ชี้ช่องรวย เผยเคล็ดลับการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำ เลี้ยงกินได้ เลี้ยงขายได้ราคาดีสุดๆ
ประเทศไทยนี้โบราณว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ มาจนถึงในยุคปัจจุบันก็ยังนับว่าหากินได้ไม่ยากลำบากนัก เศรษฐีหลายๆคน จนเมื่อครั้งยังหนุ่ม แต่ผ่านไปไม่กี่ปี กลายเป็นเสี่ยใหญ่ไปแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะมาชี้ช่องรวยอีกทางหนึ่งที่กำลังมาแรง ไม่ใช่การเลี้ยงกุ้งสวยงาม แต่เป็นการเลี้ยงกุ้งสำหรับทำอาหารนี่แหละ ใครจะรู้ว่ากุ้งแม่น้ำเดี๋ยวนี้ราคาดีมากๆ มาดูเคล็ดลับการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำกันได้เลย
โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเป็นวิทยาทาน โดย อาจารย์ต่อ ปลาหมอยักษ์ ได้นำเทคนิคดีๆ ที่ไม่มีใครบอกกันฟรีๆ มาโพสต์ให้ศึกษากันแบบละเอียด แบบไม่ต้องเสียเงินซักแดง สำหรับวิธีการ เลี้ยงกุ้งแม่น้ำ ในบ่อซีเมนต์ ด้วยราคาที่แพง รสชาติที่อร่อย และหายากมากๆในปัจจุบัน จึงทำให้ราคากุ้งแม่น้ำขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ จากราคาโลละ 300-500 บาท แต่ทุกวันนี้ราคากุ้งแม่น้ำโลละ 800-1,500 บาท แค่ได้ยินราคาก็อยากรู้ว่ามันต้องทำไงแล้วสิครับ…
ไปดูกันเลี้ยงยังไง..?? ใช้อะไรบ้าง..??
#ป่ะ..!! #เริ่มกัน อ่านเยอะหน่อยนะครับ…!!
#ในหัวข้อนี้ผมใช้ลูกกุ้งขนาด 5-7 ซม. จำนวน 200 ตัว
1. บ่อปูนขนาด 3 x 3 เมตร ลึก 60 ซม.
2. เครื่องทำอ๊อกซิเจนแบบ 2 รู (ราคาประมาณ 380-400 บาท)
3. สายยางอากาศ
– ยาว 6 เมตร (แบ่งเป็นเส้นละ 1.50 เมตร 4 เส้น)
– ยาว 2 เมตร (แบ่งเป็นเส้นละ 1 เมตร 2 เส้น)
4. ตัวแยก 3 ทาง 2 อัน
5. หัวทราย 4 หัว
*** นำสายยางอากาศเส้นละ 1 เมตร ต่อเข้าเครื่องทำอ๊อกซิเจนรูละเส้น แล้วใส่ตัวแยก 3 ทางข้างละเส้น หลังจากนั้นใส่สายยางอากาศเส้นละ 1.50 เมตรที่บริเวณปลาตัวแยกแต่ละปลาย สุดท้ายปลายสายยางก็ใส่หัวทราย ปลายละหัว ก็จะได้ชุดจ่ายอ๊อกซิเจนเรียบร้อย
6. อาหารอนุบาลกุ้ง
– อาหารเม็ด หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป บอกเขาว่าอาหารสำหรับกุ้งลงเดิน
– #อันนี้จะใช้ไม่ใช้ก็ได้ครับ อาหารสด ไรแดง อันนี้ยากหน่อยหาได้ก็ดี หาไม่ได้ก็ซื้อตามร้านขายปลาสวยงาม
7. ผงแร่ธาตุ สำหรับช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็ว มีขายตามร้านขายอาหารสัตว์
8. ท่อพีวีซี สำหรับให้กุ้งหลบซ่อนหรืออาศัย
9. แผ่นกระเบื้องหลังคา สำหรับให้กุ้งหลบอาศัย
10. ลูกกุ้งขนาด 5-7 ซม. ถามว่าทำไมไม่เอาตัวเล็กกว่านี้..?? ตอบครับ..?? เอาแบบอัตราการรอดที่สูงดีกว่า ดูแลเห็นตัวเป็นๆชัดเจนกว่าครับ เอาแบบตัวละ 2-3 มม. มาแทบมองไม่เห็นเลยทีเดียวเลี้ยงไปก็ท้อสิครับ
11. เกลือแกง ถุงละ 10 บาท 2 ถุง ไม่ต้องเน้นยี่ห้อมากนะครับเกลือเค็มทุกถุงครับซื้อถูกๆตามท้องตลาดก็ได้ครับ เอาเพื่อมาฆ่าเชื้อในน้ำเฉยๆครับ
12. วิตามินสำหรับกุ้ง หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ เซเว่น ไม่มีนะครับอย่าเข้าไป
#เริ่มเลี้ยง
