NAR RICS FIABCI ใครเจ๋งกว่า
ในโลกนี้ องค์กรวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติมีอยู่สามแห่งใหญ่ๆ ได้แก่ NAR RICS FIABCI ท่านผู้เกี่ยวข้องกับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยควรเข้าร่วมกับหน่วยงานไหนดี
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับองค์กรระดับสากลเหล่านี้กันในเบื้องต้น
NAR ย่อมาจาก National Association of Realtors หรือสมาคมนายหน้าแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครชิคาโก ในอเมริกามีสมาคมนายหน้าหลายแห่ง แต่สมาคม NAR นี้เป็นสมาคมที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านคน สมาคมนี้มีอิทธิพลของบริษัทในทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมากเพราะเป็นหน่วยงานติดหนึ่งใน 10 ของหน่วยงานที่เงินบริจาคเงินทางการเมืองมากที่สุด นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำไมค่านายหน้าในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงสูงถึง 6-8% ในขณะที่ประเทศไทยเก็บเพียง 3% และสิงคโปร์เก็บเพียง 1% เท่านั้น
RICS หรือ Royal Institution of Chartered Surveyors เป็นสมาคมที่เกี่ยวข้องกับนักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหราชอาณาจักร ในอังกฤษก็มีสมาคมหลายแห่งเช่นกันแต่สมาคม RICS นี้เป็นสมาคมที่ใหญ่ที่สุด คำว่า Chartered Surveyors ไม่ใช่เป็นพวกสถาปนิก วิศวกร นักประมาณราคาค่าก่อสร้าง หรือช่างสำรวจเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักบริหารทรัพย์สินและนายหน้าอีกด้วย คำว่า Chartered Surveyors จึงเป็นคำที่ชวนงงอยู่พอสมควร
FIABCI เป็นคำย่อในภาษาฝรั่งเศส แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า International Real Estate Federation หรือ สหพันธ์อสังหาริมทรัพย์นานาชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส สมาคมนี้มีสมาชิกซึ่งเป็นสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศต่างๆเกือบ 60 ประเทศ รวมสมาชิกของสมาคมต่างๆ ก็มีจำนวนนับล้านคนเช่นกัน NAR และ RICS ก็ตามเป็นสมาชิกของ FIABCI เช่นกัน
ผมไปเยี่ยม NAR มี่ชิคาโกตั้งแต่ปี 2542 เค้าดีใจมากเนื่องจากไม่สามารถหาผู้ติดต่อในประเทศไทยได้ ผมจัดงานให้สมาคมอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ในประเทศไทยได้พบกับ NAR ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล สยามสแควร์ ในปีดังกล่าว ผมยังช่วย NAR จัดอบรม CIPS ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2547 และจัดอบรม CRS เป็นครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2553 อีกด้วย ผู้แทน NAR เคยจะให้ผมจัดอีกแต่ผมก็ไม่อยากไปข้ามหน้าข้ามตาสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่
ผมเป็นสมาชิกของ RICS มาตั้งแต่ปี 2545 โดยสามารถใช้คำย่อตามหลังว่า MRICS ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินที่ RICS รับรอง นอกจากนี้ยังเคยบรรยายในงานสัมมนาของ RICS อีกด้วย ผมยังเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ International Association of Assessing Officers (IAAO) การเป็นสมาชิกของสมาคมเหล่านี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละประมาณครึ่งหมื่นบาท ผมก็เสียมานับสิบปีแล้ว ส่วน FIABCI ต้องเสียค่าสมาชิกแพงกว่าเพื่อนคือประมาณ 13,000 บาท
