อ ...

เมื่อลงรถเสร็จ เป้าหมายแรกของเรา ก็คือ ตามหาบริษัท The Sinh Tourist เพื่อจองเที่ยวรถทั้งทริปนี้ให้เสร็จวันนี้เลย ใช้เวลาเดินจาก ป้ายรถเมล์ที่ลง ประมาณ 5-7 นาที เราก็มาถึง เราทำเรื่องจองเที่ยวรถ วึ่งรายละเอียดเที่ยวรถที่เราจองมีดังนี้
1.รถนอนจาก โฮจิมินห์ ไป ดาลัท คืนนี้ (23/10/61) เที่ยวเวลา 22.00 น.
2.รถนอนจาก ดาลัท ไป มุยเน่ เช้าวันที่ 26/10/61 เที่ยวเวลา 07.30 น.
3.รถนั่งจาก มุยเน่ กลับ โฮจิมินห์ เช้าวันที่ 27/10/61 เที่ยวเวลา 07.30 น.

***โดยค่าใช้จ่ายสำหรับค่ารถทั้งสิ้น 734,000 ดอง (ประมาณ 1,050 บาท)

เมื่อจองเสร็จเรียบร้อยเราก็สบายใจหายห่วง ทำการฝากกระเป๋าที่บริษัทนั่นแหละ (มีบริการรับฝากประเป๋าสำหรับลูกค้าของบริษัทด้วยค่ะ แต่ต้องถาม เขาจะไม่ได้บอกเรา) เข้าห้องน้ำห้องท่า จากนั้น ได้เวลา “เดิน” เที่ยวเมืองไซง่อนแล้วววววว ...

โฮจิมินห์หรือไซง่อน เป็นเมืองที่ ........ ดูวุ่นวายดี 555 อื้ออึงไปด้วยเสียงแตรรถ ทั้งมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และรถบัส เมืองที่วงเวียนเป็นจุดที่รถประเดประดังวิ่งเข้าหากันจากทุกมุมถนน แต่ไม่เกิดอุบัติเหตุ เมืองที่ เวลาข้ามถนน คุณต้องเดินไปเลย แบบมั่นใจ อย่าจดๆจ้องๆ อย่าวิ่ง แล้วคุณจะปลอดภัย เรารู้สึกตื่นเต้นมาก 5555 ดูมันตื่นตาตื่นใจ ขนาดที่ว่า อากาศวันนั้นแดดร้อนอุณหภูมิประมาณ 33 องศา ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะ ความอยากเที่ยวมันครอบงำ ป่ะ! เราจะพาไปดูแพลนเที่ยวของเราวันนี้ . . .

เนื่องจากว่า เรามาเที่ยวกันเอง คอนเซป ก็คือ เก็บที่เที่ยวเท่าที่อยากเก็บ ไม่เหนื่อยจนเกินไป สบายๆ เราจึงแพลนเที่ยวเมืองโฮจิมินห์ไว้ดังนี้

1.ที่ทำการสภาประชาชน

2.ไซง่อน โอเปร่าเฮ้าส์

3.โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม

4.ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์

5.คาเฟ่อพาร์ทเม้น

และอีกอย่างสำหรับแพลนวันนี้ คือ เดินไปเจอที่ไหนก่อนก็เที่ยวอันนั้นก่อน แต่พอเริ่มเปิด GPS ทำให้พบว่า อ้าวเฮ้ย! ที่เที่ยวแต่ละที่ที่เราจะไป มันอยู่ในละแวกเดียวกันหมดเลยนิ่นา..... เราก็เลยเลือกที่จะไปตั้งต้นที่ “โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม” ค่ะ

แต่เนื่องด้วยเวลาในขณะนั้นมัน จะเที่ยงแล้ว ความรู้สึกหิวมันก็ถามหา เลยกะว่าหาอะไรกินกันก่อนน่าจะดี ก็เลยเดินไปในละแวกถนนฟามงูเหลา (กลางวันก็จะเงียบๆ กลางคืนคนละเรื่องเลย) ไปเจอร้านเฝอ อ่ะ! แน่นอน มาเวียดนาม จะไม่ได้โดนเฝอสักชามได้ยังไง จัดไปเฝอเนื้อคนละชาม ท่ามกลางอากาศร้อนๆ ฟินกันไป เหงื่อแตกเหงื่อแตน พร้อมแล้วววว เดินไปโบสถ์กัน ...

