กรมอุตุนิยมแจ้งเตือนประชาชนรับมือพายุโซนร้อน 'เบบินคา'
ฝนตกทั่วไทย กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังพายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) ที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบน และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม สปป.ลาว ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะตอนบนของประเทศรวมถึงภาคอื่น ๆ
18 สิงหาคม 2561-เมื่อเวลา 16.00 น. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาได้เผยแพร่ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุเบบินคา”ฉบับที่ 33 ซึ่งเป็นประกาศฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้ลโดยแจ้งว่าหย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “เบบินคา” (BEBINCA) ได้เคลื่อนออกจากบริเวณภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเข้าปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือยังคงมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้
โดยในวันที่ 18 สิงหาคม 2561 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุเบนินคาตามภูมิภาคดังนี้
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก
ภาคกลาง จังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับในวันที่ 19 สิงหาคม 2561 ได้แก่
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สุโขทัย และตาก
ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
กรมอุตุนิยมเตือนขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย
สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
โดยในช่วงวันที่ 20-24 สิงหาคม 2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีแนวโน้มปริมาณฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
วิธีการตรียมพร้อมอย่างไรในการรับมือ “เบบินคา”?
เมื่อฝนตกหนักติดต่อกันจึงอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และทะเลอาจมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ดังนั้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง ขนย้ายทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง เตรียมอุปกรณ์เพื่อการยังชีพให้พร้อม และไม่อยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตราย เช่น ในป่า น้ำตก ภูเขา ฯลฯ นอกจากนี้ จะต้องติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานราชการ
ปริมาณน้ำในเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง?
ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระบายและพร่องน้ำออกจากเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนใหม่ที่กำลังจะเข้ามา เช่น เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ฯลฯ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด พร้อมทั้งหมั่นตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน และออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลสภาพอากาศและผลกระทบได้จาก เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ โทร. 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง