หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

(21+)เปิดบันทึกลับจากหญิงสาววัยรุ่นในประเทศที่มีการกดขี่ทางเพศและสิทธิสตรี ep.2

เนื้อหาโดย Etjet'aime

องค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร อย่าง the beauty of lust and sexual foundation หรือ BLS. ได้เผยบันทึกคำสัมภาษณ์จากหญิงสาววัยรุ่นทั่วโลกในประเทศที่สิทธิสตรียังล้าหลัง ซึ่งเราได้คัดเลือกมา 10 เคส ในep 2 จะพูดถึงเคสที่ 2 และ3 ซึ่งเป็นที่สั้นๆที่น่าสนใจมาก

 

2. เคสที่สองเป็นวัยรุ่นผู้หญิงในประเทศสิงคโปร์นี่เอง เธออยู่ในสังคมมุสลิมท่ามกลาง สังคมทุนนิยมที่ครอบคลุมพวกเขา หญิงสาว อายุ 25 ปี นามว่า ฮีบญ๊าต ได้เผยเรื่องราวที่น่าสนใจให้เราฟังว่า ถึงแม้จะอยู่ในสังคมที่เปิดกว้างกว่าประเทศบ้านเกิด แต่ ฮีบญ๊าตหญิงสาวที่เติบโตในประเทศต่างวัฒธรรม ก็ต้องปฏิบัติตัวเคล่งคลัดไม่ต่างจากการอยู่บ้านเกิด เธอต้องคลุมหัวตลอดเมื่อออกไปข้างนอก เธอเคยเรียนที่โรงเรียนนานาๆชาติ แต่ครอบครัวคิดว่าเธอติดเพื่ินชายทั้งที่จริงแล้วเขาทั่งคู่เป็นเพื่อนกันคบกันอย่างบริสุทแต่ใจมากกว่าเรื่องเพศ แต่อาจจะเป็นเพราะเพื่อนชายเป็นคนต่างศาสนาครอบครัวของเธอเลยไม่ยอมรับ โดยเพื่อนชายของเธอนั้นเป็นคนยิวนับถือศาสนา ยูดา เธอเล่าว่าเธอต้องออกจากโรงเรียนดังกล่าว เพราะพ่อเธอไม่ใว้ใจเธอ และให้เธอเรียนหลักสูครสมัยใหม่โดยครูสอนที่เป็นชาวมุสลิมเหมือนกันและเป็นที่ใว้ใจของพ่อแม่เธอ เธอเผยว่ามันยากมากหลังจากได้สัมผัสรสชาติของความเป็นอิสระ แล้วต้องไปใช้ชีวิตแบบนั้น เมื่อเธอไม่สามารถคบเพื่อนชายได้ เธอจึงกันไปใช้เซ็กทอย ในการสัมเร็จความใคล่ เธอเล่าว่านมัเป็นประสบการที่สวยงาม และเธอคิดว่ามันเป็นความกล้าหาญถึงแม้จะเป็นเรื่องลับๆ แต่เธอก็กล้าที่จะทำมัน สำหรับคนที่เติญโตมาแบบเธอมันต้องใช้ความกล้าอย่างมาก ที่จะทำมัน  เธอเผยว่า เธออยากจะเล่าประสบการให้ทีมงานของฟังเพื่อที่จะเปิดเผยอีกมุมหนึ่งของสตรีที่ต้องอยู่ในสังคมที่มีการกดขี่ ไร้เสรีภาพ

 

