สาวโพสท์เตือนอุทาหรณ์ ไม่ใช้ช้อนกลาง กินอาหารค้างคืน สุกๆดิบๆ ทำป่วยหนัก!
สาวโพสท์เตือนภัย หวังเป็นวิทยาทานจากเหตุการณ์ของเธอที่ถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเพียงเพราะชอบกินอาหารค้างคืน อาหารสุกๆดิบๆ ไม่ใช้ช้อนกลาง ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้ป่วยหนัก และหากปล่อยไว้อาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งได้ โดยสมาชิกเฟซบุ๊กคุณ Apple PK ได้โพสท์ไว้ว่า
ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ เล่าอาการ เผื่อเปนอุธาหรณ์ให้ทุกคนที่อ่าน หันมาดูแลใส่ใจตัวเองให้มากขึ้น เพราะโรคนี้เปนแล้วมันทรมาน!! อย่ามองข้าม!!
จากไม่เครียดอะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่ตรวจเจอ..ไม่ว่าจะโรคกระเพราะ ลำไส้อักเสบ หรือซีสในปีกมดลูก ชิวมาตลอดที่อยุ่รพ.เพราะมันสามารถรักษาได้ แต่พอมาฟังผลจากการรักษาโดยการส่องกล้องในตอนเช้า ว่าที่ลำไส้อักเสบและเปนแผล(เห็นรูปจากการส่องกล้อง น้ำตาแทบไหล) เกิดจากการติดเชื้อ H.pylori
ซึ่งเชื้อ H.pylori เปนเชื้อที่เกิดจากคนสู่คน มาจากคนที่มีเชื้ิอตัวนี้อยู่ แล้วเรารับมาโดยไม่รู้ตัว จากการรับประทานอาหารร่วมกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง หรือจากคนที่ปรุงอาหารผ่านมือที่ไม่สะอาด อาหารดิบๆเช่นจำพวกปลาแซลม่อนดิบ หอยแครงลวกแบบไม่สุก!!! 😖ผลที่ได้รับเชื้อตัวนี้มาคือแผลในลำไส้!!!
ที่เริ่มเครียดเพราะ... ไอ้เจ้าเชื้อตัวนี้มันแข็งแรงมาก ต้องรักษาโดยการกินยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง ห้ามขาด!! ไม่งั้นจะเกิดการดื้อยา และต้องเริ่มต้นรักษากันใหม่ หนำซ้ำอาจบานปลายจนเปนมะเร็งได้!!!😥😥 มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะ!!
แต่... จุดพีคมันอยุ่ที่ตัวยา.. คือยาที่ต้องทานมันโคตรแรง แรงชนิดที่เรามีอาการคลื่นไส้ หวิวตรงหน้าอกเหมือนจะขาดใจ ขมปากขมคอไปหมด นอนไม่ได้ทั้งคืน พอยาหมดฤทธิ์นั่นแหล่ะ ถึงปกติ!! และต้องดื่มน้ำตามเข้าไปเยอะๆ 100คนที่รับยาตัวนี้ จะมีอาการข้างเคียงซะ90% ซึ่ง1ใน90นั้นก็คือตัวเราเอง😔😔
🚫และอีกสิ่ง1ที่อยากจะย้ำ!!!
คืออาหารค้างคืนที่แช่เย็นแล้วนำมาอุ่นใหม่ เปนไปได้ เลิกนะคะ เชื้อแบคทีเรียตัวฉกาจเลย!!! ปลาดิบก็เช่นกัน อย่างปลาแซลม่อน ซูชิปลาดิบ ก็ให้เลิกขาด!! (คุณหมอเฉพาะทางยืนยันเอง) และกินอาหารให้เปนเวลา เพราะตัวเราเองเปนคนที่ตื่นสาย ตื่นมาก็จัดกาแฟก่อนเลย และกินข้าวเช้าไปโน่นเลยคะเที่ยงหรือบ่ายเลย(อันนี้ไม่ดีนะคะ) ปรับเวลาได้ปรับเลย วินัยต้องมาโดยอัตโนมัติ
ไม่ไหวก็ต้องไหวสิวะ!!!! โชคดีแค่ไหนที่รู้ตัวเร็ว เพราะถ้าไม่ใส่ใจตัวเราเอง เปนอีกทีอาจร้ายแรงถึงขั้นทรมาณกว่านี้....หันกลับมาใส่ใจสุขอนามัยให้มากขึ้น ล้างมือทุกครั้งก่อนหยิบไรเข้าปาก ใครจะว่าเราเรื่องมากก็เถอะ ลองมาเปนแล้วจะเข้าใจ!!
🚫ต้องปรับนาฬิกาชีวิตใหม่หมด ตื่นเช้าๆเพื่อกินยา ตามตาราง เข้านอนไวๆไม่เกิน4ทุ่มยิ่งดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามเครียดด้วย!!