เราเดินมาเรื่อยๆ ปรากฎว่ามาเจอโบสถ์หลังนึง ซึ่งไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร (ป้ายบอกสถานที่ เกือบ 80% ในเวียดนาม จะไม่มีภาษาอังกฤษ จะเป็นภาษาเวียดนามเกือบทั้งหมด) ก็ได้เข้าไปถ่ายภาพนิดหน่อยจากนั้น เราก็เดินทางกันต่อ .... เผอิญว่าเส้นทางที่เราใช้เดิน ก่อนที่จะพาเราไปถึง โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม เราต้องผ่าน Independent Palace เสียก่อน เราก็เลยว่า.. โอเค เที่ยวที่นี่ก่อนก็ได้ เพราะเราเจอที่นี่ก่อน (ตามคอนเซป 5555) แต่! ปรากฎว่า ช่วงที่เราไปถึง มันคือเวลา 12.30 น. ซึ่งที่นี่ยังไม่เปิดทำการ จะเปิดอีกทีคือ 13.00 น. เราเลยไม่อยากเสียเวลา ตัดสินใจออกมาจากที่นั่นก่อน แล้วมุ่งหน้าไป โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม กันต่อ

*** Independent Palace น่าจะมีการปิดช่วงพักเที่ยง สามารถเข้าชมช่วงบ่ายได้ตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไปค่ะ

เดินออกมาจาก Independent Palace ไม่นาน เราก็มาถึง โบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม ที่มีความสวยงามสมคำร่ำลือ โบสถ์สีชมพู ตั้งตระหง่านอยู่กลางแยก แต่เสียดายช่วงที่ไป กำลังมีการบูรณะซ่อมแซมพอดี ทำให้ทั้ง 2 ข้างตัวโบสถ์ มีเหล็กนั่งร้านเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยน้อยลงเลย....

ถัดออกไปแบบใกล้กันโคตรๆ ก็คือ ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ เดินข้ามถนนมาจากโบสถ์นอร์ทเธอร์ดาม ก็ถึงแล้ว พูดถึง สำนักงานไปรษณีย์กลาง ตัวอาคารมีความสวยงามมาก ข้อมูลที่อ่านมาเขาบอกว่า อาคารแห่งนี้ออกแบบโดย Gustave Eiffel สถาปนิกชาวฝรั่งเศสผู้ที่ออกแบบหอ ไอเฟล และอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ก็สมละ เพราะที่นี่สำหรับเราก็ว่าสวยจริงๆ ยิ่งในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสแบบนี้ เวลาที่ถ่ายรูป อาคารสีเหลืองๆ ตัดกับฟ้าสีฟ้าๆ คือรูปออกมาดีมากจริงๆ อิอิ ^^

ไปค่ะ เดินเที่ยวกันต่อ ..... ที่ต่อไปที่เราตามหา ก็คือที่ “สภาประชาชนโฮจิมินห์” เราจะไปทักทายกับอนุสาวรีย์รูปปั้นลุงโฮ กัน เดินไปเรื่อยๆ 2 ข้างทาง ตึกรามบ้านช่อง เริ่มเห็นถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรม ฟิลเหมือนเดินอยู่แถวๆ กระทรวงกลาโหม กรุงเทพฯ ก็ทำให้รู้ว่า แถวนนี้มันคือที่ สภาประชาชนโฮจิมินห์ นินา .... แต่เอ๊ะ! ไหนอ่ะ รูปปั้นลุงโฮอ่ะ เดินวนไปวนมาอยู่ 2 รอบ เหมือนสวรรค์แกล้ง ...... ตรงนั้น มันกล่องอะไรกันนะ ลักษณะมันเป็นกล่องขนาดใหญ่ที่ขึงด้านข้างด้วยไวนิ่วรูปดอกบัว .... เมื่อยืนสังเกต พินิจพิจารณาอยู่ครู่นิ่ง สามัญสำนึกประมวลผลแล้วทำให้รู้ว่า .... กล่องยักษ์นั้น มันคลุมรูปปั้นลุงโฮ อยู่นี่หว่า !!!!!!!!!!!!!!! 555555555 ดวงดีมากๆ มาช่วงลุงโฮลาพักร้อนพอดี แต่ก็ไม่เป็นไร ขำนิดหน่อย แล้วลุยกันต่อ....


เดินมาจากกล่องลุงโฮ บนลานที่กว้างใหญ่ ที่น่าจะใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ ในช่วงงานพิธีที่สำคัญๆ ของประเทศ เหลือบไปทางซ้ายทะลุผ่านไซด์งานก่อสร้างไป มันเป็นที่ตั้งของ “ไซง่อน โอเปร่าเฮ้าส์” มีความเป็นยุโร้ป ยุโรป ถ้าไม่รวมอากาศที่ร้อนเกรียบเราก็คงนึกว่าเดินอยู่ที่ยุโรปแน่นอน 5555 ถ่ายรูปมาได้ 1 แชะ แล้วก็ไปต่อ . . .

