หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เราเคยถามตัวเองไหม ?

โพสท์โดย โลกนี้คือละคร

เคยถามตัวเองไหมว่า ..

".. ทำไมฉันจึงรักเธอ..?
เมื่อเริ่มต้นรู้สึกว่า .. รักใครสักคนหนึ่ง
บางครั้ง .. มันอาจเป็นรักแรกพบ
บางครั้ง .. มันอาจจะเป็นความรักที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็รักเขาเข้าแล้ว..!!

ในยามที่เรามีความสุข
เราอาจไม่สนใจอยากหาคำตอบมากมายว่า .. ".. ทำไมฉันจึงรักเธอ..?
เพราะเมื่อใด..!! ที่เรามีความสุข โดยมากเรารู้สึกพอใจ
#ความรู้สึกพอใจ ทำให้ไม่ได้คิดค้นอยากหาข้อเสีย
หรือคิดคำถามให้ต้องหาคำตอบ

แต่เมื่อเวลาที่เราทุกข์ ที่เราเสียใจ
บางคนก็อาจมีคำถามขึ้นมาว่า ..
ทำไมฉันจึงรักเธอหรือฉันรักเธอไปได้ยังไง (เนี่ย..!!)
เพราะเธอนั้น หน้าตาไม่ได้สวยเหมือนแหม่มแคทธียา หรือ หน้าตาก็ไม่หล่อเหมือนเคนธีรเดช
ไม่ได้รวยเหมือนบิลเกตส์ แถมยังช่างใจร้ายใจดำ ทำกันได้ลง
และอื่นๆ ฯลฯ.... (มากมายแล้วแต่ว่า .. อะไรจะผุดขึ้นมาในหัวเวลาโกรธ)
แต่ก็ยังไม่พบคำตอบอยู่ดี

ในทางพุทธศาสนา
เราเชื่อว่า .. อะไรใดๆ ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ
การที่เราจะได้เป็นคู่รัก และครองคู่กับใครนั้นย่อมมีเหตุ

เหตุที่ทำให้เรามีคู่ก็มาจากกรรมเก่าที่เคยร่วมทำกันมา
และจะคบหายืนยาวอยู่ได้ด้วยร้ายด้วยดีต่อๆ ไปนั้น
มาจากกรรมที่ทำเอาไว้ในปัจจุบัน
กล่าวกันง่ายๆ คือ จะคบแล้วมีความสุข หรือทุกข์
เป็นผลของกรรมซึ่งสะท้อนสิ่งที่ผู้รับผลนั้นกระทำมาก่อน
ทั้งอดีตชาติ และชาติปัจจุบันทั้งสิ้น

ดังนั้น... หากมีความทุกข์จากรักขึ้นมา
ถ้าจะถามว่า ..ทำไมเราต้องมาทุกข์ใจกับคนๆ นี้
ก็ต้องตอบว่า ..มันเป็นผลมาจากกรรมที่คนทั้งสองได้ทำร่วมกัน และที่เราทำมา กรรมเก่าพาเราลงมาติดกับ
กรรมมันเริ่มส่งผลตั้งแต่วันแรกที่ใจคุณเข้าไปผูกกับเขา
กรรมส่งผลที่ใจให้มารัก ให้มาหลง บังตาไว้
ไม่ให้เห็นความสมเหตุสมผลทั้งหลาย หรือรู้ทั้งรู้ก็ยังรัก
ถูกดูดเข้าไปใช้กรรม

ที่ว่า .. #ความรักทำให้คนตาบอด
ต้องกล่าวให้เป็นธรรมขึ้นว่า .. ‘กรรมบังตา’
คือ #กรรมบังคับใจให้ไปรู้สึกติดใจ #ชอบ #ใช่ #รัก
ผูกพันกับคนที่จะนำเราไปรับผลที่เราเคยก่อไว้ทั้งดี และร้าย นั่นเอง...