1. เติมน้ำลงบ่อปูนให้ได้ขนาดความลึก 50 ซม. หว่านเกลือให้ทั่วบ่อจนหมด 2 ถุง
2. เปิดเครื่องอ๊อกซิเจนเพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ ให้หัวทรายอยู่ตามมุมบ่อทั้งสี่มุม
3. ทิ้งน้ำไว้ 36-48 ชม. ก่อนปล่อยกุ้ง (ใช้ได้ทั้งน้ำบาดาล น้ำปะปา)
4. เรียงท่อ พีวีซี หรือกระเบื้องหลังคา ลงบ่อไว้
5. เตรียมน้ำทิ้งไว้ครบ 48 ชม. ก็ปล่อยลูกกุ้งลงบ่อสิครับรออะไร ค่อยๆวางเขาลงอย่างประณีตบรรจง
6. อย่าพึ่งให้อาหารกุ้งนะครับ ให้กุ้งอดอาหาร 1 วัน วันถัดไปค่อยให้อาหาร
7. วันถัดมาเริ่มให้อาหารกุ้ง ในจำนวนกุ้งที่ลงเลี้ยงในบ่อนี้ให้วันละ 4 ช้อนพอหว่านรอบๆบ่อ พยายามให้อาหารกุ้งช่วงเย็นๆหรือใกล้มืดจะดีมากๆครับ
8. ปล่อยกุ้งลงน้ำครบ 7 วัน ให้หว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งลงบ่อ จำนวน 4 ช้อนโต้ะ ทำแบบนี้ทุก 15 วัน
9. สังเกตุดีดีในบ่อหลังจากให้แร่ธาตุสำหรับกุ้งจะเห็นกุ้งขึ้นมาบอกคราบไว้บนแผ่นกระเบื้องหลังคา นี่ล่ะข่าวดีเพราะกุ้งกำลังจะโต
10. ให้อาหารกุ้งไปเรื่อยๆ จนครบ 45 วัน ให้เปลี่ยนขนาดของอาหารกุ้งให้เป็นกุ้งขนาดกลาง
11. ให้อาหารกุ้งขนาดกลางครบ 45 วัน ก็ให้เปลี่ยนขนาดเป็นอาหารกุ้งขนาดใหญ่
12. ให้อาหารกุ้งขนาดใหญ่ไปอีก 60 วัน
13. เลี้ยงต่อไปจนครบ 6-7 เดือน ก็น่าจะเริ่มเห็นผลงานแล้วล่ะครับ จะเล็กจะใหญ่อยู่ที่บุญพาวาสนาเกิด ฝีมือของเราล่ะครับ..
*** ช่วงที่ให้อาหารกุ้งถ้ามีวิตามินอาหารเสริมดีดีก็ใส่คลุกกับอาหารกุ้งได้นะครับ กุ้งจะแข็งแรงโตเร็วดี
*** วิธีการเปลี่ยนน้ำ สำหรับท่านที่เข้าใจในระบบน้ำวนก็ดีไป แต่ถ้าสำหรับคนที่ไม่เข้าใจก็ต้องเปลี่ยนน้ำเอาล่ะครับ อาทิตย์ละครั้งหรือเวลาที่เห็นว่าน้ำเริ่มขุ่นก็รีบเปลี่ยนทันที
*** ควรหว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งทุก 7 วันหรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำในบ่อ
ย้ำเลยนะครับ น้ำสะอาด อากาศพอ อาหารอิ่ม กุ้งรอดและโตแน่นอน
อย่าพยายามไปกวนไปส่องดูผลงานบ่อยนะครับ กุ้งชอบความเป็นส่วนตัวมาก เดี๋ยวเขาจะไม่กินอาหาร จะทำให้โตช้านะครับ
มานั่งสมมุติ
มีกุ้งไว้กินในบ้านช่วงเทศกาลละครั้ง ครั้งละ 20 ตัว ผมว่าอิ่มทั้งครอบครัวนะครับ สำหรับอาหารราคาที่ถือว่าแพงสำหรับงานเลี้ยง อละกุ้งยังมีประโยชน์มากมาย คงจะเพิ่มบรรยากาศความสุขในครอบครัวได้ดีทีเดียว
หรือถ้าขาย ตีตัวละ 50 บาท ก็ถือว่าตีไว้ต่ำนะครับราคานี้ อาจจะเป็นรายได้เสริมอีกช่องทางสำหรับครอบครัว ผมนำเสนอข้อมูลจากการเลี้ยงจริง ผมอาจจะได้ผลแต่คนอื่นอาจจะไม่ได้ผล อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติและความเข้าใจล่ะครับ ขอความกรุณาปรานี สำหรับผู้เก่ง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ชำนาญงาน อย่เข้ามาโชว์นะครับ ไปตั้งโพสต์แบ่งปันเองให้ความรู้เอง อย่าเข้ามาเพื่ออวดตัวเพราะผมเองก็ทำได้แค่นี้ ผมเองอาจจะหมดความมั่นใจในการแบ่งปันงานต่อไป ผมมาแบ่งปันไม่ใช่ว่าอวดรู้ แต่มาแนะนในสิ่งที่ผมแค่ทำได้เล็กๆน้อยๆเลยอยากเอามาให้ท่านอื่นได้ลองเอาไปทำหรือต่อยอดต่อไป