ความเชื่อผิดๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย
ความเชื่อผิดๆ ของการใช้ถุงยางอนามัย
หลายคนเชื่อกันว่าถุงยางนี่แหละ คือวิธีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีก ซึ่งก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างจะถูกต้องค่ะ แต่ว่าจริงๆ มันก็ไม่ได้ถูก 100%
แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องนั้น ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับถุงยางอนามัยกันก่อนดีกว่าค่ะ
ถุงยางอนามัย (condom) ป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้โดยใช้ สวมครอบอวัยวะเพศชายที่กำลังแข็งตัวในขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น ซิฟิลิส หนองใน และ เอดส์ได้ด้วย
นอกจากจะใช้เพื่อคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อแล้ว ยังนิยมใช้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการร่วมเพศอีกด้วย โดยมีการผลิตให้มีขนาด รูปร่าง และสีสันที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งแบบเรียบและแบบที่มีกระเปาะ (ถุงเก็บน้ำอสุจิที่ส่วนปลาย ) บางชนิดมีกลิ่นหรือรสชาติของผลไม้ หรือน้ำหอมชนิดต่าง ๆ บางชนิดมีสีสันสดใสหรือเคลือบไปด้วยสารเรืองแสงที่มองเห็นได้ในที่มืด ซึ่งมีทั้งแบบทึบแสงและแบบบางใส บ้างเคลือบด้วยสารหล่อลื่นหรือตัวยาบางชนิดที่ช่วยทำให้ร่วมเพศได้นานขึ้น เป็นต้น
ต่อไปเราจะมาพูดถึงเรื่อง ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับถุงยางอนามัย
1. ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อได้
จริงๆ แล้วถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันโรคต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แถยังป้องกันเชื้อต่างๆ ที่สำคัญคือ การใช้ถุงยางอนามัยนับว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรคติดต่อเหล่านั้นได้
2. ถุงยางอนามัย ป้องกันโรคได้แน่นอน
หลายคนที่อ่านข้อ 1 จบ แล้วมาที่ข้อ 2 อาจจะ งง เอ๊ะ ข้อ 1 ไหนว่าป้องกันได้ แล้วทำไมข้อ 2 ถึงพูดแบบนี้ คือเราจะบอกว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ แม้แต่เรื่องถุงยางอนามัยและโรคติดต่อก็ตาม เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีมากมายหลายโรค และก็ไม่ได้จำกัดหนทางติดต่อแค่การร่วมเพศเท่านั้น บางทีแค่จูบก็เสี่ยงตืดเชื้อแล้ว เพราะฉะนั้น เผื่อมีบางคนชะล่าใจเราจึงอยากเตือนไว้ก่อนค่ะ ว่าถุงยางอนามัยแค่ป้องกันโรคติดต่อจากการร่วมเพศที่แบบสอดใส่ แต่ถ้าการจูบ หรือไปสัมผัสถูกบาดแผลตามร่างกาย แล้วคนๆ นั้นดันมีเชื้อ อันนี้ก็ตัวใครตัวมันค่ะ
3. ใช้ถุงยางอนามัย ไม่ถึงใจหรอก
จริงอยู่ค่ะที่เนื้อต่อเนื้อจะให้ความรู้สึกดีกว่าก็ตาม แต่การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง มันจะไม่ดีต่อใจกว่าเหรอคะ แถมในปัจจุบันถุงยางอนามัยถูกออกแบบให้บางเฉียบจนแทบไม่รู้สึกว่าสวมใส่อยู่ ดังนั้นเปลี่ยนความคิดแบบนี้ได้เลย ยิ่งบางยี่ห้อ บางรุ่นยังมีพื้นผิวต่างๆ ให้เลือกสรรมากมาย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทำ แบบนี้จะบอกว่าใช้ถุงยางอนามัยแล้วไม่ถึงใจได้ยังไงคะ
4. อยากปลอดภัยยิ่งกว่า ต้องใส่ถุงยางหลายๆ ชั้น
ขอบอกเลยค่ะว่า การใส่ถุงยางอนามัยเกินกว่า 1 ชั้นขึ้นไป มีโอกาสที่ชั้นของถุงยางจะเกิดการเสียดสีกันและทำให้เกิดการฉีกขาดได้ เ เนื่องจากบรรดาถุงยางหลายๆ ชั้นเหล่านี้แหละจะเกิดการเสียดสีกัน ทำให้ฉีกขาดได้ง่าย และถ้าขาดเมื่อไหร่ รับรองได้ว่าวงแตกแน่นอน
5. จะท่ายากแค่ไหน ถุงยางเอาอยู่!
