20 ข้อดีที่ทำให้ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก

 

 

ถ้าหากพูดถึงการไปท่องเที่ยวที่ประเทศออสเตรเลีย หลายๆ คนคงนึกไปถึง ซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ ที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากไปถ่ายรูป แต่ถ้าให้คุณนึกถึงอย่างอื่นอีกล่ะ คุณจะนึกถึงอะไรบ้าง

1. ซิดนีย์ โอเปรา เฮาส์ (Sydney Opera House)

อย่างที่กล่าวไปว่า นี่คือสัญลักษณ์ของออสเตรเลียอย่างแท้จริง ใครที่ไปเที่ยวถึงซิดนีย์แล้ว ห้ามพลาดที่จะไปถ่ายรูปที่นี่เด็ดขาด

2. สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge)

นี่คือสะพานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซิดนีย์ และเป็นหนึ่งในสะพานเหล็กทรงโค้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่สะพานแห่งนี้มีทั้งพิพิธภัณฑ์และหอสังเกตการณ์ที่ชื่อ Pylon Lookout อยู่ในหอคอยที่หนึ่งของสะพาน ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวซิดนีย์และวิวของเมืองได้อีกด้วย

3. เสาหินสาวกทั้ง 12 (The Twelve Apostles)

นี่ไม่ใช่ชื่อภาพยนตร์ แต่มันคือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติ พอร์ท แคมป์เบลล์ รัฐวิคตอเรีย โดยที่นี่มีจุดเด่นในเรื่องหินผาขนาดใหญ่ และเสาหินปูนที่โดดเด่นบริเวณริมชายหาด รวมถึงวิวที่งดงามไม่เป็นรองที่ไหนในโลก

4. ปาฏิหาริย์น้ำตกแนวนอน

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำตก หลายๆ คนอาจรู้จัก ‘น้ำตกรัสเซลล์’ และ ‘น้ำตกมิทเชลล์’ ที่มีความสวยงามมากๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาดูได้ยากอย่าง ‘น้ำตกแนวนอน’ ที่สามารถชมได้ในอ่าวทัลบอท ที่มีแนวสันเขาทั้ง 2 ฝั่ง ขนานกันยาวประมาณ 300 เมตร น้ำจำนวนมหาศาลจะถูกผลักดันออกมาเป็นคลื่นยักษ์ จนเกิดเป็นน้ำตกแนวนอนชั่วคราวขึ้น

5. ดินแดนแห่งสัตว์

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงสัตว์ประจำชาติออสเตรเลีย หลายๆ คนต้องนึกไปถึงจิงโจ้อย่างแน่นอน ที่ออสเตรเลีย พื้นที่ 1 ใน 3 คือเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและอุทยานแห่งชาติ และไม่ใช่แค่จิงโจ้เท่านั้น ที่นี่ยังมีสายพันธุ์ของสัตว์ที่แตกต่างกันกว่า 200,00 ชนิด ที่คุณจะสามารถพบมันได้ในทุกๆ ที่

6. อุทยานแห่งชาตินิทมิลุค (Nitmiluk National Park)

หนึ่งในสถานที่ทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดในออสเตรเลีย คุณสามารถล่องเรือแคทเธอรีนจอร์จ ไปตามแม่น้ำท่ามกลางหุบเขาทั้ง 2 ฝั่ง เยี่ยมชมวิถีชาวเมือง ตั้งเต็นท์ชมตัววัลลาบีกระโดดไปมา ค้างคาวแม่ไก่ที่บินอยู่รอบๆ คุณ หรือจะเป็นเสียงหอนของหมาป่าดิงโกที่หาชมได้ยาก

7. อูลูรู (Uluru)

มันยากที่จะเชื่อ แต่นักวิทยาศาสตร์อ้างว่า หินผาสีส้ม-น้ำตาลแห่งนี้ที่มีอายุมานานมากถึง 680 ล้านปี โดยตั้งอยู่บริเวณใจกลางของประเทศออสเตรเลีย หินอูลูรู มีความยาวถึง 3.6 กิโลเมตร กว้าง 3.2 กิโลเมตร และสูงถึง 1,142 ฟุต บริเวณหินโบราณแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยถ้ำมากมาย และยังมีภาพเขียนโบราณตามกำแพงหินต่างๆ นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหินอูลูรู ยังสามารถชมการแสดงของชาวพื้นเมืองได้อีกด้วย