เริ่มตั้งแต่ต้นที่จะรู้สึกดีกับใคร ก็กรรมกำหนด
ที่จะไปได้เจอกันในเวลาที่แสนจะพอดีอย่างไรก็กรรมกำหนด
กรรมจัดฉากไว้ให้ต้องไปเจอ และรู้สึกไปอย่างนั้น
จนกระทั่งจิตส่งออก ทะยานออกไปเกาะเกี่ยวยึดไว้
หลงไปยึดเอาว่า .. ของเรา คนของเรา
ไปแปะป้ายว่า ..นี่เป็นคนที่เราต้องการ นี่เป็นแฟนเรา
ต้องดีกับเรา ห้ามไปดีกับคนอื่น พอเชื่อใจ คลายความคลางแคลง
มั่นใจว่า .. ใช่แน่ๆ มอบทุกอย่างให้หมด
อาจจะแต่งหรือไม่แต่งก็สุดแท้แต่...

ก็จะถึงเวลาที่ของจริงส่งผล แสดงตัวจริงของจริงให้เห็น
ใจก็ “จี๊ด” ขึ้นมาจนกระทั่งต้องไปถาม อาจจะเริ่มด้วยการถามเพื่อน หรือไม่ก็ไปถามเจ้าคู่กรณีว่า ..เดิมไม่ใช่อย่างนี้ ทำไมเปลี่ยนไป
ที่รับปากไว้ ที่สัญญาไว้ ทำไมไม่ทำ ปรับโทษ อาละวาด ตีโพยตีพาย

" กรรมทั้งนั้น "

ซึ่งไม่ว่า .. จะเก่งแค่ไหน..? ถ้ายังมีความเห็นยึดมั่นถือมั่นว่า ..
ความรู้สึก .. เป็นเรา
ความคิดนี้ .. เป็นของเรา
ก็จะเชื่อความรู้สึก และความคิด โดยจะหลงคิดไปเองแต่แรกว่า ..
เขาคนนั้นต้องดีอย่างนั้นอย่างนี้
คือ มีใจพร้อมจะเชื่อไปก่อนอยู่แล้ว
พอเขาพูดโน่นพูดนี่นิดหน่อย
ก็ทึกทักเอาเองว่า .. ต้องใช่อย่างนั้น
(อย่างที่ใจขอมา) แน่นอน..!!
เราจึงพร้อมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ เป็นคู่ มีความสัมพันธ์
หลงรักคนที่ในอนาคตต่อไปจะรานน้ำใจเรา ซึ่งเป็นผลจากการที่เราเชื่อ
ความรู้สึกและความคิด (ไปเอง) “ของเรา” ที่กรรมส่งมา
จนในที่สุดมาพบความจริงว่า ..เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
เป็นเราที่เข้าใจผิดไปเชื่อใจที่สั่งมาเอง แต่กว่าจะถึงตอนนั้น
แทนที่จะรู้ตัว เห็นตามจริงว่า ..เป็นเราที่คิดไปเอง
ก็กลายเป็นโทษกันระหว่างสองฝ่ายไปแทนว่า ..
ไม่รักษาสัจจะวาจาที่เคยมีให้กันสมัยความหลงยังครอบงำอยู่
และสร้างกรรมใหม่ต่อกันไปเสียอีก โดยไม่ได้ใช้หนี้กรรมเก่าเลย

อธิบายเป็นกงกรรมกงเกวียน หรือกฎแห่งกรรม ก็คือ
กรรมเก่าของเรา กรรมใหม่ของเขา มันเป็นวงจร
เพราะกรรมที่เราเคยทำไว้ส่งผลให้เรามาเจอกับคนที่มีอนุสัย (นิสัย)
แบบนี้เพื่อส่งผลทางใจให้เขาทำกรรมกับเรา
(ตามที่เราเคยทำกับคนอื่นให้ทุกข์แบบนั้น)
ซึ่งคนที่ก่อกรรมกับเราก็จะต้องไปรับผลที่ทำกรรม
โดยไปเจอกับคนที่ก่อกรรม และทอดต่อๆ สืบกรรมกันไป
เป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีวันจบ วนไปวนมาอย่างนี้
และซับซ้อนยิ่งๆ ขึ้น การตัดวงจรก็ควรตัดที่ส่วนของเราให้ได้ก่อน
เป็นการชิงออกจากเกมงูกินหาง โดยกรรมจะหมดช้าจะหมดเร็วนั้น
ขึ้นอยู่กับที่แต่ละคนสะสมไว้