ผมเคยร่วมก่อตั้ง FIABCI ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2545 แต่มอบหมายให้ท่านอื่นดำเนินกิจกรรมไป จนเมื่อไม่มีการดำเนินการต่อ ผมจึงก่อตั้งขึ้นใหม่ในปี 2560 และรับหน้าเสื่อเป็นประธานสมาคม FIABCI Thai ไว้ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามในอนาคตผมก็คงผ่องถ่ายตำแหน่งให้ท่านอื่นมาเป็นประธานได้เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดดังที่เห็นอยู่ในหลายสมาคม
เป็นสมาชิกสมาคมไหนคุ้มค่ากว่า
1. ถ้ามีโอกาสก็อาจจะทำเหมือนผมคือเป็นสมาชิกหลายสมาคมเพื่อการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ
2. ถ้าเป็นนายหน้าผมขอแนะนำให้เป็นสมาชิกสมาคมนายหน้าในระดับภูมิภาคก็เพียงพอ เช่น ในอาเซียนมี ASEAN Real Estate Network Alliance (ARENA) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของสมาคมนายหน้าในภูมิภาคนี้ ผมเคยเป็นประธานและประธานจัดงานในปี 2559 แทนสมาคมนายหน้าฯ ด้วย
3. เฉพาะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจึงควรเป็นสมาชิก RICS มากที่สุด แต่ถ้านักวิชาชีพอื่นอาจไม่จำเป็นเพราะค่าใช้จ่ายของการเป็นสมาชิกค่อนข้างสูง
4. แต่สำหรับทุกวิชาชีพควรเป็นสมาชิก FIABCI เพราะจะได้มีโอกาสพบผู้เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทจากทั่วโลก
สมาคม NAR FIABCI มีหลักสูตรต่างๆ แต่ที่ผ่านมาใครจะใช้คำต่อท้ายว่าได้ผ่านการอบรมหลักสูตรใดของ NAR จะต้องจ่ายค่าบำรุงเพิ่มทุกปีนอกเหนือจากค่าสมาชิก NAR รายปี (เห็นว่าต่อไปจะยกเลิก) แต่ FIABCI ไม่ต้องเสียเพิ่มเติม ส่วน RICS มีเพียงการรับรองสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่ได้จัดอบรมต่างๆ เอง
ผมอยากย้ำให้เห็นว่าการเป็นสมาชิก FIABCI คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งแม้ค่าสมาชิกรายปีอาจจะสูงกว่าแต่ได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เช่น สมาชิกสามารถเข้าร่วมงาน MIPIM ซึ่งเป็นนิทรรศการอสังหาริมทรัพย์นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นที่เมืองคานส์ทุกปี รวมทั้งงานอื่นๆ ซึ่งมีแทบตลอดทั้งปี ถ้าเข้างานแบบนี้ก็เป็นเงินนับพันยูโร สูงกว่าค่าสมาชิกหลายเท่าตัว แถมได้ยังมีโอกาสดูนวัตกรรมและพบปะกับนักพัฒนาที่ดิน นักการเงิน นักลงทุนรายใหญ่ในระดับโลกอีกด้วย
ผมไม่ได้เชียร์ FIABCI เป็นพิเศษนะครับ ผมยังเป็นสมาชิก RICS และยังมีหน่วยงานของ NAR เสนอให้ผมจัดอบรมอยู่ถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าพูดถึงบรรยากาศประชาธิปไตยแล้ว สมาชิก FIABCI สามารถร่วมเป็นกรรมการหรือกำกับสมาคมได้ มีการเลือกตั้งประธานของแต่ละสมาคมของแต่ละประเทศมาเป็นประธาน FIABCI อันที่จริงถ้า NAR อยากเป็นองค์กรระดับนานาชาติก็ควรเปลี่ยนชื่อเป็น International Association of Realtors ส่วน RICS ก็ควรเปลี่ยนชื่อให้ดูพ้นจากความเป็นอังกฤษเช่นกัน
ลองพิจารณาดูครับ
ที่มา: https://goo.gl/9afWYJ
ที่มา: https://goo.gl/SdZ7CL
ที่มา: https://goo.gl/GqSVii
ที่มา: https://goo.gl/m4dvQN