หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความเชื่อผิดๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย

Share แชร์บอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้ โพสท์โดย gotdam

ความเชื่อผิดๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย

ความเชื่อผิดๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย

 

หลายคนเชื่อกันว่าถุงยางนี่แหละ คือวิธีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีก ซึ่งก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างจะถูกต้องค่ะ แต่ว่าจริงๆ มันก็ไม่ได้ถูก 100%

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องนั้น ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับถุงยางอนามัยกันก่อนดีกว่าค่ะ

     ถุงยางอนามัย (condom) ป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้โดยใช้ สวมครอบอวัยวะเพศชายที่กำลังแข็งตัวในขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น ซิฟิลิส หนองใน และ เอดส์ได้ด้วย

นอกจากจะใช้เพื่อคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อแล้ว ยังนิยมใช้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการร่วมเพศอีกด้วย โดยมีการผลิตให้มีขนาด รูปร่าง และสีสันที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งแบบเรียบและแบบที่มีกระเปาะ (ถุงเก็บน้ำอสุจิที่ส่วนปลาย ) บางชนิดมีกลิ่นหรือรสชาติของผลไม้ หรือน้ำหอมชนิดต่าง ๆ บางชนิดมีสีสันสดใสหรือเคลือบไปด้วยสารเรืองแสงที่มองเห็นได้ในที่มืด ซึ่งมีทั้งแบบทึบแสงและแบบบางใส บ้างเคลือบด้วยสารหล่อลื่นหรือตัวยาบางชนิดที่ช่วยทำให้ร่วมเพศได้นานขึ้น เป็นต้น

ต่อไปเราจะมาพูดถึงเรื่อง ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับถุงยางอนามัย
 

1.   ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้

จริงๆ แล้วถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันโรคต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แถยังป้องกันเชื้อต่างๆ ที่สำคัญคือ การใช้ถุงยางอนามัยนับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรคติดต่อเหล่านั้นได้ 


2.   ถุงยางอนามัย ป้องกันโรคได้แน่นอน

หลายคนที่อ่านข้อ 1 จบ แล้วมาที่ข้อ 2 อาจจะ งง เอ๊ะ ข้อ 1 ไหนว่าป้องกันได้ แล้วทำไมข้อ 2 ถึงพูดแบบนี้ คือเราจะบอกว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ แม้แต่เรื่องถุงยางอนามัยและโรคติดต่อก็ตาม เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีมากมายหลายโรค และก็ไม่ได้จำกัดหนทางติดต่อแค่การร่วมเพศเท่านั้น บางทีแค่จูบก็เสี่ยงตืดเชื้อแล้ว เพราะฉะนั้น เผื่อมีบางคนชะล่าใจเราจึงอยากเตือนไว้ก่อนค่ะ ว่าถุงยางอนามัยแค่ป้องกันโรคติดต่อจากการร่วมเพศที่แบบสอดใส่ แต่ถ้าการจูบ หรือไปสัมผัสถูกบาดแผลตามร่างกาย แล้วคนๆ นั้นดันมีเชื้อ อันนี้ก็ตัวใครตัวมันค่ะ

 
3.   ใช้ถุงยางอนามัย ไม่ถึงใจหรอก

จริงอยู่ค่ะที่เนื้อต่อเนื้อจะให้ความรู้สึกดีกว่าก็ตาม แต่การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง มันจะไม่ดีต่อใจกว่าเหรอคะ แถมในปัจจุบันถุงยางอนามัยถูกออกแบบให้บางเฉียบจนแทบไม่รู้สึกว่าสวมใส่อยู่ ดังนั้นเปลี่ยนความคิดแบบนี้ได้เลย ยิ่งบางยี่ห้อ บางรุ่นยังมีพื้นผิวต่างๆ ให้เลือกสรรมากมาย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทำ แบบนี้จะบอกว่าใช้ถุงยางอนามัยแล้วไม่ถึงใจได้ยังไงคะ

 
4.   อยากปลอดภัยยิ่งกว่า ต้องใส่ถุงยางหลายๆ ชั้น

ขอบอกเลยค่ะว่า การใส่ถุงยางอนามัยเกินกว่า 1 ชั้นขึ้นไป มีโอกาสที่ชั้นของถุงยางจะเกิดการเสียดสีกันและทำให้เกิดการฉีกขาดได้ เ เนื่องจากบรรดาถุงยางหลายๆ ชั้นเหล่านี้แหละจะเกิดการเสียดสีกัน ทำให้ฉีกขาดได้ง่าย และถ้าขาดเมื่อไหร่ รับรองได้ว่าวงแตกแน่นอน

5.   จะท่ายากแค่ไหน ถุงยางเอาอยู่!


