ปัจจัย 4 ประการที่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
หลายคนยังสงสัยกันอยู่มากว่าการที่เราใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้น เราจะติดเชื้อด้วยไหมถ้าเราอยากรู้ว่าการที่คนๆหนึ่งจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวีนั้น เราสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้จาก ปัจจัย 4 ประการหรือหลัก ESSE ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- E – Exitคือ ทางออก
เชื้อต้องออกจากร่างกายผู้มีเชื้อเอชไอวีทางเลือด น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด หรือน้ำหล่อลื่นจากการร่วมเพศ
- S – Survive คือ ใหม่สด
เชื้อเอชไอวีจะต้องมีคุณภาพดี แข็งแรงและสามารถทำให้ติดต่อได้ เชื้อเอชไอวีที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อ นั่นคือเชื้อต้องอยู่ในร่างกายของมนุษย์เท่านั้นหรือเชื้อ
เอชไอวีที่ออกมานอกร่างกาย เช่น โดนความร้อน อยู่ในพื้นที่มีสารเคมี เช่น ห้องน้ำ หรือ โดนความเย็น เป็นต้น ก็จะทำให้เชื้อด้อยคุณภาพจนไม่สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้
- S – Sufficientคือ มากพอ
ปริมาณของเชื้อเอชไอวีในสารคัดหลั่งของร่างกายแต่ละชนิดไม่เท่ากัน เชื้อเอชไอวีจะมีปริมาณมากที่สุดในเลือด รองลงมาในน้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด และน้ำนมแม่ การที่คนๆหนึ่งจะรับเชื้อ
เอชไอวีเข้าสู่ร่างกายจึงหมายถึง ต้องได้รับสารคัดหลั่งตามที่กล่าวมาในปริมาณที่มากพอ เช่น การรับเลือด (กรณีถ่ายเลือด) การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยหรือเด็กทารกที่กินนมแม่ที่ติดเชื้อ เป็นต้น
- E – Enterคือ ทางเข้า
การที่เอชไอวีจะติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้นั้น เชื้อเอชไอวีจะต้องออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อและเข้าสู่ร่างกายอีกคนได้โดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยหรือการใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน
ถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งถือว่าไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น การที่เราใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน พบปะสังสรรค์กัน ก็ไม่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีเลย เพราะไม่มีช่องทางใดที่จะทำให้ติดต่อกันได้
สนใจปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับ HIV โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และ ยาป้องกัน (PrEP) ยาฉุกเฉิน (PEP) ได้ที่มูลนิธิเพื่อรัก Love Foundation