เดินย้อยกลับมาที่ลานจตุรัสลุงโฮเหมือนเดิม เราก็มาพบกับ จุด Check-in โคตรฮิพ ในตำนาน “คาเฟ่อพาร์ทเม้นท์” ..... ส่วนตัวเราชอบที่นี่นะ เราว่ามันน่ารักดี ซึ่งท่ามกลางตึกสูงตระหง่านของใจกลางนครโฮจิมินห์ ถูกอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ นี้ แยกซีนไปจนหมด แต่ละชั้น แต่ละห้อง ถูกตกแต่งอย่างน่ารัก และมีแบบฉบับของตัวเอง โคมไฟสีแดง กำแพงสีเหลือง กระถางต้นไม้แขวนสีเขียวๆ เออ...เราว่ามันน่ารักดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นไปดูร้านรวงตามชั้นต่างๆ เราก็รู้สึกว่า ที่นี่มันมีเสน่ห์ . . .

เอ้า! เดินนานคอมันแห้ง ไหนๆ เขาบอกว่ามีร้านชาไข่มุก ที่ต้องโดน ชื่อร้าน “The Alley” ไหนๆ ร้านมันอยู่ไหน บอกว่าซิ ... เปิด GPS ปร๊าบบบบ เดินดิ่งไปที่ร้านกันเลย
ร้าน “The Alley” ร้านชานมโลโก้รูปกวาง ที่เลือกความเข้มของชาเขียวได้ และเลือกปริมาณน้ำแข็งได้ และที่สำคัญ วันที่เราไป เขาจัดโปรฯ ทุกเมนูลด 20% .... สั่งสิครัช รออะไร จัดไป ชาเขียวเข้ม 80% น้ำแข็ง 50% หวานน้อย บวกไข่มุก ในราคา 52,000 ดอง (ราคาลดแล้ว ประมาณ 73 บาท) และสำหรับรีวิวของเมนูนี้คือ . . . . . . . . . . . . . . . เรา! ว่า! มัน! ไม่! อร่อย!!!!!!!!! 55555 ขอโทษ เราไม่ค่อยชอบจริงๆ บางคนอาจจะชอบก็ได้ ลองดูไม่เสียหายนะคะ แต่สำหรับเราชาเจือจางเหลือเกิน ไม่หอม ไม่มัน แต่ไข่มุกอร่อยหวานหนึบๆ พอได้ เอาเป็นว่า ไปลองกันดู ถูกใจไม่ถูกใจก็แล้วแต่คนเด้อออออ . . .

โอเคละ หายคอแห้ง ดูเวลากันอีกที นี่มันเกือบ 17.00 น. แล้ว กลับไปหาที่อาบน้ำ แล้วออกไปหาอะไรกิน ก่อนเดินทางด้วยรถนอนไปดาลัทดีกว่า . . .

เราเดินกลับมาที่บริษัท The Sinh Tourist อีกครั้ง เพื่อสอบถามกับพนักงานว่า เราจะสามารถหาที่เช่าห้องอาบน้ำที่ไหนได้บ้าง เพราะเหนียวตัวมาก ลืมบอกไปว่า โฮจิมินห์ฝุ่นและควันเยอะมาก อย่าลืมพกแมสปิดปากปิดจมูกกันไปด้วยค่ะ วกเข้ามาที่การหาที่อาบน้ำกันต่อ พนักงานของบริษัท The Sinh Tourist ก็น่ารักมาก แนะนำเกสเฮ้าส์ใกล้ๆ กันให้ บอกว่ามีที่อาบน้ำให้บริการ เราก็ไม่รอช้า เดินออกจากหน้าบริษัทไปทางขวามือ ผ่านห้องแถวประมาณ 6-7 ห้อง จนเจอห้องสีส้มหมายเลข 270 ที่นี่แหละ ขออาบน้ำไปสบายตัวซะหน่อย สนนราคาที่คนละ 49,000 ดอง (69 บาท) (มีสบู่ ยาสระผม ไดรเป่าผม และผ้าเช็ดตัว) ให้เวลาประมาณ 15 นาที . . . ตัวเบาและสบายตัวมากๆ พร้อมละ พร้อมออกไปหาของกินกันต่อ....

