15 ข้อควรระวัง! ในการใช้ Social Media ให้ปลอดภัย รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ในปัจจุบัน Social Media เรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เชื่อมโยงคนหลายคนเข้าไว้ด้วยกันผ่านอินเตอร์เน็ต มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนเกือบทุกๆ ด้าน ทุกคนในสังคมปัจจุบันล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของ Social Media ทั้งสิ้น
ซึ่ง Social Media มีทั้งข้อดี ข้อเสีย มีทั้งเพื่อนที่คุณรู้จัก และคนไม่รู้จักเลยแต่ติดตามเรา ซึ่งการที่ผู้ใช้เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวออกไป และทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลของใครก็ได้ ข้อมูลของเราที่แชร์ออกไปก็เสี่ยงที่จะโดนแอบอ้างหรือขโมยความเป็นส่วนตัว หรือขโมยความเป็นตัวตนบนโลกออนไลน์และอาจเป็นอันตรายต่อตัวเรามากกว่าที่คิด ฉะนั้นเราต้องดูแลตัวเอง ป้องกันไม่ให้เราเกิดภัยเนื่องจากการแชร์ข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ โดยวันนี้เรามีวิธีการใช้ Social Media ให้ปลอดภัย เพื่อรู้ทันและไม่ให้เกิดภัยอันตรายตัวเอง ดังนี้
ข้อควรระวังในการใช้ Social Media
1. อันดับแรกเลยไม่ควรตั้งโปรไฟล์เป็นสาธารณะ การตั้งโปรไฟล์เป็นสาธารณะก็เปรียบเหมือนการสร้างบ้านโดยที่ไม่มีรั้วบ้าน ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้สามารถเข้าถึงข้อมูลเราได้หมด ดังนั้นเราควรตั้งค่าให้เพื่อนเท่านั้นที่เห็นกิจกรรมของเรา และหลีกเลี่ยงการตั้งค่าสิ่งที่เราทำให้เป็นสาธารณะ หรือคนทั่วไปเห็นได้
2. ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรเครดิตลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบข้อความ หรือรูปภาพ คิดให้รอบคอบก่อนโพสต์ข้อมูลใดๆ เราควรระมัดระวังข้อมูลเหล่านี้ให้มากที่สุด เพราะถ้าถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีก็อาจจะเป็นอันตราย หรือสร้างความเสียหายต่อเราได้
3. ไม่รับแอดใครง่ายๆ คัดกรองคนที่ขอเป็นเพื่อน เราควรศึกษาดีๆ ต้องเช็คให้ดีก่อน ว่าคนนั้นเป็นใครเป็นเพื่อนของเพื่อนจริงหรือเปล่า และแอดเราเป็นเพื่อนเพื่อวัตถุประสงค์ใด ถ้าไม่เป็นเพื่อนของเพื่อนจริงเราก็ไม่ขอรับเพื่อนดีกว่าเพราะว่าเขาอาจมีวัตถุประสงค์อื่นในการที่เข้ามาเป็นเพื่อนกับเรา
4. การเช็คอินในสถานที่ต่างๆ เป็นการบอกว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน บางครั้งเราโพสรูปของเราว่าไปเที่ยวอยู่จะกลับบ้านวันนั้นวันนี้ถ้าเป็นการแชร์กันระหว่างเพื่อนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าคนอื่นที่ไม่ได้เป็นเพื่อนเราจริงๆ ก็อาจจะเข้ามาประสงค์ร้ายได้ในช่วงที่เราไม่อยู่บ้าน
5. ใช้ความระมัดระวังในการคลิกลิงก์ต่างๆ ที่มากับการแชร์หรือข้อความ หลีกเลี่ยงลิงก์แปลกปลอม หรือมาจากคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งโลกออนไลน์เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีการกลั่นกลองข่าวสารที่ดีพอ เพราะอาจจะไปเจอลิ้งก์ข่าวปลอม คลิกเบ็ด หรืออาจเป็นลิงก์ที่นำไปสู่ไวรัสหรือช่องทางขโมยข้อมูลของเหล่าแฮกเกอร์ได้
6. ไม่ให้เบาะแสของรหัสผ่านกับคนอื่น หลายคนอยากจะแชร์ว่าหมาของเราชื่อว่าอะไร เราชอบกีฬาประเภทไหน แต่อย่าลืมว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำถามเมื่อเราลืมรหัสผ่าน เข้าอีเมลต่างๆ ซึ่งถ้ามีผู้ไม่ประสงค์ดีเขาก็จะรู้หมดเลยว่าเราชอบอะไรมีสัตว์เลี้ยงตัวไหน ชอบกีฬางานอดิเรกอะไร เพราะเขาสามารถเอาไปใช้เพื่อที่จะได้เอารหัสผ่านมาได้