อย่าได้คิดอะไรแบบนี้เลยค่ะ เพราะการกระทำที่รุนแรงอาจมีผลทำให้ถุงยางฉีกขาดหรือแตกได้ แล้วยิ่งในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจต้องทำใจว่าช่องทางนั้นมีความคับแคบและเสียดสีมากกว่าช่องทางปกติทั่วไป ทำให้เสี่ยงต่อการฉีกขาดของถุงยาง ดังนั้นกรุณาใช้อย่างระมัดระวังนะคะ


6.   ถุงยางทาน้ำมัน ลื่นปรื๊ดๆ

การทาน้ำมันบริเวณถุงยางอนามัยถือเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ถุงยางคุณภาพลดลงอย่างตั้งใจ และมีโอกาสที่จะฉีกขาดหรือรั่วได้ ยิ่งสารบางชนิดจะทำให้ยางละลาย ทำให้ถุงยางที่เราใช้มีโอกาสแตกได้มากขึ้นกว่าเดิม ถ้าอยากได้แบบลื่นๆ ก็เอาเจลหล่อลื่นทาเฉพาะที่ๆ เขาให้ทาดีกว่านะคะ

7.   เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์สิ จะใช้ ก็จะได้หยิบใช้เลย


บอกเลยค่ะว่าการเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าตังค์ทำให้ถุงยางทั้งร้อนทั้งชื้น และยังเสี่ยงต่อการถูกทับจนหักงอฉีกขาดได้อีกต่างหาก ทางที่ดีที่สุด คือการเก็บไว้ในที่ๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ร้อนและมีความชื้นสูงค่ะ

 
8.   ใช้ถุงยางซ้ำได้

          ใครคิดแบบนี้ ขอให้เลิกคิด เลิกทำเถอะค่ะ เพราะถุงยางอนามัยออกแบบมาให้ใช้เพียงแค่ครั้งเดียวแล้วทิ้งเท่านั้น ระวังให้ดีนะคะ บางคนที่แบบเอาไปล้าง แล้วมาใช้ต่อเนี่ย พอมันมีประสิทธิภาพที่ลดลง มันก็เกิดการฉีกขาดได้ง่าย นั่นเท่ากับว่าเราเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นนะคะ


9.   ถุงยางกลับด้าน แปลกใหม่ดีอ่ะ
คือแบบ อยากรู้ว่าอะไรทำให้เกิดความคิดแบบนี้คะ ความจริงแล้วการใส่ถุงยางก็เหมือนกับการใส่แว่นหรือคอนแทกเลนส์น่ะคค่ะ คือต้องใส่ให้ถูกต้อง ไม่ยังงั้นก็จะมองไม่ชัด ถ้าเกิดใส่ถุงยางกลับด้าน แล้วมันป้องกันอะไรไม่ได้ ก็ซวยไปนะคะ

 
10.   รอเกือบเสร็จแล้วค่อยใส่ถุงก็ได้ กันอสุจิได้เหมือนกัน
 
ใส่ตั้งแต่เริ่มจนจบค่ะ ดีที่สุดค่ะ เพราะ ถุงยางอนามัยไม่ได้ไว้ใช้ป้องกันอสุจิเท่านั้น แต่ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วรู้ไหมคะว่าอสุจิอาจปนออกมากับน้ำหล่อลื่นของอวัยวะเพศชายได้ตลอดเวลา ถ้าคุณผู้ชายเกิดเป็นโรคขึ้นมา มันก็แพร่เชื้อไปหาอีกฝ่ายได้เลย แม้ไม่ต้องถึงจุดสุดยอดค่ะ มันอันตรายมากเลยนะคะ
 