เราไม่ดูแลตัวเอง ใครที่ไหนจะดูแลเรา.. นอกจากหมอ!!
แต่ล่าสุด อ.เจษฎา เด่นดวง ได้โพสท์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้ว่า
อย่าพึ่งตกใจเรื่อง "การเป็นลำไส้อักเสบจากเชื้อ H. pylori" ครับ สาเหตุหลักไม่ใช่เรื่องไม่ใช้ช้อนกลาง หรือกินอาหารค้างคืน หรือกินปลาดิบ นะครับ
วันนี้แชร์กันกระหน่ำและก็ถามกันมาเต็มอินบ๊อกซ์เลย ถึงกรณีที่สาวคนหนึ่งโพสต์ว่า เข้าโรงพยาบาลด้วยโรคลำไส้อักเสบ จากการติดเชื้อ H.pylori ... แล้วบอกว่า ติดเชื้อมาจากคนที่มีเชื้ิอตัวนี้อยู่ ด้วยการกินอาหารร่วมกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง หรือจากคนที่ทำอาหารมือที่ไม่สะอาด หรือจากอาหารพวกปลาแซลม่อนดิบ หอยแครงลวก และอาหารค้างคืนที่นำมาอุ่นใหม่ !!
ความจริงเรื่องนี้คืออะไรกันแน่ ? เริ่มจากเชื้อ H. pylori นั้น มีชื่อเต็มคือ Helicobacter pylori เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่พบปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สุกสะอาด ขณะที่ก็พบอยู่ในร่่างกายของคนเราด้วยโดยประมาณ 50% ของคนทั้งโลกนั้นมีเชื้อนี้อยู่ในตัวแล้ว ส่วนคนไทยจะมีการติดเชื้อนี้ประมาณ 17-55%
เชื้อ H. pylori จะใช้สายแฟลกเจลล่า flagella ของมัน ยึดเกาะติดกับผิวกระเพาะอาหารของเรา และหลั่งเอนไซม์ยูรีเอส urease ออกมา ทำให้มันสามารถคงอยู่ได้นานเรื้อรังในกระเพาะอาหาร
ผู้ที่ติดเชื้อนึ้ ส่วนใหญ่จะ "ไม่แสดงอาการของโรค" ปัญหาคือ คนบางคนที่โชคร้าย ก็อาจจะพบว่าเชื้อ H. pylori ทำให้เกิดโรคขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเชื้อ ภูมิต้านทานของร่างกาย และสภาวะแวดล้อมบางอย่างที่เอื้อต่อการก่อโรค
เชื้อสายพันธุ์ที่ดุร้ายจะสร้างสารต่างๆ ออกมา ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของผิวกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ก่อให้เกิดแผลขึ้น จนเป็นสาเหตุสำคัญของโรคต่างๆ ได้แก่ โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นอักเสบเรื้อรัง โรคกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นแผล หรือแม้แต่มะเร็งกระเพาะอาหารได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารร่วมอยู่ด้วยแล้ว
ถึงแม้ว่า การกินอาหารด้วยช้อนกลาง การอุ่นอาหารที่ค้างคืนให้สุกก่อนกินซ้ำ และการเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ นั้นจะเป็นหลักพื้นฐานที่ช่วยลดการติดและแพร่เขื้อโรคได้ แต่ก็ควรทราบด้วยว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการติดเชื้อ H. pylori นั้น อาจติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาด มีการ "ปนเปื้อนอุจจาระ" ของผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อเข้าไป เช่น เข้าห้องน้ำขับถ่ายแล้วล้างมือไม่สะอาด ... การจัดการเรื่องสุขาภิบาลและสุขอนามัยในครัวเรือนจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ส่วนผู้ที่สงสัยว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหารของตัวเอง ว่าเป็นเพราะเกิดจากเชื้อ H. pylori หรือไม่ หรือมีคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ก็ควรตรวจหาความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที่และป้องกันโรคได้ดีที่สุด
---------
ข้อมูลจากบทความเรื่อง ภัยร้ายจากการติดเชื้อแบคทีเรีย H. pyloriในกระเพาะอาหาร และวิธีการดูแลรักษา ( http://readgur.com/doc/2319852/ภัยร้ายจากการติดเชื้อแบคทีเรีย-h.-pylori-ในกระเพาะ ) โดย นพ.สุริยา กีรติชนานนท์ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารหัวหน้าศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่
และบทความเรื่อง H.pylori เชื้อแบคทีเรียร้ายก่อหลายโรคในกระเพาะ โดย โรงพยาบาลเวชธานี ( https://www.thairath.co.th/content/210949 )
https://www.facebook.com/supanun.apple/posts/2192249787466911