นักวิชาการมธ.แนะรัฐยกระดับ ‘มาตรฐานน้ำมัน’ ใช้ยูโร 5-6 แก้ไขปัญหา ‘ฝุ่นละออง’ กทม.ยั่งยืน
นักวิชาการธรรมศาสตร์ แนะรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา PM2.5 ระยะยาว ชี้ยกระดับมาตรฐานน้ำมันยูโร 5-6 ช่วยลดค่าฝุ่นละอองยั่งยืน
รศ.นันทวรรณ วิจิตรวาทการ คณบดีวิทยาลัยโลกคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเขตปริมณฑลในช่วงนี้ว่า สาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองนั้นคือยานพาหนะ ซึ่งทุกปีก็จะมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าในส่วนของอุปกรณ์การกรองน้ำมันหรืออะไรต่างๆ ของรถจะดีขึ้น แต่การมีปริมาณรถที่มากขึ้นก็ก่อให้เกิดมลพิษที่มากขึ้นตามไปด้วย และแม้รัฐบาลจะพยายามหาวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการปัญหาได้อย่างยั่งยืน
รศ.นันทวรรณ กล่าวว่า การแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืนมีหลายวิธี เช่น การใช้มาตรฐานน้ำมันดีเซลให้เป็นยูโร 5 และยูโร 6 ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปรับให้มีคุณภาพน้ำมันดีขึ้น ซึ่งจะสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง อีกส่วนคือรถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก ที่ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด นอกจากนี้อีกปัจจัยสำคัญคือการเผาไหม้เกษตร ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้มีการควบคุม โดยสิ่งที่มักพบเจอคือการเผาสวน เผาขยะ ประกอบกับอากาศที่แห้งก่อให้เกิดการลุกลามจากการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็ฯอีกประการหนึ่งที่ต้องเข้มงวด
“สาเหตุการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในครั้งนี้เกิดได้หลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเกิดจากอากาศ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวจึงทำให้สภาพอากาศแห้ง การไหลเวียนของลมจึงไม่ค่อยดีนักทำให้เกิดการสะสม นอกจากนี้ในเรื่องของอุตสาหกรรมก็ส่งผลด้วยเช่นกัน เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีอุตสาหกรรมมากมาย จึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษและปัญหาการเกิดฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานมักจะพบเจอได้อยู่ทุกปี” รศ.นันทวรรณ กล่าว
รศ.นันทวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ในเบื้องต้นคือควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในจุดที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ประกาศ แต่หากจำเป็นก็อาจใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก ซึ่งหน้ากากอนามัยที่ใช้กันทั่วไปไม่สามารถกรอง PM2.5 ได้ จึงควรใช้หน้ากากอนามัย N95 ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด อย่างไรก็ตามการแก้ไขในเบื้องต้นนั้นเป็นเพียงการแก้ไขที่ปลายเหตุ ควรให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหาแบบระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต
แหล่งที่มา:greennews