ถนนฟามงูเหลา ตอนกลางวันกับตอนกลางคืนแตกต่างกันมาก ขณะนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. แสงสี และร้าน มากมายเริ่มเปิดไฟ เปิดเพลง ร้านอาหารแนว Street food เริ่มออกมาตั้งร้านเรียงรายตามริมถนน แต่ร้านพวกนี้ ไม่ใช่เป้าหมายสำหรับอาหารเย็นเราในวันนี้ เพราะวันนี้เราจะไป หาหอยกินกัน ที่ร้าน “อ๊อก ด๋าว” ค่ะ ร้านนี้ค่อนข้างเดินไกลจากตรงที่เราอยู่นิดหน่อย ทางจะซอกแซกๆ เพราะเดินตาม GPS มา แต่จนแล้วจนรอด เราก็มาถึง . . .

บรรยากาศร้าน อ๊อกด๋าว มีความคล้ายร้านหมูกระทะบ้านเรา ที่จะเป็นลักษณะโกดังหลังคาสูง โปร่งๆ และจากการสังเกต ร้านนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนาม เราสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นเพราะร้านค่อนข้างหายาก นักท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยมากัน (อันนี้เดาจริงๆ 555)

มาจ้ามา มากินหอย ... จะกินหอยต้องผ่านด่านน้ำจิ้มเวียดนามก่อนจ้า 55555 เกลือ พริกไทย ชูรส และมะนาว เราบอกเลย เราสู้ไม่ไหว เรากินหอยแบบไม่จิ้มดีกว่า เราสั่งหอยเชลล์ย่าง หอยตลับนึ่ง หอยแครงยักษ์ย่างโรยถั่ว และกุ้งย่าง สรุปสุดท้าย เราว่ากุ้งเด็ดสุด 55555555 เกมส์พลิก แต่อันนี้คือความสัตย์จริง หรือว่าเราอาจจะมองว่าหอยก็อร่อยนะ แต่เฉยๆ เราว้าว กับกุ้งมากกว่า เราว่ามันสดเนื้อเด้งหวานและเขาย่างมากำลังดีหอมเนย คือดีอ่ะ! สำหรับมื้อนี้เราเสียไป 270,000 ดอง (380 บาท) แต่เหมือนยังไม่อิ่ม . . . ออกจากร้าน อ๊อก ด๋าว เราเลยไปหาอะไรกินเล่นกันต่อ . . .

เรามาจบที่ร้านขายแซนวิชขนมปังฝรั่งเศสใส้หมูย่าง คือดีมาก ดีมากๆ ดีมากจริงๆ เราว่าร้านนี้ยังไม่เคยมีนักท่องเที่ยวไทยรีวิวแน่อน เพราะมันเป็นร้านที่อยู่ริมถนน แถวๆ ร้ายขายข้าวฟิล เหมือนร้านข้าวต้มบาทเดียว แบบรถเข็น อาจจะไม่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า “Bánh Mì Chim Chạy" ตามหาให้เจอนะคะ ร้านสีเหลืองๆ คนขายเป็นวัยรุ่นผู้หญิง 2 คน คนซื้อเยอะ ทั้งคนที่มารอซื้อหน้าร้านและพวกรับหิ้วเช่น Grab food ก็มารอกันหลายคิว ปิดท้ายมื้อเย็นกันด้วยเมนูนี้ 1 ชิ้น กิน 2 คน อิ่มแปร้ ในราคา 20,000 ดอง (28 บาท) อิ่มแล้วก็ไปค่ะ ไปเตรียมตัวขึ้นรถเดินทางไปดาลัทกันต่อ

เรากลับมาเตรียมตัวขึ้นรถที่ The Sinh Tourist รอเวลาเช็คอิน ล้างหน้า แปรงฟัน ถอดคอนแท็กเลนส์ เป็นป้าแว่นหน้าสด เพราะโนสนโนแคร์ พอฉันขึ้นรถ ฉันก็จะนอน แล้วไปตื่นอีกที่ที่ดาลัท

เวลา 22.00 น. ถึงเวลาขึ้นรถแล้ว . . . รถที่เรานั่งจะเป็นรถนอน ที่เป็นรถนอนจริงๆ คือ นั่งไม่ได้ มันไม่ได้ทำมาให้นั่ง มันทำมาให้นอน ก็ต้องนอน เพราะนั่งแล้วหัวชนว้อยยย 555555 อันนี้เรื่องจริงค่ะ และก่อนที่เราจะขึ้นรถ ลุงคนขับจะแจกถุงพลาสติกให้เราคนละถุง เพื่อถอดรองเท้าแล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกส่วนตัว ทีนี้แหละ บันเทิง !!!! ขมคอกันเลยทีเดียว จึงทำให้รู้ว่า กลิ่นตรีนนี่มันไม่แบ่งเชื้อชาติศาสนาจริงๆ ประเทศไหนๆ ก็เหมือนกัน ฉะนั้น แมส และพิมเสนน้ำ จะทำให้คุณมีชีวิตรอด

