ตู้ยาไม่ต้อง ตู้เย็นก็พอ!! 7 สิ่งสู้กับโรคภูมิแพ้ 😘

โรคภูมิแพ้จัดเป็นโรคยอดฮิตของคนไทย และสามารถสร้างความทุกข์ใจให้กับทุกเพศและทุกวัยได้อย่างไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าจะอาการไอ จาม คัดจมูก หรือน้ำมูกไหล ซึ่งสุดท้ายวิธีการแก้ปัญหาของหลาย ๆ คนมักจะจบลงด้วยการกินยาเพื่อบรรเทาอาการ

 

แต่จะดีกว่าไหม หากเราสามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีจากตัวยา และให้วัตถุดิบง่าย ๆ ในตู้เย็นมาเป็นอาหารช่วยต้านภูมิแพ้

 

สุดยอด 5 วัตถุดิบบ้าน ๆ ที่ช่วยต้านภูมิแพ้ได้แบบไม่น่าเชื่อ

 

1. กินมะเขือเทศ เพิ่มไลโคปีน กันซีนโรคภูมิแพ้

มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายมาก ๆ รสชาติอร่อย และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจำพวกสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ ทั้งไลโคปีน, แอลฟา-แคโรทีน, เบตา-แคโรทีน และลูทีน โดยเฉพาะไลโคปีนที่มีคุณสมบัติสำคัญในการป้องกันโรคภูมิแพ้

 

งานวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคหอบหืดจากอาการภูมิแพ้มีอาการอักเสบของปอดลดลง หลังจากได้กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่ำเป็นเวลา 10 วัน ตามด้วยอาหารที่มีสารสกัดจากมะเขือเทศที่มีไลโคปีนปริมาณ 45 มิลลิกรัมเป็นเวลา 7 วัน และต่อด้วยน้ำมะเขือเทศที่มีไลโคปีนปริมาณ 45 มิลลิกรัม อย่างต่อเนื่องอีกอีก 7 วัน

 

แค่เปิดตู้เย็นก็สามารถหยิบเจ้ามะเขือเทศกินได้ทันทีแบบไม่ต้องปรุง เพราะมะเขือเทศสดมีความปลอดภัยสูงมาก เด็ก ๆ และผู้ใหญ่สามารถทานได้ในชีวิตประจำวัน

 

แต่สำหรับมะเขือเทศที่ผ่านการแปรรูปเป็นสารสกัด ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 8 สัปดาห์ เนื่องจากอาจเป็นพิษต่อร่างกายจนเกิดผลข้างเคียงได้ ไม่ว่าจะอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ไปจนถึงอาการระคายเคืองลำคอและช่องปากอย่างรุนแรง

 

2. น้ำมะนาวเปรี้ยวจี๊ด ดื่มวันละจิบ ภูมิแพ้หายไปโดยพลัน

น้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง วิตามินตัวนี้นอกจากจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นแล้ว ยังอาจช่วยป้องกันการหลั่งสารฮิสตามีนได้อีกด้วย ซึ่งสารฮิสตามีนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นมาและทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ ทั้งอาการน้ำมูกไหล, จาม, คันจมูก หรือผื่นคันตามผิวหนัง

 

คุณสามารถดื่มน้ำมะนาวได้ทุกวันอย่างไร้กังวล เนื่องด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายและคุณสมบัติที่ละลายในน้ำได้ดีของวิตามินซี ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมส่วนที่จำเป็นไปใช้และขับส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะได้อย่างง่ายดาย หมดปัญหาเรื่องวิตามินซีสะสมในปริมาณที่มากเกินไป

 

เพราะร่างกายของเราไม่สามารถผลิตวิตามินซีเองได้ อย่าลืมจิบน้ำมะนาวกันวันละนิดนะ คุณอาจคั้นน้ำมะนาวผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำผึ้งธรรมชาติ เพื่อความกลมกล่อมและคล่องคอมากขึ้น โดยที่คุณประโยชน์ของเจ้าวิตามินซีก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย

 

3. หอมหัวแดง ภูมิปัญญาชาวบ้าน บรรเทาภูมิแพ้มาตั้งแต่รุ่นคุณทวด

หอมหัวแดงเป็นสมุนไพรในครัวเรือนที่บรรพบุรุษของเราใช้รักษาโรคหวัดมาอย่างยาวนาน เพียงแค่กินวันละครึ่งหัวก็จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น โดยทางการแพทย์พบว่า ในหอมหัวแดงมีสารซิลิเนียม ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มันจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับภูมิแพ้และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ได้

