'วิชัย ปั้นงาม'เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่นอนคุก วืดประกัน DSI ขยายผลร่วมกับ ปปง.ยัดทรัพย์800ล้าน
ศาลอาญาสั่งฝากขังและไม่ใหัประกันตัวนายวิชัย ปั้นงาม เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ เครือข่าย V8 ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่และปล่อยสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายร้อยละ 15 ขณะที่ดีเอสไอเดินหน้าสืบสวนและสอบสวนขยายผลร่วมกับ ปปง.ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่า 800 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังดีเอสไอ ยื่นฝากขังครั้งแรก นายวิชัย ปั้นงาม อายุ 47 ปี เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ เครือข่าย วี 8 ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่และปล่อยสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายร้อยละ 15 แล้ว ทางดีเอสไอได้ขออำนาจศาลอาญาฝากขังไว้และคัดค้านการประกันตัว
ศาลพิเคราะห์สภาพแห่งข้อหา และพฤติการณ์การกระทำความผิดตามคำร้องฝากขัง ประกอบกับผู้ต้องหาเข้ามอบตัวภายหลังมีหมายจับเป็นเวลาปีเศษ ในชั้นนี้เห็นควรให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปพลางก่อน จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว แม้วาญาติของนายวิชัย ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทยฯ สาขาศาลอาญาจำนวน 10 ล้านบาทขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้
เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงคุมตัว นายวิชัยไปขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในชั้นฝากขัง
สำหรับคดีดังกล่าวคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 59 เห็นชอบให้ขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานีและมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา โดยใช้ระบบแม่ข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ทั้งนี้ ดีเอสไอ ได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีเรื่อยมาจนปรากฏข้อเท็จจริงว่า เป็นกลุ่มธุรกิจชื่อ V8 ซึ่งเป็นองค์กรปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตรา ที่กฎหมายกำหนดรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสมาชิกองค์กรกว่า 2,000 คน และมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา มีพนักงานกว่า 2,000 คน และมีผู้กู้กว่า 100,000 รายทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท มีนายวิชัย ปั้นงาม เป็นหัวหน้า ซึ่งนายวิชัย ได้หลบหนีไปต่างประเทศตั้งแต่ปลายปี 2558 เรื่อยมาจนถึงขณะนี้ โดยได้ทำการจับกุมสมาชิกองค์กรในระดับตัวการสำคัญได้แล้วทั้งสิ้น 47 ราย (บัญชีคุมงาน 46 ราย, หัวหน้าฝ่ายไอที 1 ราย) ได้ร่วมกับ ปปง. ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินของนายวิชัย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแล้วจำนวนหลายรายการ อาทิเช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินสด เงินฝาก เครื่องประดับ พระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท
บ้านพัก