หนุ่มหื่นลวงสาวใหญ่คุยแก้เหงาชาวต่างชาติ สุดท้ายพาเข้าซอยเปลี่ยวหวังข่มขืนริมอ่างเก็บน้ำ
หนุ่มหื่นลวงสาวใหญ่คุยแก้เหงาชาวต่างชาติ สุดท้ายพาเข้าซอยเปลี่ยวหวังข่มขืนริมอ่างเก็บน้ำ
สาวใหญ่อดีตเจ้าของบาร์เครียด นั่งคิดไม่ตกอยู่ริมหาด ชายปริศนาเดินเข้ามาคุยแก้เหงา ก่อนเสนองานให้ แล้วลวงพาเข้าซอยเปลี่ยวหวังขืนใจ เคราะห์ดีหนีรอดมาขอความช่วยเหลือได้ 13 ต.ค.61 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีผู้หญิงถูกล่อลวงหวังล่วงละเมิดทางเพศ วิ่งมาขอความช่วยเหลือ บริเวณป้อมป้องกันเหตุหน้าสนามกีฬาภาคตะวันออก ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ยุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี อดีตเจ้าของบาร์เบียร์ในจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในอาการตื่นตกใจเนื้อตัวสั่น เปิดเผยว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่หาดจอมเทียน มีผู้หญิงเข้ามานั่งคุยด้วย ตนจึงระบายความเดือดร้อนให้ฟังว่า เคยเป็นเจ้าของบาร์ แต่ร้านได้ถูกสั่งปิด จึงเดินทางมาอยู่ที่พัทยา ตอนนี้ก็ยังไม่มีงานทำ รถก็พังเอาไปซ่อมไว้ไม่มีเงินไปจ่าย
แต่ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ได้มีผู้ชายอายุประมาณ 35-40 ปี เข้ามาเสนอตัวพูดคุยด้วยอีกคนว่า มีเจ้านายเป็นชาวต่างประเทศ ค่อนข้างมีอายุมากแล้ว แค่ไปนั่งคุยแก้เหงา เดี๋ยวมีค่าเสียเวลาให้ ตนก็นึกอยากได้เงินมาจ่ายค่าซ่อมรถ จึงตัดสินใจไปด้วย เพราะตกลงแค่คุยแก้เหงาเท่านั้น จากนั้นก็ซ้อนจักรยานยนต์ไปตามทาง ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยว ถูกพาไปนั่งบนแคร่ริมขอบอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง ชายคนนั้นสั่งให้นั่งรอ เดี๋ยวเจ้านายจะมา แต่ด้วยความมืดและเปลี่ยว ประกอบกับเริ่มกลัวเป็นอันตราย ตนคิดและบอกว่าขอกลับดีกว่า พร้อมให้ชายคนดังกล่าวกลับไปส่งที่เดิม
แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังพูดจาหว่านล้อมว่า เจ้านายมาก็ไม่มีอะไรด้วยหรอก ขอเป็นฝ่ายมีอะไรด้วยแทนได้ไหม จึงรีบตอบสวนกลับไปว่าไม่ได้ ชายคนดังกล่าวก็ยังพยายามพูดล่อลวงแค่ทีสองทีคงไม่เป็นไร จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก่อเหตุลวนลามตนในจังหวะนั้นมีแสงไฟจากรถยนต์ขับผ่านมาพอดี ผู้ก่อเหตุจึงลากลงไปบริเวณขอบอ่างเก็บน้ำ หวังจะข่มขืนให้ได้ ตนไม่ยอมพยายามขัดขืน ผู้ก่อเหตุจึงเสนอแค่ทำออรัลเซ็กส์ให้จะได้จบๆ ตนจึงออกอุบายว่าให้พาไปหาเจ้านายก่อน ได้เงินแล้วจะยอมให้มีอะไรด้วย เมื่อผู้ก่อเหตุหลงคล้อยตามจึงพานั่งซ้อนจักรยานยนต์ออกมาจากซอยเปลี่ยว เพื่อแวะซื้อน้ำดื่ม จังหวะนั้นได้มีลุงขับซาเล้งผ่านมาพอดี ตนจึงรีบวิ่งไปขอให้ความช่วยเหลือและช่วยพาหนี ก่อนจะเจอเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ป้อมหน้าสนามกีฬาภาคตะวันออกดังกล่าว
















