15 เรื่องน่ารู้ของ "เจสัน โมมัว" "อควาแมน" ขวัญใจแฟนฮีโร่ ที่จะทำให้คุณรักเขามากกว่าเดิม!

ช่วงนี้กระแสอควาแมนกำลังมาแรงมาก จนดันให้หนุ่มเจสัน โมมัว ขึ้นเป็นซูเปอร์ฮีโร่จากดีซีที่ครองใจแฟนคลับมากที่สุดไม่แพ้เพื่อนๆอย่างซูเปอร์แมนหรือแบทแมนไปแล้ว

แต่ก็มีหลายคนที่รู้จักเขามาจากบทบาทคาล โดรโก ในเกมชิงบัลลังก์ กับฉากเลิฟซีนสุดเร่าร้อนกับแม่มังกร จนหลายคนอาจติดภาพเขาว่าต้องเป็นดิบเถื่อน โหดร้ายไปโดยปริยาย แต่หลังจากเขาได้รับบทเป็นอควาแมน ซูเปอร์ฮีโร่จากดีซีแล้ว เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เขาไม่ได้ดีแต่รับบทใช้กำลังและความดิบเถื่อนเป็นอย่างเดียว และเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักเขามากขึ้น เราขอนำเสนอ 15 ข้อน่ารู้ของเจสัน โมมัว ที่จะทำให้คุณรักเขามากกว่าเดิม!!

1. ประวัติคร่าวๆ

เจสัน โมมัวสูง 193 เซนติเมตร หนัก 91 กิโลกรัม เป็นลูกชายคนเดียว เกิดในครอบครัวศิลปินอย่างแท้จริง โดยมีพ่อชื่อโจเซฟ เป็นจิตรกรชาวฮาวาย แม่ชื่อโคนี เป็นช่างภาพชาวเยอรมัน ไอริชและชนพื้นเมืองอเมริกัน ทำให้เจสันมีส่วนผสมของหลายเชื้อชาติ และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันลงตัวสุดๆ!!

2. ชื่นชอบวิชา ชีววิทยาทางทะเล

บังเอิญมากจริงๆ เพราะตัวเจสันนั้นก็ชื่นชอบเรื่องใต้ทะเลเป็นอย่างมาก หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย เขาเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยไอโอว่า เลือกลงชีววิทยาทางทะเลเป็นวิชาเอก ทำให้เขาหลงใหลโลกใต้ทะเลเป็นอย่างมาก และการได้รับบทเป็นอควาแมนก็ยิ่งทำให้เขาจูนกับคาแรกเตอร์ติดได้ไวกว่าเดิม

3. มีงานอดิเรกมากมาย

และงานอดิเรกส่วนใหญ่ที่เขาชื่นชอบนั้น ก็มักจะเกี่ยวข้องกับทะเลอยู่บ่อยครั้ง อย่างว่าเจสันเกิดในแผ่นดินฮาวาย ไม่แปลกที่เขาจะหลงรักทะเลมาก แต่ก็ไม่ได้มีแต่ทะเลเท่านั้นที่เขาสนใจ เพราะเมื่อตอนเป็นเด็ก เจสันเคยไปที่ฝรั่งเศสเพื่อเรียนการวาดภาพพาสเทล เดินทางไปหลังคาโลกอย่างทิเบต เพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาให้เข้าถึงจิตวิญญาณ และดูจากที่ชอบไปไหนไกลๆอยู่บ่อยครั้ง ก็อาจอนุมานได้ว่าเขาเองก็ชื่นชอบการท่องเที่ยวเช่นกัน

4. "อยากรู้รึเปล่า ว่าผมได้แผลเป็นตรงคิ้วมายังไง?"

หลายคนมักเข้าใจผิดว่ารอยแผลเป็นที่คิ้วของเขาคือเมคอัพ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย มันคือของจริง!! ซึ่งเจสันเคยเล่าที่มาของรอยแผลเป็นนี้ว่าเมื่อสมัยเขายังห้าวเป้ง เขาไปดื่มกินในบาร์แห่งหนึ่งที่ลอส แองเจลิส แล้วก็ตามประสา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันในบาร์ แล้วเจสันมีหรือจะพลาดความมันส์ในครั้งนั้น เขากระโจนร่วมด้วยจนถูกชายคนหนึ่งเอาแก้วฟาดเข้าที่หน้า ต้องเย็บกว่า 140 เข็มจนได้แผลเป็นดังกล่าวมาครอง แต่แทนที่เขาจะปกปิด เจสันเลือกจะเปิดเผยมันจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ติดตัวไปในที่สุด ปล. แผลเป็นนี้เขาได้มาก่อนจะไปเป็นคาล โดรโกใน Game of Thrones แค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง!!

