“เมืองอัจฉริยะ 5G” ในเกาหลีใต้ แล้วคุณจะทึ่ง
“เมืองอัจฉริยะ 5G” ในเกาหลีใต้ แล้วคุณจะทึ่ง
Pangyo Zero City คือชื่อเมืองอัจฉริยะแห่งที่ 2 ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังจะสร้างเสร็จปลายปีหน้า
เมืองที่จะมีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดของประเทศ
เมืองที่จะเป็นแหล่งคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
เมืองที่จะพาประเทศเกาหลีใต้สู่ยุคอนาคต
แต่กว่าจะมีเมืองอัจฉริยะแบบนี้ เพจแนวคิดพันล้านอยากจะพาทุกคนย้อนอดีต ไปดูจุดเริ่มต้นกันสักเล็กน้อย…
เมืองอัจฉริยะแห่งแรก…
ย้อนประวัติเมืองอัจฉริยะแห่งแรก Pangyo Techno Valley
– จากต้นแบบของ Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นศูนย์รวมบริษัทเทคโนโลยีระดับชั้นนำของโลก
– เกาหลีใต้ จึงศึกษาและมีแผนจะพัฒนาเมืองใหม่ด้านไอทีตั้งแต่ปลายยุค 2000
– พวกเขาเลือกพื้นที่ประมาณ 400 ไร่ย่านเมือง “ซ็องนัม” ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงโซล
– จากนั้น Pangyo Techno Valley หรือศูนย์เทคโนโลยีแห่งใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น
– เพื่อดึงดูดให้บริษัทต่างๆ ไปตั้งสำนักงาน ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ก็ “เปย์ไม่อั้น” สร้างทางด่วนไปให้ 3 สาย จัดรถบัสประจำทางจากจุดสำคัญในเมืองโซล รวมถึงรถไฟฟ้าอีก 2 สายเพื่อไปลงที่นั่นโดยเฉพาะ
– เมื่อการเดินทางสะดวกสบาย แถมเมืองใหม่มีสาธารณูปโภคครบครัน จึงเหมาะแก่การตั้งสำนักงาน
– ในตอนที่เปิดตัวเมื่อปี 2011 นั้น Pangyo Techno Valley มีบริษัทตั้งอยู่ 88 บริษัท
– แต่ในปี 2017 มีบริษัทตั้งอยู่ถึง 1,300 แห่ง
– โดยบริษัทใหญ่ก็อย่างเช่น NCSoft และ Nexon บริษัทพัฒนาเกมชื่อดัง หรือ Kakao เจ้าของแอพแชทที่คนใช้กันมากในเกาหลีใต้
– ซึ่งบริษัทเหล่านั้นก็สร้างรายได้รวมกันกว่า 2.2 ล้านล้านบาท
– ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนรายได้ การจ้างงานอื่นๆ ให้เมืองใหม่นี้ และก่อเกิดการพัฒนาตามมา
ต่อยอดความสำเร็จสู่ Pangyo Zero City เมืองอัจฉริยะแห่งที่ 2!!
หากเมืองแรกคือการทำให้เกาหลีใต้ไล่ตามทันเทคโนโลยี
เมืองใหม่นี้ก็คือการพยายามทำให้เกาหลีใต้ ก้าวไปเป็นผู้นำแห่งอนาคต
ยุคโบราณนั้น การสร้างเมืองจะดูจากชัยภูมิ เช่น อยู่บนเนินเขา ติดแม่น้ำ หรือป้องกันภัยศัตรูได้
ถัดมาสมัยใหม่หน่อย การสร้างเมืองก็อาจจะเพื่อการค้า เลือกแหล่งที่ค้าขายง่าย
แต่ยุคนี้ การสร้างเมืองที่อยู่บนพื้นฐานของอินเตอร์เน็ต มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ
Pangyo Zero City ถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นที่ 260 ไร่
ด้วยพื้นฐานของระบบการเชื่อมไร้สาย 5G ซึ่งมีมาตรฐานความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงถึง 20Gbps!!