3 เคสที่สาม คือวัยรุ่นหญิงมุสลิม ในประเทศอิตาลี ที่อพยพมาจากประเทศกำลังเกิดสงคราม แต่ครอบเธอข่องข้างจะมีถานะดีเพราะก่อนจะอพยพมา พ่อแม่เธอทำงานในต่ำแหน่งที่สูงและ ได้ช่วยเหลือกลุ่มประเทศเสรีโดยให้ข้อมูลที่เป็นประโยช์ เธอจึงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเมื่ออพยพมา โดยเธอต้องสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนที่ไม่ใช่โรงเรียนที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวอิสลามแต่ตรงกันข้าม คนส่วนใหญ่คือคนต่างศาสนา แต่โชคดีที่ได้มีเพื่อนชาย ได้มาตีสนิท เธอบอกว่าผู้ชายคนนี้ครอบครัวเป็นขาวคริสที่เคร่งคลัด เขาบอกกับเธอว่า เขาต้องการเป็นมิตรกับคนที่ต่างศาสนา เขาเชื่อในสันติภาพ จึงอยากผูกมิตรกับเธอ เธอเล่าว่าเพื่อนชายของเธอ ไม่ได้เป็นผเ้ชายที่หล่อเลาอะไรมากเพราะเขาข่อนข่างตัวใหญ่เกือบอ้วน เพราะค่านิยมของคนอิสลามจะไม่นิยมชอบคนที่อ้วนเพราะเหมือนหมูสัตว์ที่เขารังเกียจ แต่เพื่อนชายดีกับเขามากเป็นที่ปรึกษาให้ทุกเรื่อง เธอเคยไปบ้านเพื่อนชายหลายครั้งแต่ไม่เคยกล้าชวนเพื่อนชายมาที่บ้านตน แต่เรื่องที่สำคัญก็คือ พวกเขาต่างเป็นวัยรุ่น เธอบอกว่าอย่างไม่ปิดบังว่า เธอมีความต้องการในตัวเพื่อนชายคนดังกล่าวเพราะเธอไม่เคยรู้จักเพื่อนชายคนไหนเลยนอกจากเพื่อนชายคนนี้ ในสังคมทั่งคู่ก็ต่างได้รับการยอมนับเพราะเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างสันติภาพ โดยความจ้องดารในตัวเธอนั้นเพิ่มมากๆขึ้นๆ แต่ฝ่ายชายกลับไม่เคยแสดงอาการใดๆในเรื่องนั้น วันหนึ่งเมื่อเธอไปเที่ยวบ้านฝ่ายขายทำกิจกรรมด้วยกันและฝ่ายชายหลับ เธอจึงเข้าไปกอดฝ่ายชาย เธอไม่รู้เลยว่าฝ่ายชายจะรู้ตัว วันต่อมา ฝ่สยชายได้คุยกับเธอและรู้ว่าเธอทำอะไรไป ฝ่ายชายได้เสนอกับฝ่ายหญิงว่าถ้าต้องการมีเซ็กกับเขา ต้องมีข้อแลกเปลื่ยน ซึ่งข้อแลกเปลื่ยนนั้นก็คือ เขาบอกว่าเธอต้องกินหมูให้เขาดู เพราะเขาไม่ใว้ใจเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากเพราะเธอก็ผ่านเรื่องเลวร้ายมากมาย และ เธอก็ไม่ได้พอใจกับวัฒธรรมที่กดขี่เธอ และการที่เธอได้ศึกษาในประเทศเสรีก็ทำให้ความคิดเธอเปลื่ยนไปมาก และเธอก็และเธอก็คิดว่าการที่เธอจะกินหมูมันก็คือการที่เธอจะแระกาศอิสระภาพให้กับตัวเอง เธอจึงไม่ได้คิดอย่างมากมายและตกลง เธอบอกว่ามันเป็นการแลกเปลื่ยนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะผู้ชายใด้ให้ความสุขแก่เธออย่างที่เธอไม่เคยได้รับจากใคร เธอเล่าว่าเธอไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแต่อย่างไดที่จะบอกว่าเธอมีความสุขแค่ใหน แต่มีครั้งหนึ่งที่ฝ่ายชายเอาเบคอนพันรอบอวัยะเพศแล้วให้เธอใช้ปากรับประทาน เธอเผยว่าเธอค่อนข้างที่จะรับไม่ได้ เธอคิดว่ามันเป็นการเหยียดยามเธอมากเกินไป แต่ด้วยตอนนั้นการที่เธอโดนขับเคลื่อนโดยเซ็กเธอเลยขาดสติและทำตาม คำขอขิงฝ่ายชาย เธอเผยว่าตอนนี้ เธอได้ปรับความเข้าใจกับฝ่ายชาย และความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้น เธอเล่าว่าเมื่อเรียนจบมีงานทำ เธอจะเลิกใส่ผ้าคลุมหัวและใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป

 

ขอบคุณบทความจาก death to America

 

เนื้อหาโดย: Etjet'aime
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Etjet'aime's profile


โพสท์โดย: Etjet'aime
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รวมความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการอาบน้ำ บางอย่างเพื่อนๆอาจจะเข้าใจผิดอยู่ก็ได้นะลิซ่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เงินดิจิตอล 10,000 บาท ช้อปปิ้งอะไรคุ้ม? เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใช้ฮือฮาทั้งโซเชียล พระเอกเกาหลีพูดชื่อเต็มกรุงเทพฯ ชัดมาก "Frankly Speaking พูดตรงๆ คงต้องรัก""แสวง" เลขาฯ กกต. ไม่ห้ามสื่อเสนอข่าว-จัดเวทีฯ ขู่จับตาดูผู้สมัคร ชี้ "ธนาธร" ทำได้ชวนลง สว."แจ็คแฟนฉัน" แจกพัดลมให้พี่น้องชาวไทย300ตัว"ลุงดอนใจดี" ย้ำอาหารที่ร้านไม่แพง และยังคงขายราคาเดิม
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
ลิซ่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะยิ่งโตยิ่งสวย "น้องลียา" ลูกสาว "เป๊ก สัญชัย"หยางมี่ สายลับสาวสุดเท่ จากซีรีย์ "ฮาร์บิน 1944"รีวิวหนังดัง Indiana Jones and the Dial of Destiny อินเดียน่า โจนส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา
ตั้งกระทู้ใหม่