รีวิว Zenfone Max Pro (M1) กับที่สุดของสมาร์ทโฟนในราคาต่ำหมื่น
รูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำทุกวันนี้ผูกติดอยู่กับสมาร์ทโฟนไปเสียเกือบทุกอย่าง ทำให้แบตเตอรีกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งๆ ผู้ผลิตหลายเจ้าก็พยายามยัดแบตเตอรี่หรือปรับแต่งระบบปฏิบัติการให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้คุ้มค่าให้ได้มากที่สุด
ASUS ออก Zenfone Max ที่เน้นความจุของแบตเตอรีเป็นเจ้าแรกๆ และปีนี้ก็ออกเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งความโดดเด่นในปีนี้ไม่ได้มีเพียงแต่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พอใช้งานได้ทั้งวัน แต่ยังมีเรื่องของคุณภาพหน้าจอ ชิปเสียง หน่วยประมวลผลและอื่นๆ ที่ ASUS จัดเต็มมาให้ จนเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในกลุ่มราคาต่ำหมื่นก็ว่าได้
ที่สุดของสเปค
Zenfone Max Pro (M1) ถูกดีไซน์มาใหม่ ให้บางลงกว่ารุ่นที่แล้วราว 0.4 มม. โดยยังคงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh เท่าเดิม งานประกอบด้านหลังเป็นโลหะ 2 ชิ้นสวยงาม
สเปคของ Zenfone Max Pro (M1) คือใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 636 ซีพียู Kryo 260 จีพียู Adreno 509 แรม LPDDR4 3GB, 4GB และ 6GB เรียกได้ว่าถึงแม้จะราคาต่ำหมื่น แต่สเปคระดับนี้ทำให้การเล่นเกมไหลลื่น ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
หน้าจออยู่ที่ขนาด 5.99 นิ้ว ขอบบาง ใหญ่สะใจสำหรับความบันเทิงทั้งเกมหรือภาพยนตร์
พอร์ทหูฟัง, microUSB และลำโพงมาครบหมดที่ด้านล่างตัวเครื่อง
กล้องคู่พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
ช่องใส่ซิมเป็นแบบ Tri Slot รองรับสองซิมและ microSD พร้อมกันทั้งหมด
ที่สุดของแบตเตอรี
Zenfone Max Pro (M1) จัดเต็มเรื่องแบตเตอรีมาให้ถึง 5,000 mAh เรียกได้ว่ายิ่งกว่าเหลือสำหรับใช้งานทั่วไปใน 1 วัน ต่อให้เล่นเกมด้วย เปิด YouTube ด้วยยังไงแบตเตอรี่ก็เหลือกลับบ้านแน่นอน
อย่างการใช้งานเฉลี่ยๆ ของผมคือใช้ทำงานเป็นหลัก เช็ตเมล ตอบแชท เข้าเฟสบุ๊คบ้างประปราย ไม่ได้เล่นทั้งวัน มีหยิบเล่นเกม เปิด YouTube และดูบอลก่อนนอน แบตเตอรีก็อยู่ได้ราวๆ 2 วัน ถ้าเล่นเกมเยอะๆ อย่างที่ ASUS เคลมว่าได้ถึง 11 ชั่วโมงก็น่าจะไหวอยู่ ส่วน Screen Usage ตามรูปก็อยู่ที่ราว 6 ชั่วโมงครึ่ง
ส่วนการชาร์จจาก หัวแปลงที่ ASUS ให้มาจ่ายไฟที่ 5V/2A 10W การชาร์จจากแบตเตอรี่ 0% ประมาณครึ่งชั่วโมงได้แบตเตอรี่มาราวๆ 40% ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้ทั้งวัน ขณะที่การชาร์จจาก 0 ถึง 100 ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง
ไม่เพียงแค่จุเยอะเท่านั้น แบตเตอรีของ Zenfone Max Pro (M1) ยังปลอดภัยด้วย จากการผ่านมาตรฐานการทดสอบอุตสาหกรรมถึง 12 มาตรฐาน โดยเฉพาะ JEITA Protection มาตรฐานการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้ยากที่สุดอีกด้วย
ที่สุดของหน้าจอ
