รีวิว The Pool นรก 6 เมตร เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
The Pool นรก 6 เมตร (2018)
กำกับโดย: พิง ลำพระเพลิง
เขียนบทโดย: พิง ลำพระเพลิง
นักแสดงนำ: เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, เกรซ รัชย์ณมนทร์ รัชย์จิราธรรม
ประเภทหนัง: ดราม่า, ผจญภัย
เรียกได้ว่าเป็นหนังไทยเพียงเรื่องเดียวในสัปดาห์นี้สำหรับ The Pool นรก 6 เมตร เป็นหนังที่ผมตั้งตารอมาก เพราะด้วยพล็อตที่ไม่ซ้ำจำเจบวกกับเป็นหนังค่าย TMoment ที่เป็นค่ายที่ทำหนังออกมาค่อนข้างมีคุณภาพเลย อย่างเช่นเรื่องก่อนหน้าอย่าง App War ก็ทำผมประทับใจอย่างยิ่ง พอมาเรื่องนี้เลยจับตารอดูว่าจะดีเหมือนที่คาดไว้หรือไม่
เดย์ (เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ฝ่ายอาร์ทของงานโฆษณา ได้เผลอหลับในแพรยางกลางสระน้ำและถูกทิ้งอยู่กับก้อยแฟนสาวที่จะมาเซอร์ไพรส์แต่ดันพลาดตกลงมาในสระน้ำซึ่งถูกปล่อยน้ำแล้วเรียบร้อย แต่แล้วก็มีจระเข้ตกลงมาในสระ จนทำให้พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ที่ไม่อยากมีใครเกิดในครั้งนี้ให้จงได้
ถือว่าเป็นพล็อตที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับหนังเรื่องนี้ ที่สร้างสถานการณ์ทำให้เกิดเป็นหนังเอาชีวิตรอดกับคู่รักได้อย่างดี และเรื่องนี้จะเด่นไปที่ดราม่าของตัวละคร ซึ่งผมเห็นหนังใส่มาเยอะและขยี้เราหลายรอบอยู่พอสมควร มันเลยไม่ใช่แนวเอาตัวรอดซะทีเดียว แต่ถ้าในด้านการเอาชีวิตรอดทั้งวิธีการและสถานการณ์ที่หนังสร้างขึ้นถือว่าทำได้โอเคเลย เพราะไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นหนังดราม่าน้ำเน่าไปในทันที ถ้าให้ดูโดยรวมแล้วมันเหมือนเป็นหนังรักในคราบหนังเอาตัวรอดมากกว่า ซึ่งผมก็ไม่มองนะว่า "อะไรวะหนังรักอีกแล้วหรอ" ผมว่าขายังกล้าลองสิ่งใหม่ๆอยู่บ้างแม้จะมีรสชาติเดิมๆปนอยู่ก็ตาม ซึ่งผมว่าหนังรักษาความเป็นทั้งสองอย่างไปได้ตลอดทั้งเรื่องเลย
แต่ถ้าส่วนของการปูตัวละครหรือการสร้างคาแรคเตอร์ในหนังเรื่องนี้ผมว่ามันน้อยไป ทำให้เราไม่เห็นนิสัยอะไรมากนัก แต่ก็ยังมีปมระหว่างทั่งสองที่ให้เราเห็นถึงนิสัยบ้างเล็กน้อย แต่ผมมองว่ามันยังน้ำหนักเบาไปอยู่ดี ส่วนตัวแล้วผมว่าหนังเดินเรื่องเร็วโดยการเล่าสถานกาณ์ในช่วงแรกและแก้ปัญหาสุดท้ายจบด้วยคลายปม ซึ่งผมว่ามันก็ปกติ แต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความน่าจดจำของเนื้อเรื่องในส่วนการเอาตัวรอดหรือแม้กระทั่งสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อกับเราอย่างเช่นความรักที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ และหนังเลือกที่จะจบแบบหนังรัก จนมันทำให้สิ่งที่หนังสร้างขึ้นมามันเป็นเพียงสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขารักกันมากขึ้น โทนมันดูเปลี่ยนไปจากที่ผมคิดมาก ซึ่งแน่นอนตอนระหว่างเรื่องเราเดาไม่ออกจริงๆว่ามันจะไปสิ้นสุดที่ไหน แต่พอถึงตอนจบแล้วเราคิดเลยว่าหนังน่าจะเลือกจบได้น่าจดจำกว่านี้ แต่ผมไม่มีปัญหาอะไรเพียงแต่ผมดูจบแล้วมันไม่ติดหัวผมเท่าไหร่เลย
สำหรับผมแล้วนึกว่าหนังจะไปในเวย์เอาชีวิตรอดสุดทางเลย แต่ดูแล้วกลายเป็นหนังรักซะงั้น เลยทำให้มันก็ไม่ใช่หนังที่ฉีกจากแนวเดิมๆซะทีเดียว แต่หนังก็เดินเรื่องได้ไวดีและจบในตัว แน่นอนว่าไม่มีภาคต่ออย่างแน่นอน แต่ถ้าให้ผมเทียบเรื่องนี้กับ App War แล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าชอบ App War มากกว่าเพราะหนังเรื่องนั้นบทดี กำกับเยี่ยม งานภาพก็ดูสวยทันสมัย แต่เรื่องนี้โทนหม่น ดูแล้วเหมือนหนังที่สิ่นหวังมากๆ แต่ดูๆไปกลับต้องการให้เราอินกับความรักของตัวละครซะงั้น ผมว่าถ้าใครชอบหนังรักแบบใหม่ๆไม่ซ้ำเดิมน่าจะชอบ ซึ่งผมหวังอีกอย่าง แต่ได้อย่างนี้ก็ไม่เสียใจ แต่เสียดายครับ
ซึ่งผมจะให้หนังเรื่องนี้อยู่ที่ 7/10
เขียนโดย Movie Nowhere
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/MovieNowhere/
แหล่งที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=D-U-U_rMabs
https://pantip.com/topic/38100290