ทรงผมฮอตฮิตแต่ละยุค
ช่วง 1920 ถึง 1940 หญิงสาวชาวยุโรปนิยมไว้ผมทรงสั้นกุดแบบผมผู้ชาย และมักจะสวมหมวกทับไว้ ไม่ค่อยมีการไว้ยาว มัดจุก หรือเกล้าผม
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ความนิยมผ้าผูกผมและผ้าโพกหัวก็เข้ามาแทน และบางครั้งก็โพกหัวแล้วใส่หมวกทับอีกชั้นหนึ่ง การทำผมแบบนี้ยังคงเป็นที่นิยมไปจนถึงช่วงทศวรรษ 1960
หลังจากนั้น สาวๆ ยุคซิกตี้ก็เริ่มดัดผม ย้อมผม และใส่วิก เลยทำให้การใช้หมวกก็ค่อยๆ ลดความนิยมลงไป
ส่วนทรงผมผู้ชายก็เป็นทรงผมแบบเดียวกับผู้หญิง แต่นิยมหวีเรียบไปข้างใดข้างหนึ่งและชโลมน้ำมัน ต่อมาในช่วงปี 1950 การชโลมน้ำมันยังคงเป็นที่นิยมเช่นเดิม แต่ว่าผมด้านบนจะหนาขึ้น สำหรับผู้หญิงช่วงนี้ ทรงผมสั้นดัดลอนเข้ากับรูปหน้าเป็นที่ฮิตกันมาก ดังจะเห็นจากนักแสดงบางคนที่ไว้บ๊อบเสมอติ่งหูประหนึ่งเด็กมัธยมต้นของไทย และคอยเล็มให้สั้นเสมอกันอยู่ตลอด
จูดี้ ฟอสเตอร์ ที่มาของภาพ
ช่วงปี 1960 ผู้ชายส่วนใหญ่จะนิยมทรงกะลาครอบหัวแบบสมาชิกวงเดอะบีทเทิ้ลส์ ซึ่งคงความนิยมไปจนถึงช่วงปลายทศวรรษ1970 นอกจากนี้ก็ยังมีการตัดผมสั้นและดัดหยิกแบบจูดี้ ฟอสเตอร์ ด้วยระหว่างยุค70 ทรงผมซอยไล่ระดับมาแทนที่และกลายเป็นกระแสนิยมไปจนถึงช่วง1980
เจนิเฟอร์ อนิสตัน ที่มาของภาพ
คอร์ทนี่ย์ ค็อกซ์ ที่มาของภาพ
ในกลางยุค 80 คนพากันไว้ทรงผมฟูฟ่อง กับทรงผมหยักศกมีหน้าม้ากันไปทั่ว ในช่วงต้นทศวรรษ1990 ผมตรงและผมยาวม้วนลอนเกลียวก็มาแทนที่ และต่อมาอีก 10 ปี ก็เป็นช่วงเวลาของผมบ๊อบและยาวปานกลาง แบบทรงผมของเจนิเฟอร์ อนิสตัน และคอร์ทนี่ย์ ค็อกซ์ ดารานำจากรายการทีวี Friends ก็นำกระแสแฟชั่นทรงผมไปทั่วโลก
จากช่วงปี 1970 เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาของทรงผมแบบพั้งค์ เช่น โกนหัว โมฮ็อก และกลัดสีผม ต่างจากความนิยมในกระแสหลักเกิดขึ้น นอกจากนี้การแต่งตัวแนว “เฮวี่เมทัล” ก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย โดยเฉพาะหลังจากทศวรรษ 1980 ผู้ชายมักไว้ผมยาว ทำสี และยีผม ซึ่งเป็นที่มาของทรงผมหลายทรงในปัจจุบันด้วย
และแน่นอนว่าในออฟฟิศผู้คนมักจะไว้ผมทรงกระแสอนุรักษ์นิยมให้ดูเรียบร้อน ไว้ตรง หรือหยิกเล็กน้อย