 
11.   ถุงยางป้องกันท้องได้ 100%

ไม่มีวิธีไหนที่สามารถคุมกำเนิดได้ 100% เพียงแต่ถุงยางอนามัยนับเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ดังนั้น แม้ว่าถุงยางจะไม่ได้ปลอดภัย 100% แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด และทางการแพทย์แนะนำค่ะ

จาก 11 ข้อที่กล่าวมา ถ้าใครมีความคิด หรือเคยทำแบบนี้ ก็ขอให้เลิกเถอะค่ะ มันเป็นค่านิยมที่โคตรผิด แล้วถ้าใครที่อาย ไม่กล้าเดินไปซื้อถุงยาง  ลองเดินไปซื้อที่ร้านให้ไกลๆ บ้านสักหน่อย เพื่อลดความเสี่ยงในการเจอคนรู้จัก หรือไม่ก็คว้าขนมอื่นมาเยอะๆ แล้วค่อยเนียนๆ คว้ากล่องถุงยางอนามัยใส่เพิ่มลงไปก็ได้ค่ะ จะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ก่อนซื้อ สังเกตไซส์และวันหมดอายุด้วยนะคะ จะได้ไม่เสียเงินฟรี  ให้ท่องเอาไว้เลยนะคะว่าความอายในตอนนี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากแฟนเราท้องแบบไม่พร้อมขึ้นมา หรือไปมีอะไรกับใคร แล้วเขาพลาดท้อง กลายเป็นพ่อคนไม่รู้เรื่อง


คุณผู้ชายทุกคน ถ้าอยากจะมีเซ็กส์ แต่ยังไม่อยากมีลูก ก็ต้องทำตัวแมนๆ นะคะ ไปซื้อเลยค่ะ ถุงยางอนามัย ทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่คุณ...ด้วยค่ะ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
gotdam's profile


โพสท์โดย: gotdam
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: ปุ้มศรีีีีีีี, zerotype, ผักแปม
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
OK ล็อตเตอรี่ รวมเลขดังไว้ที่นี่ 1 เมษายน 2567สารก่อมะเร็ง 4 อย่าง ที่ลูกคุณอาจจะได้รับทุกวันครูหนุ่มชาวจีนโพสต์รูปตัวเอง เปรียบเทียบสมัยก่อนเเละหลังทำงานได้ 6 ปี เปลี่ยนไปจริง ๆ 😌เปิดบ้านซุปตาร์ "ลิซ่า BLACKPINK" ที่เกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 200 ล้าน..ฉลองวันเกิดครบ 27 ปีสร้างอุโบสถ ทำไมต้องฝังลูกนิมิต ?CIB ร่วม อย. ทลายแก๊ง ขายอาหารเสริม อาหารหลอกรักษาโรคร้าย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ซีอิ๊วแบบเม็ด" ฉีกทุกกฎของซอส..นวัตกรรมใหม่จาก "เด็กสมบูรณ์""บิ๊กเต่า" รับหลักฐาน "ทนายตั้ม" ลั่น ใหญ่แค่ไหนก็จับ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทยหลวงพี่เขมรแนะชาวเขมร ว่า..“ไทยเอาคำว่า‘สงกรานต์‘ไปแล้ว งั้นเขมรเราใช้คำว่า ’มหาอังกอร์สงกรานต์‘ ดีไหม? เพราะคำนี้มันใหญ่กว่าสงกรานต์ธรรมดา”ยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อและคนเขมรดราม่ากันเอง อยากให้มีการจัดสงกรานต์ แต่อยากจะแบนไม่ให้มีการเล่นปืนฉีดน้ำกัน เนื่องจากปืนฉีดน้ำ เป็นการแสดงวัฒนธรรมไทย (What?)
NewJeans @ Billboard Magazine March 2024Wang Feifei @ InStyle China February 2024สดใสจังพ่อจ๋าDeng Wei @ L’Officiel Hommes China March 2024
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
แม่น้ำที่อันตรายที่สุดในโลก“กางเกงท้องถิ่นไทย” คุณประโยชน์ด้าน Sustainable Fashionปัญหาใหญ่ที่สุดในลาวตอนนี้ ที่อาจจะไม่สามารถเเก้ไขได้disgusting: น่าขยะแขยง น่ารังเกียจ
ตั้งกระทู้ใหม่