หลังแต่งงานมา 9 ปี เพิ่งรู้ว่าสามีเป็นเกย์ แม้เขาอยากเลิกก็ห้ามใจไม่ได้
วันนี้ขอนำปัญหาทางจดหมาย มาตอบนะคะ เขาเล่าปัญหาให้ฟังดังนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันแต่งงานกับสามีมา 9 ปี มีลูกสาว 1 คน อายุ 7 ขวบ ปีนี้เองที่ดิฉันจับได้ว่าสามีไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย เมื่อคาดคั้นเขาจึงยอมรับ เขาบอกดิฉันว่าอยากจะเลิกแต่มันห้ามใจตนเองไม่ได้
ดิฉันจึงอยากจะถามคุณหมอว่า มีการรักษาโรคเกย์นี้ที่ไหน ทำอย่างไรเขาจะเลิกยุ่งกับเพศเดียวกันได้ ทุกวันนี้ดิฉันว้าวุ่นเป็นทุกข์ใจมาก
จากที่เล่าให้ฟังสามีของคุณเป็นได้ทั้งชายรักร่วมเพศและชายรักต่างเพศ หรือที่เรียกไบเซ็กส์ชวล (Bisexual) ซึ่งความรู้ทางการแพทย์ในปัจจุบันไม่ได้ถือว่า เป็นโรคหรือเป็นความผิดปกติทางจิตอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการกำหนดจากธรรมชาติมาตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์มารดาอย่างไรก็ตามในบางประเทศ บางศาสนา การรักร่วมเพศนั้นถือว่าเป็นความผิดปกติ ที่ต้องได้รับการรักษาเยียวยา และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ในปัจจุบันนี้สังคมส่วนใหญ่ของโลกเรา การรักร่วมเพศไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเหมือนสมัยก่อน มีนักการเมืองคนดังดารานักร้องจำนวนมากมายประกาศตนเองว่าเป็นรักร่วมเพศหรือเป็นไบเซ็กส์ชวล สำหรับเมืองไทยคนรักร่วมเพศบางรายประกาศตนชัดเจน แต่ในบางรายโดยเฉพาะฝ่ายชายที่เป็นชายรักร่วมเพศแต่กังวลกับปัญหาภาพพจน์ แม้มีผู้คนสงสัย เขาก็ปฏิเสธ ซ่อนเร้นรักร่วมเพศ เพื่อรักษาภาพพจน์แมนๆของตัวเองเอาไว้
จากผลการวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา “เรื่องการรักษารักร่วมเพศโดยจิตแพทย์” มีการสอบถามจิตแพทย์จำนวนกว่าพันสามร้อยคน พบว่า
ร้อยละ17 ของจิตแพทย์เคยรักษาคนรักร่วมเพศ เพื่อให้ลดความรู้สึกอยากหรือต้องการรักร่วมเพศลง
ร้อยละ 4 เคยรักษาให้คนรักร่วมเพศเลิกพฤติกรรมรักร่วมเพศ
แต่จิตแพทย์ส่วนใหญ่กล่าวว่า ในความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบัน ไม่มีวิธีรักษารักร่วมเพศให้ได้ผล เพราะรักร่วมเพศไม่ใช่โรค เป็นสภาพที่กำหนดมาจากจิตใจ
การรักษาพวกเขาให้เลิกพฤติกรรมที่ตนเองต้องการ อาจทำให้ขาดความสุขในชีวิต ชีวิตล้มเหลว เกิดปัญหาโรคจิตโรคประสาท จนนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้
ดังนั้น หากเมื่อนำคนรักร่วมเพศไปปรึกษาจิตแพทย์ แทนที่การรักษาจะมุ่งเน้นรักษาอาการรักร่วมเพศให้กลายเป็นรักต่างเพศ จิตแพทย์อาจจะรักษาภรรยาของคนรักร่วมเพศให้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตามเหตุตามผลที่ควรจะเป็นแทน
และสิ่งที่ควรเป็น เมื่อเลือกชายรักร่วมเพศมาเป็นสามีและเป็นพ่อของลูก คือคุณต้องถามตนเองว่า เราสามารถรับพฤติกรรมเขาได้ไหม หากรับได้ต้องระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่จะนำมาจากการรักร่วมเพศ
หากตัวคุณไม่สามารถรับพฤติกรรมรักร่วมเพศได้ เจ็บปวด เครียดเป็นทุกข์ ฯลฯ คุณอาจจะเลือกเลิกความเป็นสามีภรรยา เหลือแต่ความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โดยชายรักร่วมเพศแม้จะเป็นสามีที่ไม่ดีตามความรู้สึกของคนเป็นภรรยา แต่เขาสามารถเป็นเพื่อนที่ดีของคุณและเป็นพ่อที่ดีของลูกได้