5. เริ่มต้นสายงานบันเทิงด้วยการเดินแบบ

เหมือนกับนักแสดงหลายคน ที่ส่วนใหญ่เริ่มต้นงานแสดงจากการเป็นนายแบบ นางแบบมาก่อน เช่นเดียวกับเจสันที่เริ่มต้นด้วยการชนะประกวดนายแบบฮาวายประจำปี 1999  ด้วยเหตุผลอะไรก็น่าจะทราบกันดีนะแฟนๆทุกท่าน จนเขาได้งานแสดงเล็กๆในซีรีส์เรื่อง Baywatch Hawaii  อยู่ 3 ปี

6. เกือบได้เป็นไลฟ์การ์ด

เช่นเดียวกับบทอควาแมน ที่เขาต้องงัดความรู้เรื่องชีววิทยาทางทะเลมาทำให้อินกับคาแรกเตอร์ การแสดงในซีรีส์ Baywatch Hawaii  เขาก็ทำรีเสิร์ชด้วยเช่นกัน โดยการเป็นไลฟ์การ์ดให้ตามชายหาดในฮาวาย จนเขากลายเป็นไลฟ์การ์ดที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไป ตอนนี้เชื่อเลยว่าถ้าเจสันเลิกรับงานแสดง แล้วกลับไปเป็นไลฟ์การ์ดล่ะก็ ชายหาดนั้นจะต้องเต็มไปด้วยแฟนคลับแน่ๆ

7. ครองบทคาล โดรโกใน Game of Thrones ได้ยังไง?

เวลาเราดู Game of Thrones คงจะคิดในใจว่าคงไม่มีคนไหนเหมาะกับบทคาล โดรโกมากไปกว่าเจสัน โมมัวอีกแล้ว แต่สำหรับทีมแคสต์นักแสดงแล้ว ถึงกับคิดหนักเลยทีเดียวว่าเจสันจะมาเป็นผู้นำเผ่าโดธรากี้สุดโหดได้ยังไง ในเมื่อผลงานก่อนหน้า ทั้งซีรีส์ Baywatch Hawaii และ Stargate Atlantis ของเจสันเป็นแนวหนุ่มหน้าใสทั้งนั้น เมื่อเป็นแบบนี้ทำให้การออดิชั่นบทคาล โดรโก เจสันตัดสินใจทำพิธี Haka พิธีของชนเผ่าเมารี ที่มักใช้เพื่อข่มขวัญศัตรูให้กรรมการดู เท่านั้นแหละทำทั้งทีมแคสต์ประทับใจมาก ก่อนจะนัดเจสันให้มาใหม่เพื่อทำการอัดเทปส่งไปให้โปรดิวเซอร์ดู และหลังจากนั้น คาล โดรโกโดยเจสัน โมมัวก็ถือกำเนิดขึ้น!!

8. เป็นมากกว่านักแสดง

เจสันไม่ได้ทำหน้าที่หน้ากล้องเพียงอย่างเดียว เขายังเคยเป็น co-writer เป็นผู้กำกับและแสดงในหนังเรื่อง Road to Paloma อีกด้วย

9. ลูกชายของเขา มีชื่อเรียกยาวที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา

และชื่อของลูกชายเขาและลิซ่า บอนเน็ตศรีภรรยาคือ Nakoa-Wolf Manakauapo Namakaeha Momoa ยาวไหมล่ะ???

10. เป็นเพื่อนสนิทกับอดีตสามีของภรรยา

แปลกดีไม่น้อย เพราะเลนนี คราวิทซ์เคยแต่งงานกับลิซ่า บอนเน็ตมาก่อน โดยในปีต่อมาลิซ่าก็ให้กำเนิดลูกสาวแก่เลนนีชื่อ โซอี้ คราวิทซ์ ที่มีผลงานหนังอย่าง X-Men: First Class, ซีรีส์ Divergent และ Mad Max: Fury Road กระทั่งปี 2003 เลนนีและลิซ่าก็แยกทางกัน จนเธอมาเจอกับเจสันในปี 2005 และแต่งงานกันในปี 2007 และเจสันก็รักทั้งเลนนีและโซอี้ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกสาวบุญธรรมของเขามาก ถึงขนาดนับญาติกับเลนนีเลยทีเดียว

11. เจสันรักภรรยามาก 

หลายคนคิดกันว่าความรักในวงการฮอลลีวูดมันมีแต่ฉาบฉวย สักพักก็เลิกรากันไป แต่ไม่ใช่กับเจสัน เขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงภรรยาของเขาว่า "เธอเป็นดั่งนางฟ้าของผม เธอน่าทึ่งมากเพราะผมมันเป็นแค่ไอ้หน้าโง่คนหนึ่ง" และในหนังเรื่อง Road to Paloma เจสันเคยแอบเขียนบทหวานๆให้ภรรยาซึ่งร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย เพราะเขาฝันอยากจะเล่นหนังกับเธอสักครั้ง แต่พอมาเข้าฉากทั้งคู่ เจสันกลับเขินระทวยต่อหน้าภรรยาจนเล่นต่อไม่ได้เสียอย่างนั้น!!

