"ไม่มีใครอยากอยู่กับคนป่วย" แฟนบอกแบบนี้ในวันที่เลิกกัน
โรคที่ผมป่วยไม่ได้เป็นโรคร้ายน่ารังเกียจขนาดฆ่าคนตายหรือทำตัวเป็นภาระให้เธอดูแลแต่มันเป็นโรคที่ทำให้ผมกับเธอมีปัญหาเล็กๆกันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่และทำให้เธอเลิกรากับผม แน่นอนว่า บอกไปไม่มีใครเชื่อ แต่ผมบอกเลยครับว่า มันเกิดขึ้นจริง ใช่ครับ ผมเป็นกรดไหลย้อนครับ
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วก่อนผมจะเป็นโรคนี้ เราก็มีความสุขกันดีครับ คบกันราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จนผมมาเป็นกรดไหลย้อนที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย มันเลยเริ่มเป็นปัญหาให้เธอขอเลิกกับผม
เรื่องแรก เรื่องกลิ่นปากครับ แน่นอนว่า คนเป็นกรดไหลย้อนจะปากเหม็น มีอาการเรอบ่อยๆ แรกๆเธอก็เข้าใจและทนได้แต่พอผมเรอบ่อยๆ เธอก็จะตีสีหน้าหงุดหงิด ยิ่งเวลาคุยกันเธอจะบอกให้ผมพูดน้อยๆหรือหุบปากไปเลย ร้ายแรงสุดคือ ตอนไปกินข้าวข้างนอกแล้วผมเรอเหม็นจนโต๊ะข้างๆบ่นทำให้เธออายและเราไม่เคยไปกินข้าวข้างนอกกันอีกเลย
เรื่องต่อมา ผมมีอาการหอบหืดและเจ็บหน้าอกบ่อยๆ เธอมักจะรำคาญเวลาอยากดูละครหรือฟังเพลงแล้วได้ยินเสียงหายใจผมที่ดังแบบครืดๆเหมือนคนป่วย เธอบอกมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่กับคนที่ใส่ท่อช่วยหายใจตลอดเวลา กระทั่งตอนนอน การกรนของผม เสียงหายใจทีดังกว่าปกติก็ทำให้เธอหงุดหงิดจนนอนไม่หลับ เธอก็เลยไม่ค่อยมาค้างกับผมอีกเลย
เรื่องสุดท้ายคือ เรื่องอาหาร เธอชอบกินรสจัดตามประสาผู้หญิงแต่คนเป็นกรดไหลย้อนแบบผมกินไม่ได้ ทำให้เธอต้องงดของชอบลง ต้องมากินอาหารรสจืดๆและทนกับอาการเคี้ยวช้าของผม เธอก็เลยไม่เคยอยากกินข้าวกับผม และบอกว่า แค่เห็นหน้าผมก็ไม่อยากอาหารแล้ว (จุกมาก)
ครับ โดยรวมก็ประมาณนี้ สุดท้ายเธอก็ขอเลิกบอกว่า ทนอยู่กับคนป่วยแบบผมไม่ไหว เธอพยายามทนแล้ว แต่ผมไม่หายสักที เธอเลยขอลา ขอไปหาอะไรดีๆข้างหน้าดีกว่าอยู่กับคนป่วยที่มีสารพัดปัญหาอย่างผม
ถึงตอนนี้ก็ 3 เดือนแล้วครับ ที่เธอจากผมไป ถึงแม้อาการจะค่อยๆดีขึ้น(ผมยังไม่หายดี) แต่แน่นอนครับ ใจผมมันไม่หายดีเลย ให้เลิกเพราะเหตุผลอื่นดีกว่าเหตุผลที่บอกว่าผมเป็นคนป่วยที่ย้ำให้รู้ว่า เธอทนผมไม่ไหวยังดีกว่าครับ