อย่าได้คิดอะไรแบบนี้เลยค่ะ เพราะการกระทำที่รุนแรงอาจมีผลทำให้ถุงยางฉีกขาดหรือแตกได้ แล้วยิ่งในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจต้องทำใจว่าช่องทางนั้นมีความคับแคบและเสียดสีมากกว่าช่องทางปกติทั่วไป ทำให้เสี่ยงต่อการฉีกขาดของถุงยาง ดังนั้นกรุณาใช้อย่างระมัดระวังนะคะ
6. ถุงยางทาน้ำมัน ลื่นปรื๊ดๆ
การทาน้ำมันบริเวณถุงยางอนามัยถือเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ถุงยางคุณภาพลดลงอย่างตั้งใจ และมีโอกาสที่จะฉีกขาดหรือรั่วได้ ยิ่งสารบางชนิดจะทำให้ยางละลาย ทำให้ถุงยางที่เราใช้มีโอกาสแตกได้มากขึ้นกว่าเดิม ถ้าอยากได้แบบลื่นๆ ก็เอาเจลหล่อลื่นทาเฉพาะที่ๆ เขาให้ทาดีกว่านะคะ
7. เก็บไว้ในกระเป๋าตังค์สิ จะใช้ ก็จะได้หยิบใช้เลย
บอกเลยค่ะว่าการเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าตังค์ทำให้ถุงยางทั้งร้อนทั้งชื้น และยังเสี่ยงต่อการถูกทับจนหักงอฉีกขาดได้อีกต่างหาก ทางที่ดีที่สุด คือการเก็บไว้ในที่ๆ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ร้อนและมีความชื้นสูงค่ะ
8. ใช้ถุงยางซ้ำได้
ใครคิดแบบนี้ ขอให้เลิกคิด เลิกทำเถอะค่ะ เพราะถุงยางอนามัยออกแบบมาให้ใช้เพียงแค่ครั้งเดียวแล้วทิ้งเท่านั้น ระวังให้ดีนะคะ บางคนที่แบบเอาไปล้าง แล้วมาใช้ต่อเนี่ย พอมันมีประสิทธิภาพที่ลดลง มันก็เกิดการฉีกขาดได้ง่าย นั่นเท่ากับว่าเราเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นนะคะ
9. ถุงยางกลับด้าน แปลกใหม่ดีอ่ะ
คือแบบ อยากรู้ว่าอะไรทำให้เกิดความคิดแบบนี้คะ ความจริงแล้วการใส่ถุงยางก็เหมือนกับการใส่แว่นหรือคอนแทกเลนส์น่ะคค่ะ คือต้องใส่ให้ถูกต้อง ไม่ยังงั้นก็จะมองไม่ชัด ถ้าเกิดใส่ถุงยางกลับด้าน แล้วมันป้องกันอะไรไม่ได้ ก็ซวยไปนะคะ
10. รอเกือบเสร็จแล้วค่อยใส่ถุงก็ได้ กันอสุจิได้เหมือนกัน
ใส่ตั้งแต่เริ่มจนจบค่ะ ดีที่สุดค่ะ เพราะ ถุงยางอนามัยไม่ได้ไว้ใช้ป้องกันอสุจิเท่านั้น แต่ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วรู้ไหมคะว่าอสุจิอาจปนออกมากับน้ำหล่อลื่นของอวัยวะเพศชายได้ตลอดเวลา ถ้าคุณผู้ชายเกิดเป็นโรคขึ้นมา มันก็แพร่เชื้อไปหาอีกฝ่ายได้เลย แม้ไม่ต้องถึงจุดสุดยอดค่ะ มันอันตรายมากเลยนะคะ
11. ถุงยางป้องกันท้องได้ 100%
ไม่มีวิธีไหนที่สามารถคุมกำเนิดได้ 100% เพียงแต่ถุงยางอนามัยนับเป็นวิธีที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ดังนั้น แม้ว่าถุงยางจะไม่ได้ปลอดภัย 100% แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด และทางการแพทย์แนะนำค่ะ
จาก 11 ข้อที่กล่าวมา ถ้าใครมีความคิด หรือเคยทำแบบนี้ ก็ขอให้เลิกเถอะค่ะ มันเป็นค่านิยมที่โคตรผิด แล้วถ้าใครที่อาย ไม่กล้าเดินไปซื้อถุงยาง ลองเดินไปซื้อที่ร้านให้ไกลๆ บ้านสักหน่อย เพื่อลดความเสี่ยงในการเจอคนรู้จัก หรือไม่ก็คว้าขนมอื่นมาเยอะๆ แล้วค่อยเนียนๆ คว้ากล่องถุงยางอนามัยใส่เพิ่มลงไปก็ได้ค่ะ จะได้ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ก่อนซื้อ สังเกตไซส์และวันหมดอายุด้วยนะคะ จะได้ไม่เสียเงินฟรี ให้ท่องเอาไว้เลยนะคะว่าความอายในตอนนี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากแฟนเราท้องแบบไม่พร้อมขึ้นมา หรือไปมีอะไรกับใคร แล้วเขาพลาดท้อง กลายเป็นพ่อคนไม่รู้เรื่อง
คุณผู้ชายทุกคน ถ้าอยากจะมีเซ็กส์ แต่ยังไม่อยากมีลูก ก็ต้องทำตัวแมนๆ นะคะ ไปซื้อเลยค่ะ ถุงยางอนามัย ทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่คุณ...ด้วยค่ะ