8. ทะเลสาบแม็กเคนซี และ ทะเลสาบฮิลลิเออร์ (McKenzie Lake, Hillier Lake)

ทะเลสาบแม็กเคนซี คือหนึ่งในทะเลสาบที่มีน้ำใสที่สุดในโลก รวมไปถึงหาดทรายสีขาวที่เกิดจากแร่ซิลิก้าบริสุทธิ์ 100% และอีกหนึ่งทะเลสาบที่โด่งดังที่สุดในโลก นั่นก็คือทะเลสาบฮิลลิเออร์ ที่มีสีชมพูราวกับนมเย็น แต่เดิมทีทะเลสาบแห่งนี้ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตเกลือ ภายหลังนักวิทยาศาสตร์พบสาเหตุที่ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นสีชมพู โดยมันเกิดจากแบคทีเรีย Dunaliella ซึ่งอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เค็มจัด ซึ่งมันจะผลิตสารสีแดงในการดูดซับแสงอาทิตย์ จนทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นสีแดงอ่อนจนถึงสีชมพู

9. ความสวยงามของออสเตรเลียใต้ (South Australia)

ในเมือง แอดิเลด (Adelaide) รัฐออสเตรเลียใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออย่างไร่องุ่น และทัศนนียภาพที่มีสีสัน คุณสามารถไปผ่อนคลายบนชายหาด Glenelg ลิ้มรสอาหารทะเลอร่อยๆ รวมไปถึงไวน์รสชาติเยี่ยมอย่าง Chardonnay, Cabernet และ Pinot Noir

10. ชนพื้นเมืองที่มีเสน่ห์

วัฒนธรรมของชาวอะบอริจิน ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่อาศัยอยู่บนโลกมาถึงปัจจุบันนี้ โดยแตกออกเป็น 250 ภาษา และ 700 สำเนียง ตำนานท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุด บอกเล่าถึง ‘Dreamtime’ ซึ่งเป็นยุคทองของบรรพบุรุษชาวอะบอริจินที่เกิดขึ้นมา โดยสะท้อนให้เห็นเรื่องราว งานฝีมือ เพลงและการเต้นรำ รวมไปถึงตำนาน ‘งูสายรุ้ง’ ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย

11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซิดนีย์ (Sea Life Sydney Aquarium)

คุณอาจจะต้องมีเวลานาน 3-4 ชั่วโมง ในการสำรวจพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่นี้ให้ทั่ว โดยภายนี้จะถูกแบ่งออกเป็นโซน Northern Rivers, Southern Rivers, Great Barrier Reef และ Southern Ocean โดยมีมหาสมุทรจำลองขนาดยักษ์ 3 แห่ง ตู้ปลาขนาดใหญ่ 27 และตู้ปลาธรรมดาอีก 23 แห่ง นอกจากปลาฉลามที่เป็นจุดเด่นแล้ว คุณยังได้ชมปะการัง จระเข้น้ำเค็ม เต่าทะเล แมวน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

12. ชายหาดสายรุ้ง (Rainbow Beach)

หนึ่งในสถานที่ๆ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดก็คือชายหาดสายรุ้ง หรือ เรนโบว์บีช ที่อยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ นอกจากคุณจะได้สัมผัสกับชายหาดที่มีทรายขาว น้ำทะเลใสๆ กิจกรรมขี่ม้าริมชายหาด คุณยังได้รับประทานอาหารเลิศรส กับไวน์ชั้นเยี่ยมอีกด้วย

13. หุบเขาไม้ยักษ์, อุทยานแห่งชาติวัลโพล-นอร์นาลุป (Walpole-Nornalup National Park)

เป็นสถานที่ๆ คุณจะได้ตื่นเต้น กับทางเดินที่ทอดยาวเหนือพื้นดินถึง 131 ฟุต เหยียบย่างผ่านยอดไม้ของต้นไม้ยักษ์ที่มีอายุราว 400 ปี ใครที่เคยไปสัมผัสมาแล้วจะรู้ซึ้งถึงความหวาดเสียวของสะพานแห่งนี้แน่นอน

14. ทะเลทรายพินนาเคิล (Pinnacles Desert)

ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษของอุทยานแห่งชาตินัมบัง ซึ่งทะเลทรายแห่งนี้จะมีเสาหินปูนขนาดใหญ่ โผล่ขึ้นมาจากเนินทรายสีเหลือง ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติที่สุดมหัศจรรย์ จนนักวิทยาศาสตร์ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่พวกเขาคิดว่ามันน่าจะถูกสร้างมาจากองค์ประกอบทางธรรมชาติอย่าง ดิน น้ำ ลม ไฟ นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีดอกไม้บานสะพรั่งในช่วงสิงหาคม ถึงตุลาคมอีกด้วย

15. เทือกเขาสีน้ำเงิน (Blue Mountains)

สาเหตุที่ได้ชื่อว่าเทือกเขาสีน้ำเงิน มาจากหมอกควันสีน้ำเงินและสีฟ้าที่วนเวียนอยู่เหนือหุบเขาแห่งนี้ ซึ่งมันมาจากน้ำมันของต้นยูคาลิปตัส พื้นที่แห่งนี้เป็นหุบเขาที่มีความลึกถึง 2,490 ฟุต และภายในป่าจะมีบันไดยักษ์ลึกลับที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่เรียกว่า จามิสัน วัลเลย์ (Jamison Valley) อีกด้วย

16. มหัศจรรย์ถนนริมมหาสมุทร (Great Ocean Road)

นี่คือถนนในฝันของนักเดินทางหลายๆ คน ที่จะทำให้คุณได้ขับรถชิลๆ ริมหน้าผา พร้อมกับเสพบรรยากาศตามแนวชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก บางส่วนของถนนจะวิ่งตัดเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับไร่องุ่นและป่าฝนสวยๆ โดยถนนแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐวิคตอเรีย และมีความยาวถึง 243 กิโลเมตร (จำกัดความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

17. สวนสัตว์ในออสเตรเลีย

คุณสามารถพบสัตว์มากกว่า 340 ชนิดในสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงอย่างสวนสัตว์ทารอนกา นอกจากนั้นยังมีสวนสัตว์เพิร์ธ, สวนสัตว์เมลเบิร์น, สวนสัตว์แอดิเลด และสวนสัตว์ฮีลสวีล ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์แปลกๆ มากมาย แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนบนโลก เพราะที่นี่คือดินแดนแห่งสัตว์อย่างแท้จริง

18. เทศกาลแสงสีเสียงที่ซิดนีย์ (Vivid Sydney Festival)

หนึ่งในเทศกาลที่มีสีสันมากที่สุดของโลก โดยเริ่มต้นจัดในฤดูหนาว ซึ่งสถานที่สำคัญๆ ภายในเมืองจะมีการประดับประดาด้วยไฟจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น โอเปราเฮาส์, วิหารพระแม่มารี, มหาวิทยาลัยซิดนีย์, สวนสัตว์ทารอนกา และที่อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง จากศิลปินดังทั่วโลก ส่วนใครที่สนใจจะไปชมต้องจำเดือนให้ดี เพราะฤดูหนาวของออสเตรเลียจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนั่นเอง

19. ชายหาดเคเบิล (Cable Beach)

ในเมืองบรูม ที่ตั้งอยู่ใกล้กับมหาสมุทรอินเดีย คุณจะได้รับประสบการณ์ใหม่ด้วยการขี่อูฐริมชายหาดบนพื้นทรายขาวๆ รวมไปถึงแวะไปเยี่ยมชมเมืองเพชร Argyle และนอกจากนั้นคุณยังจะได้ชมวิวทิวทัศน์สวยๆ จากน้ำตกคิงจอร์จ และที่ราบสูงมิทเชลล์จกเฮลิคอปเตอร์

20. แนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก (Great Barrier Reef)

เกรตแบร์ริเออร์รีฟ คือแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก รวมถึงถูกยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย โดยเกรตแบร์ริเออร์รีฟ ประกอบด้วยแนวปะการังที่แยกกันกว่า 2,900 แนว จาก 900 เกาะในทะเลโครัล ซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลียเป็นระยะทางถึง 2,500 กิโลเมตร นี่คือสิ่งคุณลักษณะทางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิต และยังสามารถมองเห็นได้จากอวกาศอีกด้วย