ไปปราสาทโอซาก้า เที่ยวแบบชิลล์ๆ

"Day 2"

ฮู้เล่ !! เช้าวันที่ 2 ใน Osaka แพลนวันนี้ เน้นเที่ยวที่โอซาก้าแบบเต็มที่ ปราสาทโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ สวนสัตว์ เทนโนจิ โอซาก้า แล้วก็ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ Hep Five ย่าน Umeda ใครอยากตามรอยตามนี้ได้เลย ปะ.... ไปลุยกัน

* * * * * * * *

โอ้ววววววคุณพระ !! หนาวจัง วันนี้หนาวมาก 3 องศา ก้าวออกมาจากลิฟท์ชั้น 1 ของที่พัก ความเย็นพัดตู้มมเข้ามา อากาศหนาวกว่าเมื่อวานหลายองศามาก (เมื่อวานลงจากเครื่องบิน อุณหภูมิประมาณ13-14 องศาได้) แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคค่ะ เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวโอซาก้าให้มันฉ่ำ จำเริญใจไปเล้ยยยย

* * * * * * * *

ปราสาทโอซาก้า จะอยู่เยื้องๆ ไปทางตอนบนของย่านที่เราพัก (เราพักย่าน Dotonbori) นั่งรถไฟไปประมาณ15 นาที เราก็มาถึงค่ะ ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน ก็มองเห็นปราสาทโอซาก้าอยู่ริบๆ เดินตรงไปมุ่งหน้าหาทางเข้ากันเลย เราไม่รู้เหมือนกันว่าทางไหนมันคือทางเข้า ก็ได้แต่เดินดุ่มๆ ไป แป๊บเดียวก็เดินไปเจอบันไดสูงชัน ที่มีคุณลุงกำลังวิ่งขึ้นลงเพื่อออกกำลังกาย และนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีกำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางแบบล้อเลื่อนแบบทุลักทุเล ลงมาจากด้านบนอยู่ เอาก็คิดในใจ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เดินไปทางนี้แหละ .. บันไดประมาณเกือบ 70 ขั้นได้ แล้วเราก็ขึ้นมาอยู่ด้านบนจนได้....

บรรยากาศด้านบน เป็นส่วนของสวนและทางเดิน มีป้ายเล็กๆ พร้อมลูกศรชี้ไปด้านขวา ว่าเป็นทางไปตัวปราสาท ส่วนต้นไม้ที่เราเห็นอยู่ 2 ข้างทาง พอเข้าไปดูใกล้ๆ เอ๊ะ! นี่มันน่าจะเป็นต้นซากุระ แต่อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะ เหอะๆ เพราะว่าช่วงที่เรามา มันไม่ใช่ช่วงที่ซากุระบาน ดังนั้น สิ่งที่เห็นเป็นแค่เพียงตุ่มดอกเล็กๆ ที่กำลังเตรียมออกดอกช่วงปลายมีนา T T นี่แหละ ซากุระ แบบที่ได้ฉันเจอ 555555 แต่ก็ไม่อะไรมากค่ะ เพราะทำใจก่อนมาทริปนี้แล้วว่า ไม่ได้เจอซากุระหรอก ก็เลยชิลๆ เดินดูต้นซากุระขำๆไป ....... เดินไปได้สักพัก เราก็มาถึงทางแยก ด้านขวาลูกศรชี้ไปสวน ด้านซ้ายเป็นทางที่คนเดินไปเยอะ เอาหล่ะ เป็นคุณจะเลือกทางไหน 55555555 แน่นอน เราเลือกทางที่คนเดินไปเยอะค่ะ ก็คือ เลี้ยวซ้ายไป จากมุมนี้เรายังคงเห็นตัวปราสาทโอซาก้าอยู่ แต่ก็ยังไม่ใกล้มาก พอเดินตามคณะคนเยอะไปได้สักครู่ เราก็เจอลานที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ (แต่ไม่มีดอกนะ มีแต่ตุ่มๆ 55555) ก็เลยถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เดินไปอีกแป๊บ เซ้นมันเริ่มบอกว่า ทางนี้ไม่ไช่ทางเข้าปราสาท เพราะเดินไปแล้วเจอลานจอดรถบัส จึงอนุมานได้ว่า อ๋อออออ ที่เขาเดินมาทางนี้กันเยอะ เพราะเขาจะเดินมาขึ้นรถเพื่อกลับกัน 55555555 เรากับแฟนจึงหันหน้ากลับ มุ่งหน้าสู่ทางที่มีลูกศรชี้ไปสวน ....... ใช่ๆๆๆๆๆ ทางนี้แหละถูกแล้วววววววววววว ดีใจ หลงทางตามคณะทัวร์ไปซะนาน 5555