 

สารซิลิเนียมต้องได้รับอย่างพอดี สำหรับผู้ที่อายุ 13-71 ปี ควรได้รับซิลิเนียมไม่เกิน 55 ไมโครกรัมต่อวัน หากร่างกายได้รับสารนี้มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ เช่น อาการเล็บฉีก ผมแห้งขาดความชุ่มชื่น และรากผมไม่แข็งแรง เป็นต้น แต่ถ้าได้รับสารนี้น้อยเกินไปก็จะทำให้หน้าแก่ก่อนวัยได้เช่นกัน

 

4. เมล็ดทานตะวันเคี้ยวเพลิน ของทานเล่นที่ประโยชน์ไม่ใช่เล่น ๆ

อาหารที่ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ไม่จำเป็นต้องเป็นผักผลไม้เสมอไป เพราะของทานเล่นอย่างเมล็ดทานตะวันก็ช่วยต่อสู้กับโรคนี้ได้เช่นกัน โดยเมล็ดทานตะวันอุดมไปด้วยวิตามินอีค่อนข้างสูง ซึ่งวิตามินอีจะช่วยลดการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับคนที่มีสาเหตุของอาการภูมิแพ้มาจากมลพิษทางอากาศ หรือฝุ่น หากคุณทานอาหารที่มีวิตามินอีควบคู่ไปกับวิตามินเอ เช่น ฟักทอง, แครอท, เนย เป็นต้น คุณก็จะได้รับประโยชน์คูณสองเลย เพราะเมื่อวิตามินสองตัวนี้มาเจอกันมันจะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เกี่ยวกับปอดที่อาจเกิดจากมลพิษได้

 

5. ไข่ไก่ วัตถุดิบคู่ครัว บ้านไหนไม่มีถือว่า OUT!

ไข่ไก่ คือ แหล่งรวมสารอาหารที่ทุกบ้านต้องมี เพราะเจ้าทรงรีนี้มีประโยชน์เยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องโปรตีน ไข่ไก่หนึ่งฟองอุดมไปด้วยโปรตีนถึง 6 กรัม ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของกรดอะมิโนถึง 9 ชนิด และกรดอะมิโนเหล่านี้ก็จะเป็นสารสำคัญในการนำไปสร้างภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ให้ร่างกายต่อไป

 

นอกจากจะเป็นแหล่งรวมโปรตีนและวิตามินหลากหลายชนิดแล้ว ไข่ไก่ยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และช่วยให้การผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นไปอย่างปกติอีกด้วย

 

กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า ควรทานไข่ 3 - 4 ฟองต่อสัปดาห์ เนื่องจากไข่ไก่หนึ่งฟองจะมีคอเลสเตอรอลประมาณ 250 มิลลิกรัม และคนเราควรได้รับคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกายไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัมเท่านั้น

 

เพียงเพิ่มเมนูไข่เข้ามาอย่างพอดี ไม่ว่าจะต้ม ตุ๋น เจียว หรือทอดก็สามารถบรรเทาอาการภูมิแพ้ไปได้อีกก้าวแล้ว

 

เคลียร์ตู้เย็น เพื่อชีวิตที่ดีไร้ภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ไม่เข้าใครออกใคร นอกจากการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยปรับภูมิคุ้มกันในร่างกายและลดปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้แล้ว การเคลียร์ตู้เย็นให้ปลอดฝุ่นและสะอาดสะอ้านอยู่เสมอก็ช่วยป้องกันและบรรเทาโรคภูมิแพ้ได้เช่นกัน 

 

โดยเฉพาะขอบยางข้างตู้เย็นที่พอใช้ไปนาน ๆ เชื้อราก็มักมาเยือน ทั้งคราบน้ำมัน ทั้งคราบฝุ่นที่ผสมกันจนกลายเป็นราดำเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งจัดเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคตัวร้าย คุณควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ โดยใช้ฟองน้ำชุบสบู่แล้วเช็ดคราบสกปรกออกให้หมดจด

 

ทั้งนี้คุณควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด เพื่อสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรงและไม่เป็นจุดอ่อนให้โรคภูมิแพ้เล่นงานเอาได้อีก