12. ชอบทำผมทรงเดร็ดล็อค

ไม่ใช่เพราะบทคาล โดรโกถึงทำให้เจสันต้องทำทรงเดร็ดล็อคนะ เพราะตัวเขาก็ชอบผมทรงนี้เหมือนกัน ตอนเขาแสดงในซีรีส์ Stargate Atlantis โปรดิวเซอร์เคยขอร้องให้เจสันตัดผมเดร็ดล็อคออก แต่สุดท้ายก็อนุญาตให้เขาไว้ต่อ จนกลายมาเป็นซิกเนเจอร์ของตัวละครที่เจสันแสดงไปเสียแล้ว แต่เมื่อเขาเล่นมาถึงซีซั่น 4 เจสันเริ่มรู้สึกปวดหัวกับน้ำหนักผมทรงเดร็ดล็อคของตัวเอง จึงลงมือตัดทิ้ง โปรดิวเซอร์ต้องแก้บทแถเรื่องทรงผมของตัวละครเจสันในซีซั่นที่ 5 แต่ผู้ชมกลับไม่พอใจที่ทีมงานแก้ทรงผมของเขา สุดท้ายเจสันต้องใส่วิกทรงเดร็ดล็อคแทน

13. เจสัน กับถุงเท้าสุดฮาในวันที่ต้องเข้าฉากเลิฟซีน

จะไม่พูดเรื่องนี้ก็กระไรอยู่ เพราะบทนี้เขาเป็นที่จดจำอย่างมาก และในวันที่ต้องเข้าฉากเร่าร้อนใน Game of Thrones เจสันต้องสวมถุงเท้าสีเนื้อสั่งทำพิเศษเพื่อปกปิด "เจ้าโลก"  ของเขาเอาไว้เวลาเข้าฉากกับเอมิเลีย คลาร์ก หรือแม่มังกร และด้วยความที่เจสันสนิทกับเอมิเลียมาก เขาเลยอยากสร้างรอยยิ้มให้กับเธอเพื่อคลายความเครียด ดังนั้นเจสันจึงโยนถุงเท้าสีเนื้อทิ้ง แล้วเอาถุงเท้าสีชมพูหวานแหววสวมเจ้าโลกของตัวเองแทน เท่านั้นแหละฮากระจายทั้งกอง!!

14. ไม่ค่อยโอเคกับฉากเลิฟซีนใน Game of Thrones

เราที่เป็นคนดู ยังรู้สึกเลยว่า ฉากเลิฟซีนระหว่างคาล โดรโกกับแม่มังกร ในซีซั่นแรกๆของ Game of Thrones นั้นดูจะโหดร้ายทารุณไปบ้าง เช่นเดียวกับเจสัน ที่รู้สึกไม่ค่อยโอเคกับฉากนี้เท่าไหร่ เขาเคยยอมรับว่า "ฉากนั้นถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ยาก และลำบากใจที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาเลยก็ว่าได้ ผมรักเอมิเลีย เธอเป็นคนที่น่ารักมาก จนถึงทุกวันนี้ผมก็รักเธออยู่ แต่ ณ ตอนนั้นเราต้องเข้าฉาก ผมเลยต้องพยายามแยกตัวตนของผมออกมา แล้วสวมบทเป็นคาล โดรโกเข้าไปแทนที่ให้ได้ เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่คาลทำ ไม่ใช่ตัวผม" หลังจากเสร็จสิ้นฉากดังกล่าว เจสันรีบเข้าไปขอโทษขอโพยเอมิเลียยกใหญ่ จนปัจจุบัน ทั้งสองก็ยังเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันเสมอมา

15. ยอมเล่น JUSTICE LEAGUE เพราะลูกๆ

มีน้อยมากที่ผลงานของเจสัน โมมัวจะเป็นมิตรต่อเด็กเล็ก เพราะแต่ละเรื่องที่เขาเล่นนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง จะให้เจสันจับลูกๆมานั่งดูพ่อตัวเองไล่กระทืบคน หรือข่มขืนผู้หญิงนั้นมันก็ใช่ที่ เพราะแบบนี้ทำให้ตัวเจสันตื่นเต้นและดีใจมาก ที่ได้รับเลือกจากแซ็ค สไนเดอร์ให้มารับบทอควาแมนในจักรวาลดีซี เจสันเผยว่าลูกชายของเขาชอบแบทแมนมาก ส่วนลูกสาวก็ชอบวันเดอร์ วูแมนมากเช่นกัน ทำให้เขาคิดว่าคงจะเจ๋งไม่น้อย ที่ลูกๆของเขาจะได้เห็นพ่อตัวเองอยู่ท่ามกลางตัวละครที่ลูกๆรัก เพราะยังไงก็ตามพวกเขาก็ดู Game of Thrones ไม่ได้ชัวร์ๆ