โลกโซเชียลได้แชร์ข้อความพร้อมภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ออกมาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์และขอความช่วยเหลือ หลังจากที่เจ้าตัวซื้อบ้านหรูราคากว่า 25.3 ล้านบาท แต่กลับพบปัญหาตามมาหลายอย่าง น้ำรั่วทั้งหลัง รอยร้าวบ้าง ซึ่งเจ้าตัวทำการแก้ไขและซ่อมแซมหลายครั้งแต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิมจนเกิดอาการท้อใจ โดยเจ้าตัวซื้อมานาน 5 เดือนยังไม่ได้เข้าอยู่ ทั้งนี้มีข้อความระบุรายละเอียดว่า...ช่วยเราด้วย ซื้อบ้าน ... ราคา 25.3 ล้านบาท น้ำรั่วทั้งหลัง เราได้ซื้อบ้านเดี่ยว โครงการ... สุขุมวิท ของบริษัท อยู่ที่ซอยสุขุมวิท101 ไป เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2561 เราเชื่อมั่นในชื่อเสียงบริษัท และคิดว่าแม้จ่ายเงินราคาแพงหน่อย แต่ได้บ้านมีคุณภาพที่ดีก็ยอม เราได้จ้างบริษัทมาตรวจบ้าน ซึ่งตรวจไปถึง 3 ครั้งก่อนโอนบ้าน

ตอนนี้ผ่านมาเกือบ 5 เดือน บ้านยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้เลย บ้านที่เราซื้อมีปัญหาการรั่วซึมตลอดทั้ง 3 ชั้น และชั้นละหลาย ๆ จุด ทางโครงการแก้ไขซ้ำไปซ้ำมาไม่หาย คือพอแก้ไปเสร็จ ฝนตกใหม่ก็รั่ว วนไปมาแบบนี้ แถมยังเจอจุดน้ำรั่วตำแหน่งใหม่เพิ่มมาอีกมากมาย ชั้น 1 - พบน้ำรั่วบริเวณฝ้าเพดานโรงรถ ตำแหน่งเก่าและตำแหน่งใหม่ - พบวอลเปเปอร์เป็นรา น้ำรั่วซึมที่บริเวณผนังห้องรับแขก - พบน้ำรั่ว บริเวณฝ้าเพดานด้านในเหนือประตูบ้าน

ชั้น 2
- พบวอลเปเปอร์เป็นรา น้ำรั่วซึมที่บริเวณผนังห้องรับแขก
- พบน้ำรั่วบริเวณห้องแต่งตัว
- พบวอลเปเปอร์เป็นรา น้ำรั่วซึมบริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 2
- พบรอยร้าวที่ผนังด้านนอกบ้าน

ชั้น 3
- พบรอยน้ำรั่วจากดาดฟ้าหลังคาหลายจุด
- พบวอลเปเปอร์เป็นรา น้ำรั่วซึมบริเวณโถงบันไดขึ้นชั้น 2
- พบรอยร้าวบริเวณผนังด้านในบ้านตรงโถงบันได 
(ร้าวจากการแก้ไขรอยร้าวด้านนอกบ้าน)
- พบรอยร้าวบริเวณผนังด้านนอกบ้าน

เราไม่เคยคิดเลยว่า การตัดสินใจซื้อบ้านกับบริษัท... บริษัทใหญ่ และมีชื่อเสียงในครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่สุดในชีวิต ไปดูบ้านทุกครั้ง กลับมาร้องไห้ทุกครั้ง บ้านที่เราซื้อมาไม่ได้ฉาบปูนที่อิฐมวลเบา แล้วตำแหน่งอื่น ๆ ในบ้านหละจะเป็นยังไง แค่คิดว่าต้องผ่อนหนี้บ้านหลังนี้ไปอีก 30 ปี โดยที่บ้านอาจปัญหาตามมาอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้ประกันก็เหลืออีกแค่ 7 เดือนเท่านั้น ยิ่งคิดยิ่งเครียด

ท้อยิ่งกว่าท้อ ตำแหน่งใหม่ที่พบน้ำรั่ว วิศวกรที่ทำหน้าที่ดูแลซ่อมบ้านก็รู้ทั้งรู้ แต่ไม่เคยบอก เราต้องมาตรวจบ้านถึงมาเห็นเอง หรือตอนก่อนโอนบ้านก็ตรวจพบความชื้นที่ผนังห้องรับแขกชั้น 1 ซึ่งวิศวกรโครงการบอกว่าเป็น Design defect (ผนังชื้นจากต้นไม้ที่ปลูกอยู่ติดบ้าน) เราก็ดันเชื่อ หรือบอกว่าจะพา QC มาช่วยดู ก็ไม่ใช่ QC จริง ๆ ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนพนักงานทุกคนในบริษัททำดีกับเราแค่ต่อหน้า แท้จริงก็ช่วยปกปิดปัญหาของบริษัทตัวเอง

ใครพอจะมีความรู้หรือข้อแนะนำ ขอรบกวนช่วยหน่อยนะคะ เราเครียดมากจริง ๆ ตอนนี้มืดมิดหาทางออกไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเรื่องดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไปได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย พร้อมกับคำแนะนำ อาทิ

ขอบคุณ : Kimchi Kim