*** และทริคสำหรับการโดยสารรถนอนไปดาลัท มีดังนี้

1.นอนชั้นบนไม่เหม็นตรีน แต่! ขึ้นลงลำบาก ไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่ตัวอ้วนเท่าไหร่ และข้างบนเวลารถวิ่งจะเหวี่ยงกว่า ใครเมารถกินยาแก้เมาได้เลย เพราะเส้นทางไปดาลัท มันโค้งไป โค้งมามาก ถึงแม้เราจะกลับๆ ตื่นๆ แต่เราก็รู้ว่ามันโค้งเยอะมาก

2.นอนชั้นล่างเหม็นตรีน แต่! นอนสบายกว่า ไม่เหวี่ยง คนอ้วนคนตัวใหญ่ สามารถเอาสัมภาระส่วนตัวที่เกะกะมาวางที่พื้นทางเดินได้ แต่จับๆ ผูกๆ ไว้ด้วย เดี๋ยวหาย (ให้ระวังไว้เฉยๆ จ้า)

สำหรับการเดินทางจากโฮจิมินห์ไปดาลัท จะใช้เวลาประมาณ 6 ชม. และจะมีการจอดให้เข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง ฉะนั้น อย่ากินน้ำเยอะเดี๋ยวจะลำบากจ้า เอ้าๆๆๆ นอนๆๆๆๆๆ เดี๋ยวเราไปเช้าพร้อมกันที่ดาลัทจ้า

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เดี๋ยวมาติดตามกันต่อน้า

#WhereWeGo
#เที่ยวเวียดนาม
#เที่ยวโฮจิมินห์

 

เนื้อหาโดย: sonew
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sonew's profile


โพสท์โดย: sonew
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
VOTED: โยนีแปลว่าโยนี
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆตำรวจดักจับคารู หลังนักโทษร่วมกัน ขุดรูแหกคุก!!สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว เมืองเวนิช " เก็บค่าธรรมเนียม " เข้าชมเมืองขำสุดซอย..ฮาก๊าก..คลายเครียด!เฮทั่วประเทศ ! ฟุตซอลไทย ชนะจุดโทษ ทาจิกิสถาน เข้าชิงแชมป์เอเชีย 2024นักร้องดังวง SNSD,Apink,IOI ถูกตำรวจจับทางกัมพูชา และ จีนจัดงานโชว์ศิลปะการต่อสู้ กังฟู + โบกาตอร์ ตอนแรกหลายคนนึกว่า จะเอามาสู้ๆกัน อ้อ ไม่ใช่ มาโชว์กระบวนท่าการแสดงเฉยๆ พอมีคนดูอยู่เหมือนกันเด้อเพราะอากาศร้อนจัด "พนง.ไปรษณีย์" ถึงกับเป็นลม..โชคดีมีคนช่วยไว้ทัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮทั่วประเทศ ! ฟุตซอลไทย ชนะจุดโทษ ทาจิกิสถาน เข้าชิงแชมป์เอเชีย 2024"ปารีณา-อมรัตน์" สายสัมพันธ์ในวันที่การเมืองเปลี่ยน จากศัตรูสู่มิตร"ป๋าเสรี" ร่วมงานศพ"ทวี ไกรคุปต์" ด้าน"ปารีณา" โผล่สวมกอด ลั่นขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับท่านเสรี!erosion: การกัดเซาะ การทำให้สึกกร่อนทางกัมพูชา และ จีนจัดงานโชว์ศิลปะการต่อสู้ กังฟู + โบกาตอร์ ตอนแรกหลายคนนึกว่า จะเอามาสู้ๆกัน อ้อ ไม่ใช่ มาโชว์กระบวนท่าการแสดงเฉยๆ พอมีคนดูอยู่เหมือนกันเด้อ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด Review, HowTo, ท่องเที่ยว
บรรยากาศยามเย็น ที่กว๊านพะเยา โอซาก้าจะเลียนแบบเวนิสในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าญี่ปุ่นสั่งกั้นมุมภเขาไฟฟูจิ! เหตุ นนท. ทำพิษพฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!
ตั้งกระทู้ใหม่