* * * * * * * *

เดินตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ก็จะนำเราไปสู่ สะพานและประตูเข้าปราสาทขนาดใหญ่ ที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของปราสาทโอซาก้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การเข้าชมปราสาทและขึ้นไปดูวิวมุมสูงของเมืองโอซาก้าจากทางด้านบนของปราสาทคือเป้าหมายของเราในวันนี้ หยิบ Osaka Amazing Pass ขึ้น ยื่นที่ห้องขายตั๋วทำการแสกนบาร์โค้ด ติ๊ด! ไปเลยค่ะ ฟรี!!!! อิอิ สะดวกมาก พอเข้าไปในตัวปราสาทแล้ว แถวจะถูกแบ่งเป็น 2 แถว แถวแรกรอขึ้นลิฟท์ และแถวที่ 2 ที่ดูเคลื่อนเร็วกว่า สำหรับคนที่ต้องการขึ้นด้านบนด้วยบันได แน่นอน เราไม่อยากรอนาน ก็เดินขึ้นบันไดสิคะ รออะไร การขึ้นบันไดจะแบ่งออกเป็น 8 ชั้น ถ้าจำไม่ผิดนะ และแต่ละชั้นจะมีนิทรรศการและพิพิธภันฑ์ให้เราได้เดินชมอีกด้วย เป็นประวัติของปราสาท ประวัติของเมืองโอซาก้า ตำนานและซามูไร และเรื่องราวในอดีตต่างๆ ไว้ให้แวะพักเหนื่อยจากการเดินขึ้นบันไดได้ดีค่ะ ส่วนคนที่ขึ้นลิฟท์ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะขาลง ต้องเดินลง ได้แวะดูพิพิธภัณฑ์เหมือนกันค่ะ ……..

พอขึ้นไปด้านบน หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว เพราะด้านบนอากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย และที่สำคัญ วิวเมืองโอซาก้าทั้ง 4 ด้าน ไม่เหมือนกันเลย สวยหมดทุกด้าน อิอิ เราใช้เวลาด้านบนพอสมควร และสายตาก็ไปสะดุดกับสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เรารีบเดินทางมากจากด้านบนของปราสาท เพราะวิวมุมหนึ่งที่เรามองลงมา เป็นพื้นที่ของสวน สวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อน สลับกับสีชมพูบานเย็น เป็นสวนที่มีต้นไม้สีชมพูแผ่ไปเต็มพื้นที่ และนั่น คือเป้าหมายที่เราจะลงไปดูและสัมผัสใกล้ๆ ค่ะ

* * * * * * * *

สวนที่เราจะไป ตามป้าย “Plum Grove” ไปเลยค่ะ บรรยายกาศระหว่างเดินทาง คือดีมาก ถนนที่ถูกปูด้วยหินอย่างเป็นระเบียบ 2 ข้างทางนักท่องเที่ยวต่างพากันเดิน และแวะถ่ายรูปกันอย่างมีความสุข ชาวญี่ปุ่นปั่นจักรยานตามวิถีชีวิตของเขา และแล้วเราก็เดินมาถึง Plum Grove หรือสวนบ๊วยของปราสาทโอซาก้าค่ะ  …… เราไม่รู้ว่า ซากุระของจริงสวยแค่ไหน แต่สำหรับวันนี้ ดอกบ๊วย หลากหลายสี ชมพูสลับขาวแซมสีชมพูบานเย็น เล่นกับแสงแดด และอากาศช่วง 7-8 องศา ทุกอย่างลงตัวมาก และที่สำคัญ ซากุระก็ซากุระเหอะ วันนี้เราเต็มอิ่มกับความสวยงานของดอกบ๊วยสุดๆไปเลยค่ะ สวยมาก สวยจริงๆ <3 ..... ใช้เวลาเที่ยวเล่น และถ่ายรูปที่สวนบ๊วยอยู่สักพัก ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปกันต่อ เพราะวันนี้ยังมีสถานที่ที่ต้องไปกันอีก เราแวะร้าน Lawson หน้าปราสาท เพราะหาของกินรองท้องกันก่อน ก่อนเดินทางกันต่อ และที่ต่อไปคือ วัดชิเทนโนจิ ค่ะ
* * * * * * * *
นั่งรถไฟมาถึงสถานี Shitennoji-mae Yuhigaoka ซึ่งน่าจะใกล้วัดที่สุด จากนั้น ก่อนเดินทางกันต่อ แวะหาข้าวกิน ที่ร้านอาหารเล็กๆ แถวๆ ทางขึ้นสถานี เป็นร้านแบบกดสั่งจากตู้ แล้วมานั่งรอในร้าน สั่งเป็นข้าวหน้าเนื้อ แต่ต้องบอกว่า อร่อยมากๆค่ะ รู้สึกโชคดีที่ walk in ร้านแต่ละร้าน แบบไม่ได้ตามรีวิว แล้วอาหารอร่อยทุกร้านเลย อิอิ เสร็จแล้วพอท้องตึง เราก็เดินทางไปชมความงามของวัดชิเทนโนจิกันต่อ