(เปรียบเทียบในมุมผู้บริโภคก็คือ คุณอาจจะดาวน์โหลดภาพยนตร์ 1 เรื่อง ในเวลา 4-5 วินาทีเท่านั้น)
เมืองอินเตอร์เน็ตแห่งใหม่นี้ จะควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีในอีกหลายด้าน
ตัวอย่างเช่น
1. เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ
Pangyo Zero City ถูกออกแบบให้มีถนนสำหรับรถไร้คนขับ 4 กิโลเมตร (และมีถนนสำหรับรถเดิม 1.6 กิโลเมตร)
รถยนต์ถูกติดตั้งระบบขับอัตโนมัติโดย AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ
2. ถนนแห่งยุคอนาคต กำลังจะเกิดขึ้น
ถนนจะมีกล้องและเซนเซอร์ ที่ทำงานร่วมกับรถไร้คนขับอีกทีหนึ่ง
รถที่วิ่งบนถนนจะสื่อสารถึงกันได้ ผ่านระบบไร้สาย ขณะเดียวกันก็สื่อสารกับศูนย์ควบคุมไปพร้อมๆ กัน
นั่นทำให้รถไร้คนขับทุกคัน อยู่ในระบบเดียวกันทั้งหมด
หากข้างหน้าจะเป็นแยกไฟแดง และมีคนเดินข้ามถนน รถในระบบที่กำลังจะถึงแยกก็จะชะลอและหยุดไปพร้อมกัน
หากทางข้างหน้ารถติด ศูนย์ควบคุมก็จะประมวลผลว่าควรจัดการจราจรอย่างไร
แล้วสั่งให้รถแต่ละคัน เลือกไปในเส้นทางที่จะลดปัญหารถติดในระบบลง แล้วทุกคันไปถึงที่หมายได้เร็วที่สุด
เมื่อระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อุบัติเหตุจากรถชนกันจะเป็น 0% การจราจรก็จะไม่ติดขัดตามไปด้วย
3. ระบบกู้ภัยแห่งโลกอนาคต
เมืองใหม่นี้จะเป็นศูนย์ทดลองเทคโนโลยีใหม่หลายอย่าง รวมถึงระบบกู้ภัยด้วยเช่นกัน
ลองจินตนาการว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินในจุดหนึ่ง ระบบเตือนภัยจะส่งสัญญาณให้โดรนออกปฏิบัติงานทันที
โดรนเหล่านั้นจะเป็นทั้งนักกู้ภัย โดรนทางการแพทย์ที่พร้อมปฐมพยาบาล
รวมถึงทำหน้าที่คอยตรวจจับและติดตามคนร้าย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไปไม่ถึงอีกด้วย
4. การรักษาพยาบาลแห่งโลกอนาคต
ระบบรักษาพยาบาลทางไกลจะถูกนำมาใช้ โดยการพบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล
รวมถึงประเมินแนวทางรักษาร่วมกันระหว่างหมอมนุษย์และ AI จากหุ่นยนต์ที่ถูกส่งไปยังบ้านของผู้ป่วย
ลองจินตนาการว่าหมอสามารถให้คำปรึกษา วางแผนรักษาอาการเจ็บป่วยให้คุณได้ โดยที่คุณไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาวางแผนถึงขั้นให้หุ่นยนต์เป็นหมอผ่าตัดคุณ ขณะที่หมอตัวจริงควบคุมอยู่อีกสถานที่หนึ่งด้วย
5. ทุกอย่างจะเป็นเรื่องไร้สาย
เบื้องต้นนั้นเป็นเพียงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย แต่พวกเขาหวังว่าสักวันมันจะรวมไปถึงระบบไฟฟ้าแบบไร้สาย
นักวิจัยคนหนึ่งระบุว่าการที่คุณไม่ต้องขุดลงไปวางสายเคเบิ้ลใต้ดิน นั่นจะเหลือพื้นที่มาปรับใช้อีกมาก
ทั้งการสร้างระบบขนส่งใต้ดิน ห้างสรรพสินค้า หรือกระทั่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคที่ดินแพงขึ้นทุกวัน
Nam Kyung-pil ผู้ว่าราชการจังหวัด ระบุว่าตั้งใจให้เมืองแห่งนี้เป็นต้นแบบของโลกอนาคต
ทั้งการปล่อยของเสีย อุบัติเหตุผลท้องถนน และอาชญากรรม จะต้องกลายเป็น 0 ในท้ายที่สุด
เราจะเห็นว่าเกาหลีใต้วางแผนกันมานับ 10 ปี พัฒนาจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง
เมืองแห่งนี้จะออกมาล้ำขนาดไหน เราคงต้องรอติดตามเมื่อมันแล้วเสร็จในปี 2019
ในวันนี้ ทุกสิ่งที่กล่าวมามันอาจจะเป็นเพียงแค่แผนการพัฒนา แต่ใครจะรู้หล่ะ…
เผลอๆ ผ่านไป 10-20 ปีข้างหน้า เราอาจจะได้เห็น “รถไร้คนขับ” ออกมาวิ่งกันเต็มเมืองเกาหลีก็เป็นได้
เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนตามแทบไม่ทันเลยจริงๆ