7. ไม่โพสต์รูปที่ไม่เหมาะสม อย่างการโพสต์รูปตัวเองแบบสนุนๆ เช่น โพสต์รูปตัวเองเมาแอ๋ หรือ โพสต์รูปตัวเองกำลังถือปืน เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นผลกระทบกับภาพลักษณ์ของตัวเอง มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เมื่อพอถึงเวลาที่เราคิดได้ว่าไม่สมควรที่จะโพสต์ แม้เราจะลบออกไปแล้ว แต่ภาพก็ได้ส่งต่อและแชร์ออกไปแล้วเราก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
8. ไม่นินทาเจ้านายออกสื่อ ก็เป็นที่เข้าใจว่าหลายคนที่ทำงานอาจมีการอัดอั้นตันใจอยากจะระบายออกมา แต่ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ใช้ที่ระบายออกมา เพราะว่ามีคนอ่านข้อความของคุณจำนวนมากถึงเจ้านายของคุณจะไม่ได้อ่านเอง แต่คนอื่นอ่านแล้วเขาก็ไปพูดกัน สักวันหนึ่งก็จะถึงหูเจ้านายจนได้ และอาจจะส่งผลถึงหน้าที่การงานของคุณแน่นอน
9. คิดให้ดีก่อนรับข้อเสนอ หากมีคนมาบอกว่าคุณได้รับรางวัลถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง คุณควรคิดให้ดีก่อนว่าจะรับข้อเสนอนั้นหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสิ่งแอบแฝงอยู่ เช่น ถ้าคุณรับข้อเสนอนั้นคุณต้องจ่ายเงินมาก่อน เป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้ และสุดท้ายแล้วคุณก็ไม่ได้ถูกรางวัลที่หนึ่งอย่างที่เขาเสนอมา แต่เป็นการมาหลอกให้เราจ่ายเงินให้แทน
10. เปิดใช้งาน Do Not Track เพื่อป้องกันการติดตามและการเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการ ซึ่งอาจรวมไปถึงผู้ไม่หวังดีที่ลักลอบเข้ามาขโมยข้อมูลด้วย
11. ใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการรับข่าวสาร และอย่าปักใจเชื่อข้อมูลที่เผยแพร่เข้ามาในทันที รวมทั้งการกล่าวอ้างถึงแหล่งที่มาของข้อมูลนั้นๆ เพราะอาจมีการสวมรอย หรือสมอ้างจากผู้ไม่หวังดีเพื่อสร้างข่าว หรือสร้างความเสื่อมเสียต่อแหล่งที่มานั้นได้
12. ไม่โพสต์เรื่องดราม่าต่างๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว เช่น ว่าแฟนนอกใจ ทะเลาะกับเพื่อน ไม่พอใจเพื่อนร่วมงานอะไรต่างๆ การโพสต์สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เรื่องพวกนี้ดีขึ้น การพาดพิงถึงบุคคลที่สาม ถ้าเขามาได้ยินสิ่งเหล่านี้เรื่องมันก็จะบานปลายออกไปอีก ทำให้มีปัญหากันเปล่าๆ และยังมองว่าเราไม่ดีด้วย
13. ดูแลและควบคุมการใช้งานของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด สอนให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ข้อมูล และรู้จักเล่นอย่างถูกวิธี เพราะความรู้ในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็มีอยู่มากมาย นอกจากจะใช้ควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้แล้ว ควรกำหนดช่วงเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ และป้องกันการใช้โปรแกรม หรือเล่นเกมที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ได้รับอนุญาตได้อีกด้วย
14. ยุคนี้เป็นสังคมเสรี มีอิสระทางความคิดเห็น แม้ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น แต่ทุกคำพูดและการกระทำที่ไม่เหมาะสมก็สามารถเป็นเหตุในการฟ้องร้องได้ และศาลก็อาจจะรับฟังคำร้องด้วย รวมถึงมี พรบ.ทางคอมพิวเตอร์ด้วย
15. สุดท้ายนี้สำคัญที่สุด ก่อนที่จะโพสต์อะไรคุณควรคิดให้รอบคอบเสียก่อน เพราะอย่าลืมว่าข้อมูลเหล่านี้จะเผยแพร่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโพสต์ข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงก็อาจจะส่งผลร้ายต่อตัวเราเอง