***วัดชิเทนโนจิ เป็นวัดที่ไม่ใหญ่มาก ใช้บัตร Osaka Amazing Pass เข้าฟรี จุดเด่นน่าจะอยู่ที่เจดีย์ทรงสูง ที่ตั้งตระหง่านอยู่หลังประตูไม้ขนาดใหญ่ เป็นวัดอารามอารามพุทธแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ได้มีบันทึกไว้ อายุอานามก็กว่า 1,400 ปี ต้องยอมรับว่า ยังคงได้รับการเก็บรักษาและบูรณะไว้ได้เป็นอย่างดีมาก นอกจากความสวยงามและเก่าแก่ของวัดจะทำให้เราเพลิดเพลินแล้ว สิ่งที่ประทับใจอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เราต้องการหาที่จะเข้าห้องน้ำ แต่หาไม่เจอ มองไปมองมาเห็นคุณลุงกำลังกวาดลานวัดด้านหน้าอยู่ ก็เลยเข้าไปถาม คุณนลุงพยายามอธิบายเส้นทางไปห้องน้ำให้ คือเขาเข้าใจว่าเราต้องการไปห้องน้ำ แต่ลุงอธิบายไม่ได้ สุดท้าย คุณลุงเดินพาเรามาส่งถึงหน้าห้องน้ำเลย อันนี้คือประทับใจมาก เรารีบขอบคุณ คุณลุงก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ขอบคุณคุณลุงมากๆนะค้า

* * * * * * * *

เสร็จสิ้นจากวัดชิเทนโนจิ เราก็มุ่งหน้ากันต่อ ไปที่สวนสัตว์เทนโนจิ โอซาก้า ซึ่งสามารถเดินไปได้ เพราะอยู่ในละแวกเดียวกัน ใช้เวลาเดินหาประมาณ15 นาทีค่ะ แล้วเราก็ตาม GPS มาจนเจอทางเข้า แต่ป๊าดดดดดด มันพาเข้าทางข้างหลังสวนสัตว์ เหมือนทางเข้าพนักงานอ่ะค่ะ 555555 ก็เลยยอมเดินอ้อม เพื่อจะมาเดินเข้าข้างหน้าดีกว่า ก็เหมือนเดิม ใช้ Osaka Amazing Pass เข้าสวนสัวต์เทนโนจิ โอซาก้า ฟรี! ค่ะ สวนสัตว์ที่นี่ค่อนข้างกว้าง และถือว่าเป็นสวนสัตว์ที่อยู่ใจกลางเมืองมากๆเลย สัตว์น้อยใหญ่ที่อยู่ที่นี่ คงชินกับเรื่องแตรรถ และเสียงปั้นจั่นที่กำลังทำงาน ตอกพื้น เสียงดังตึงๆ แน่นอน โซนแรกที่เข้าไปเป็นโซนสัตว์เลื้อยคลานค่ะ ออกมาก็ไปดูฮิปโป ซึ่งตัวใหญ่มากกกกกกกกกก และที่สำคัญน้ำบ่อฮิบโปใส๊ใส ไม่ออกเขียวๆ เหมือนที่เขาดินนะคะ อิอิ แซวววววค่ะ จากนั้นไปดู สิงโต เสือ นก แรด ยีราฟ ม้าลาย และสัตว์อีกมากมายหลายชนิดค่ะ ถ้าพาน้องๆ หนูๆไปด้วย ที่นี่ดูน่าจะเหมาะเลยทีเดียว .......

จบจากการเดินชมสัตว์นานาชนิดแล้ว เราก็เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งของทางเข้าสวนสัตว์ เนื่องด้วยเห็นว่าเป็นย่านที่มีร้านค้ามากมาย สีสันสดใส ก็เลยลองเข้าไปดู ปรากฎว่าหันไปอีกที อ๋ออออออ นี่คือย่าน Shinsekai นี่เอง อีกหนึ่งย่านการค้าและแหล่งช็อปชิมชิล ของอาหารแนวสตรีทฟู้ดค่ะ เรียกได้ว่า เดินหลงมาเจอย่านนี้ก็ว่าได้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ในแพลนตั้งแต่แรก ก็ถือโอกาสชิมสตรีทฟู้ดของที่นี่สักหน่อย มาถึงโอซาก้า ไม่ชิมทาโกะยากิได้ไง เจอร้านแรก คนต่อแถวเยอะ ก็เลยซื้อตามเขา 555 ตรรกะง่ายมาก ......... เป็นร้านที่มีหมึกสีแดดตัวใหญ่อยู่ที่ป้ายชื่อร้านด้านบน สั่งออเดอร์จากตู้เสร็จ ก็มายืนรอคิวประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ เราก็ได้ ทาโกะยากิรสซอสถั่วเหลืองมากิน แต่ก็แอบไม่แน่ใจว่า เราได้ทาโกยากิอันที่เราสั่งไปหรือเปล่า เพราะพอกดตู้สั่งเสร็จ ปรากฎว่า คนขายเรียกเก็บใบออเดอร์จากมือลูกค้าทุกคนไปรวมไว้ที่เดียวกัน จากนั้นเวลาที่ทาโกะยากิพร้อมเสิร์ฟ เขาก็จะเรียกชื่อเมนูที่ได้เป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเราก็ฟังไม่ออก และก็ไม่รู้ว่าคิวไหนเป็นคิวไหน จนสุดท้ายรอเป็นคิวสุดท้าย สบายใจไปเลย 555555 .......... มาพูดถึงเรื่องรสชาติกันบ้าง สำหรับเราเอง เราว่า เฉยๆ แต่รู้สึกว่าถ้ากินตอนร้อนมันจะทำให้อร่อยขึ้น แต่ถ้าถามว่า ถึงขั้นกินไปแล้ว ว้าววววว ไหม ก็ไม่นะคะ แต่ถือว่า มาถึงแล้วต้องโดนทาโกะยากิ สักมื้อ ก็ถือว่าทำตามเป้าหมายได้สำเร็จแล้วค่ะ อิอิ ทริปของเราสำหรับวันนี้ยังไม่จบนะคะ เราจะไปต่อที่ย่าน Umeda ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์ชมเมืองกันค่ะ

* * * * * * * *

Umeda ถือว่าเป็นย่านใจกลางเมืองโอซาก้า ศูนย์รวมห้างร้านและบริษัทใหญ่ๆต่างๆ ถ้าให้เทียบก็คงเหมือนแถวๆ สีสม สาทร อะไรพวกนี้ค่ะ ศูนย์รวมหนุ่มสาวหน้าตาดีๆ มีให้มองมากมาย 555555 อย่าว่อกแว่กๆค่ะ จุดหมายของเราคือที่ชิงชาสวรรค์ Hep Five ที่ตึก Hap Five เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกพร้อมวิวมุมสูงของเมืองโอซาก้าจากบนนั้นกันค่ะ...... เมื่อไปถึง ก็เหมือนเดิม Osaka Amazing Pass ขึ้นพรีค่ะ อิอิ ขึ้นไปนั่งแล้ว ชิงช้าค่อยๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปอย่างช้าๆ สูงขึ้นๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเราไปอยู่ตรงจุดสูงสุดของชิงช้า พร้อมกับวิวมุมสูงแบบ 360 องศา และดวงอาทิตย์สีส้มที่กำลังส่องแสงและคล้อยต่ำลงหลบไปหลังตึกสูง ของย่านใจกลางเมืองโอซาก้าแห่งนี้
* * * * * * * *

ปิดท้ายทริปวันนี้ด้วยมื้อเย็นใกล้ๆ ที่พัก เรียกว่าซื้อมากิน ที่ที่พักเลยดีกว่า 5555 เพราะวันนี้เราฝากท้องไว้กับ เซเว่น ค่ะ ข้าวกล่องพร้อมกิน กลับมาเวฟที่ห้อง กินกันจนอิ่มแปร้ และพักผ่อนเอาแรง พรุ่งนี้เราจะไปลุย Universal Studio กันค่ะ

OSAKA, Japan <3