กฎแห่งกรรมนั้นไม่เคยไม่เที่ยงตรง
สร้างเหตุไว้อย่างไรก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้นแน่นอน
ที่จะไม่ยอมรับเพราะบอกว่า ..เราดีกับเขา
แต่เขาไม่ดีกับเรานั้นจึงเป็นการเข้าใจผิดของเราเองที่ว่า ..
เราทำกรรมกับคนนี้อย่างไร คนนี้จะต้องทำกรรมแบบเดียวกันกับเราคืนมาเป๊ะๆ เดี๋ยวนี้ตอนนี้ (ลองคิดง่ายๆ ว่า .. เราดีกับทุกๆ คนที่เข้ามาดีกับเรา ตอบแทนเขาได้เท่าที่เขาทำให้เราหรือเปล่า..?)
เช่น เราคิดว่าเราดีกับแฟนคนนี้ แฟนคนนี้ก็ต้องดีกับเรา
จึงจะเรียกได้ว่า ทำดีได้ดี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
กรรมจะเลือกจัดสรรให้เราได้รับผลทั้งร้ายและดีที่เราเคยทำไว้แน่นอน
แต่ไม่จำเป็นต้องได้รับตอบจากคนๆ เดิมที่เราเคยทำเสมอไป...

เช่น กรรมที่เราเคยทำไว้กับพ่อแม่
อาจจะเคยพูดไม่ดีกับท่าน ทำให้ท่านเสียใจ
เราก็อาจได้รับผลนี้จากแฟน จากเพื่อนที่ทำงาน และคนอื่นๆ ได้
เพราะเราไม่เคยแคร์พ่อแม่ เราจึงพูดไม่ดีกับท่าน
และเพราะว่า .. เราไม่แคร์ท่าน
ดังนั้น...
ถ้าท่านพูดไม่ดีกับเรา
เราก็อาจจะไม่รู้สึกเจ็บช้ำแบบเดียวกัน กรรมจึงจะจัดสรรให้เราพบ
เราเจอ เรายึด เรารักคนๆ ใหม่ ที่จะสามารถดึงดูดให้เราต้องทุกข์
แบบเดียวกับที่พ่อแม่ทุกข์มากเพราะรัก เพราะยึดเรามาก

ดังนั้น... เวลาจะกล่าวอ้างถึงกฎแห่งกรรมนี้
ก็ต้องใช้กับทั้งสองข้าง อย่าใช้ข้างเดียว
อย่างที่มักจะได้ยินใครหลายคนพูดกันเป็นประจำ
เวลาเผชิญกับคนไม่ดีที่มาทำสิ่งที่เขาไม่ชอบใจว่า
เดี๋ยวมันก็เห็นว่า .. กรรมมีจริง หรือ ทำกับเราอย่างนี้ เดี๋ยวกรรมก็สนองเข้าให้บ้าง
นี่คือ #การเข้าใจข้างเดียว เพราะถ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้
และมองอย่างเป็นกลางจะรู้ว่า ..
กฎแห่งกรรมได้ให้ผลกับคนที่กล่าวเช่นนั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เนื้อหาโดย: โลกนี้คือละคร
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
โลกนี้คือละคร's profile


โพสท์โดย: โลกนี้คือละคร
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติแฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วไฟในอย่าน่าออก ไฟนอกอย่าน่าเข้าสื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซากมารู้จัก DP-20 โดรนสอดแนมสัญชาติไทยวัดหลวงพ่อโอภาสี เมื่อการจุดไฟทำให้ปัญหาและอุปสรรคหายไปในพริบตา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไฟในอย่าน่าออก ไฟนอกอย่าน่าเข้าอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีให้คะแนนไทยในการจัดซีเกมส์ 100 เต็ม 10 พร้อมส่งกำลังใจถึงทีมชาติช้างศึกหลังพลาดเหรียญทองสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า หากไม่ลงทะเบียน ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ เริ่ม 20 ธ.ค.- 5 ม.ค. 69"ไทย" ทักษะภาษาอังกฤษต่ำมาก รั้งรองโหล่สูงกว่าแค่"กัมพูชา"แก๊งมุสลิมเข้ายึดครองเรือนจำในอังกฤษสื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซาก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
มารู้จักหน่วย BHQ หน่วยองครักษ์ พิทักษ์ฮุนเซนรู้หรือไม่ ? ที่มาและประวัติของ "สุกี้ยากี้" เป็นมาอย่างไร ?ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนทึ่งทั่วไทย : "น้ำตกแม่กาษา" น้ำตกลำธารใส Unseen แม่สอด จังหวัดตาก
ตั้งกระทู้ใหม่