อดีต กปปส. ขอโทษประชาชน หลังเคยร่วมเป่านกหวีดกับ 'สุเทพ เทือกสุบรรณ'
"ปนิธิ แสนปราชญ์" ระบายความรู้สึกถึง "สุเทพ เทือกสุบรรณ" บอกเสียใจถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือสมัยร่วมชุมนุม กปปส. รู้สึกผิดหวังกับการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้ พร้อมขอโทษประชาชนกับสิ่งที่ทำลงไป
นายปนิธิ แสนปราชญ์ อดีตผู้เข้าร่วมการชุมนุม กปปส. โพสต์เฟซบุ๊กถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. และผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุถึงเหตุผลที่เข้าร่วมชุมนุมในอดีต เพราะคิดว่าเป็นการต่อสู้เพื่อชาติจริงๆ แต่วันนี้พิสูจน์เเล้วว่าคิดผิด สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพียงการถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของนายสุเทพและแกนนำเท่านั้น
นายปนิธิ ยังบอกด้วยว่า เคยคิดว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาดำรงตำเเหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว จะรีบแก้ไขปัญหาเเละคืนอำนาจให้กับประชาชน นำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็ว แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดังหวัง อาการหนักยิ่งกว่ารัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยเสียอีก
"ข้าพเจ้าขอกราบขอโทษประชาชนชาวไทยด้วยความรู้สึกอดสูใจอย่างยิ่ง ผมชัดเจนนักเลงพอกล้าทำกล้ารับ" ตอนหนึ่งที่นายปนิธิระบุ
พวกคุณไม่มีสิทธิมานั่งเสวยสุขกดหัวประชาชนด้วยท่าทีเหมือนประชาชนเป็นทาสเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณที่ยึดอำนาจโดนเผด็จการทหาร..
เราประชาชนทุกสาขาอาชีพร่วมใจกันออกมาสู้กันมากมายขนาดนี้ พวกเราประชาชนเข้าใจเสมอว่าหากประเทศมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาประเทศได้ เราประชาชนขอยอมเสียสละยอมเจ็บปวดยอมอดทนต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น
เพื่อการเปลี่ยนแปลงของชาติบ้านเมืองที่ต้องดีกว่าเดิมเพื่อให้ประเทศชาติกลับมาอยู่บนเส้นทางของความถูกต้องเป็นธรรมอีกครั้งหนึ่ง...
การที่นายสุเทพและพวก ใช่วาทะกรรมหลอกลวงทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าพวกเราประชาชนกำลังเข้าต่อสู้เสียสละเพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ดีขึ้น.
มันทำให้คนไทยหัวใจรักชาติอย่างพวกเราออกมาเข้าร่วมการต่อสู้กับกปปส.อย่างเต็มกำลัง โดยมิได้มีการว่าจ้างแต่อย่างใด การออกมาของประชาชนร้อยละร้อยล้วนมาด้วยหัวใจที่คิดต่อสู้ด้วยหัวใจที่รักชาติรักแผ่นดินอย่างแท้จริง..
เราประชาชนยอมอดทนทุ่มเทเสียสละทั้งกำลังกายเสียสละกำลังทรัพย์ กำลังสติปัญญา เข้าร่วมสนับสนุนข้าวปลาอาหารน้ำดื่ม เครื่องดื่ม ตลอดจนยารักษาโรค สนับสนุนกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ทั้งยังมาอดทนร่วมสู้ มากินมานอนบนท้องถนนร่วมกับเพื่อนๆ ผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างไม่เคยปริปากบ่น ทิ้งบ้านทิ้งลูกทิ้งเมียทิ้งบ้านเกิดทิ้งคนที่รักทิ้งความสุขส่วนตัวมาร่วมเข้าสู้เป็นเวลาหลายๆ เดือน หมดกำลังทรัพย์โดยส่วนตัวมิใช่น้อย
เราประชาชนยอมเสียสละเพื่อขออย่างเดียวประเทศนี้ต้องดีขึ้น มีแผ่นดินที่มีความเป็นธรรมให้กับลูกหลานไทยประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอนาคตที่สดใส รัฐบาลบริหารใช้ทรัพย์กรของชาติอย่างเป็นธรรมพลังงานถูกลง ประชาชนผู้ประกอบสัมมาชีพสามารถยืนบนขาตนเองได้ครอบครัวมีความสุข
ฝันเห็นประเทศมีความเจริญด้วยคนรุ่นใหม่ที่รักชาติรักแผ่นดินร่วมกันพัฒนาชาติให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ นี่คือความหวังสูงสุดในการเข้าร่วมต่อสู้..
ประชาชนร่วมเดินกับนายสุเทพทั่วพระนครเพื่อระดมทุนไว้สำหรับการต่อสู้เพื่อรับบริจาคขอรับการสนับสนุน จากพี่น้องประชาชนกรุงเทพมหานครซึ่งล้วนออกมาช่วยกันด้วยหัวใจอย่างแท้จริง โดยคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ทำเพื่อชาติจริงๆ ใครจะคิดละว่าสิ่งที่เราประชาชนทำลงไปมันคือการถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของนายสุเทพและพวกแกนนำ กปปส.
ให้เข้าใจว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธเข้ามาแล้ว จะรีบแก้ไขทุกอย่างให้เรียบร้อย และรีบคืนอำนาจให้กับประชาชนได้เลือกตั้งโดยเร็วซึ่งคาดว่าคงใช้เวลาสัก 2 ปี เราประชาชนผู้คาดหวังว่าอำนาจอธิปไตยจะกลับมาอยู่ในมือประชาชนอีกครั้ง ประชาธิปไตยจะต้องเบ่งบาน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปลายปี 2558/2559 ซึ่งประชาชนผู้รักประชาธิปไตยก็ยอมอดทนรอคอยวันนั้นให้มาถึงไวๆ
ประชาชนยอมกินบุญเก่าพยามเข้าใจอดทนบอกกับตนเองว่าอีกไม่นานอีกไม่นานรออีกนิดเราก็จะได้เลือกตั้ง เราประชาชนจะได้รัฐบาลที่ดีเคารพสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนผู้เสียภาษี
และแล้วสิ่งที่ประชาชนกลัวก็เกิดขึ้น รัฐบาลทหารเหมือนกันหมด เมื่อเข้ามามีอำนาจก็จะเสพติดอำนาจแล้วจะเกิดการลุมหลงบ้าอำนาจ แสดงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากคนพูดจาดีสุภาพสมชายชาติทหารมีเกียรติมีศักดิ์ศรี กลายเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมกราวร้าวผู้จาฟังไม่ได้ ใช้แต่อารมณ์ขี้หงุดหงิดบ้าอำนาจเหยียบย่ำสื่อสารมวลชนปิดกันเสรีภาพทำยังกับสื่อเป็นทาสกดขี่บังคับให้คนต้องดูข่าวประชาสัมพันธ์รัฐบาลช่วงหลังเคารพธงชาติ และคืนวันศุกร์ที่ประชาชนต้องถูกบังคับให้ดูจนต้องปิดทีวีหนีความอัปยศอดสูจากการกระทำแห่งการบังคับกดขี่ของรัฐเผด็จการ..