หน้าจอ Zenfone Max Pro (M1) เป็นแพแนล IPS สัดส่วน 18:9 ความละเอียด 2160x1080 (FHD+) ขณะที่ความโดดเด่นที่สุดของหน้าจออยู่ที่ Contrast Ratio ที่สูงถึง 1500:1 สูงที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง ความสว่างอยู่ที่ 450 nit
ด้วย Contrast และความสว่างที่สูงทำให้หน้าจอของ Zenfone Max Pro (M1) สีสันสดใสและคมชัดมากไม่ว่าจะเล่นเว็บ ดูหนัง ดู YouTube หรือเล่นเกม ไม่แพ้หน้าจอของสมาร์ทโฟนเรือธง ขณะเดียวกันการเดินเล่นกลางแจ้งก็ยังคงเห็นได้ชัดเจน ส่วนเล่นกลางคืน ถ้ามืดสนิทอาจจะแสบตาอยู่เหมือนกัน ต่อให้ลดความสว่างลงมาน้อยที่สุดแล้วก็ตาม
ที่สุดของเสียง
Zenfone Max Pro (M1) ใช้ชิปเสียงเดียวกับที่ใช้ในระดับเรือธงด้วย NXP 9874 Smart Amps ให้เสียงที่ดังกว่าเดิม 41% คุณภาพเสียงเบสดีกว่ารุ่นเดิมเดิม 14% ซึ่งจากการใช้งานจริง เสียงเพลงจากเครื่องดังเพียงพอสำหรับการเปิดเพลงฟังในห้องนอนขนาดกลางๆ โดยไม่ต้องต่อลำโพงภายนอก และรู้สึกได้ว่าเสียงไม่แตกเหมือนหลายๆ รุ่นในราคาใกล้กัน
การใช้งานทั่วไป
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าจุดเด่นของ Zenfone Max Pro (M1) คือเรื่องของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวันหายห่วง และด้วยความเป็นเพียวแอนดรอยด์ (Oreo 8.1 - ไม่ใช่ Android One) ไม่มี Zen UI ครอบทับ การใช้งานจะค่อนข้างลื่นไหลกว่ารุ่นอื่นๆ โดยทาง ASUS การันตีให้ด้วยว่าจะอัพเดตให้อีกสองรุ่นใหญ่ถึง Android Q แน่นอน ไม่เหมือนกับในกลุ่มราคาเดียวกัน ที่หากไม่ใช่ Android One ก็ไม่มีอะไรยืนยันเรื่องการอัพเดตเลย
ขณะที่สมรรถภาพในการเล่นเกม ยอมรับว่าเหนือกว่าที่คาดเอาไว้พอสมควร เพราะเมื่อเล่น Firefire ด้วยกราฟิคแบบ Ultra หรือ RoV เปิด High Frame Rate และ HD Display ทั้งสองเกมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่น ไม่กระตุก เฟรมเรทไม่ตก โดยเฉพาะ RoV ที่เมื่อเปิดโหมด High Frame Rate รู้สึกได้ว่าเฟรมเรทเพิ่มขึ้นและภาพไหลลื่นขึ้นจริงๆ
กล้อง
กล้องหลังของรุ่นนี้เป็นกล้องคู่ กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล /f2.2 กล้องเสริม 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ Portrait Depth สำหรับการทำเอฟเฟ็ค Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ
โหมดถ่ายรูปมีให้เลือกเยอะมาก
คุณภาพภาพถ่ายช่วงกลางวันจะค่อนข้างชัด สีค่อนข้างสด White Balance ไม่เพี้ยน
ส่วนการถ่ายกลางคืนสียังคงสด อาจมี noise บ้าง แต่รวมๆ แล้วก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้
สรุป
หากดูสเปครวมๆ แล้ว Zenfone Max Pro (M1) อาจไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ มากนัก แต่อย่าลืมว่านี่คือสมาร์ทโฟนราคาเริ่มต้น 5,990 บาทและสูงสุดที่เพียง 7,990 บาท และเมื่อพิจารณาเทียบกับคู่แข่งในราคาระดับเดียวกันแล้ว Zenfone Max Pro (M1) ถือว่าน่าสนใจที่สุดตัวนึงก็ว่าได้ โดยเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ที่มหาศาลถึง 5,000 mAh หน้าจอสีสวยสดใส เล่นเกมก็ลื่น แถมความคลีนด้วยเพียวแอนดรอยด์ที่ไม่แพและได้อัพเดตถึง 2 เวอร์ชัน