กัปตันสาวไทยระทึก! ผดส.ชาวเกาหลีช็อคกลางเวหา ท่ามกลางพายุหิมะและฝน ต้องรีบลงจอดฉุกเฉินที่ไต้หวันเพื่อช่วยชีวิต
ฮี่โร่กัปตันหญิงไทย ... เมื่อวันที่ 9 ม.ค 61 กัปตันสาวไทยสายการไทยบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ สุดระทึก!! ระหว่างบินจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ สู่สนามบินดอนเมืองที่ประเทศไทย แต่ในระหว่างทางผู้โดยสารชาวเกาหลีเกิดช็อคกระทันหันกลางเวหา กัปตันสาวไทยและลูกเรือต่างเร่งช่วยกันระทึก โดยสามารถหาแพทย์ได้ 3คน เป็นคนเกาหลีใต้สองคน และชาวไทยหนึ่งคนช่วยกันปฐมพยาบาล แต่ว่าผู้ป่วยกลับมีอาการไม่ดีขึ้นเนื่องจากไม่มีเครื่องมือแพทย์
จากนั้นสถานการณ์เริ่มเเย่ลงเมื่อผู้ป่วยไม่ตอบสนองและตัวเริ่มเขียว กัปตันจึงตัดสินใจจะลงจอดฉุกเฉิที่สนามบินเซียงไฮ้ แต่ก็ไม่สามารถนำเครื่องลงได้ ซ้ำร้ายพายุหิมะและฝนก็กระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา เกิดความกดดันให้กับนักบินเป็นอย่างมาก ไหนจะต้องรีบนำส่งคนป่วยให้ถึงมือแพทย์ที่รพ. ไหนจะต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่มีวิสัยทััศน์เลวร้าย ทุกๆวินาทีต้องเร่งรีบเพราะมันคือนาทีชีวิตของผู้โดยสาร เพราะชีวิตของผู้โดยสารสำคัญ
จึงหาที่ใกล้ที่สุด และตัดสินใจขอลงจอดฉุกเฉินที่ไต้หวัน จนผู้ป่วยถือมือแพทย์และนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือชีวิตได้ทันเวลา โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยจากนักบินสาวสุดสวย ที่ชื่อ Suwapich Angelica Wongwiriyawanich ได้โพสท์เรื่องราวสุดระทึกนี้ว่า..
De-icing + Diverting
เมื่อคืนนี้ตอนกำลังเดินไปที่ทางออกขึ้นเครื่อง ก็เห็นว่าด้านนอก หิมะ
❄️ กำลังตกลงมาพร้อมกับลมกรรโชก ใครได้เห็นก็อดที่จะถ่ายคลิปไว้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เห็นแบบนี้กันบ่อยๆ ตัวเราเองก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไว้เช่นกัน
ที่เห็นแบบนี้ ไม่ได้ดีใจหรอกนะ ไม่รู้ว่าเครื่องบินที่เพิ่งบินมาส่ง สภาพที่เรารับกลับมันจะเป็นยังไง แล้วก็เป็นไปตามคาด มีหิมะเกาะอยู่ทั่วลำตัว จนลูกเรือบางคนถามว่า “ทำไมเครื่องเราดูสกปรกจัง?”
ที่เห็นขาวๆน่ะ ไม่ใช่ฝุ่นจ้า แต่มันคือหิมะ และมันก็กำลังก่อตัวเป็นน้ำแข็งเกาะปีก
😓
เมื่อเป็นเช่นนี้ กัปตันวินดี้เลยได้ทำขั้นตอนละลายน้ำแข็ง (de-icing) เป็นครั้งแรก
จริงๆ ขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก ตามขั้นตอนของสนามบินอินชอน เราต้องติดเครื่องแล้วขับไปจอดยังหลุมจอดละลายน้ำแข็ง de-icing bay ซึ่งทางหอบังคับการบินจะเป็นคนบอกเราเองว่าต้องไปหลุมไหน (เพราะมันมีหลายหลุม)
ไปถึงหลุมจอด เราก็ดับเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่จะเอาน้ำยามาพ่นที่บริเวณปีก และแพนหางด้านหลัง เพราะสองส่วนนี้คือส่วนสำคัญในการบังคับการบิน ลำตัวไม่ต้องพ่นน้ำยา
ตัวน้ำยาเองก็มี 2 ขั้นตอน ขั้นแรกคือการพ่นน้ำร้อนเพื่อละลายน้ำแข็งที่เกาะอยู่ ขั้นที่ 2 ถึงจะพ้นน้ำยากันน้ำแข็งเกาะ (anti-icing fluid)
หน้าที่เราก็คือจดว่าเขาใช้น้ำยาอะไร ความเข้มข้นเท่าไหร่ เพราะเราจะได้รู้ว่าน้ำยาจะออกฤทธิ์ได้นานแค่ไหน เพราะบางทีพ้นน้ำยาไปแล้ว แต่มีเครื่องรอขึ้นเยอะ จนหมดเวลาที่น้ำยาจะออกฤทธิ์ เราก็อาจต้องกลับไปพ่นน้ำยาซ้ำอีกรอบ
พ้นน้ำยาเสร็จสรรพ เราก็ได้วิ่งขึ้น แต่การวิ่งขึ้นในวันที่หิมะตกนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ น่ากลัวพอๆกับการวิ่งขึ้นในวันที่ฝนตกหนัก
ระหว่างที่เครื่องกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า เราจะเห็นเม็ดหิมะสาดเข้าใส่กระจก ยิ่งเร็วก็ยิ่งกลัวว่าทางวิ่งจะลื่น ในใจจะมีความกลัวว่าเครื่องจะไถลออกนอกทางวิ่งอยู่ตลอด สองเท้าต้องคอยกัน เหยียบคันบังคับ ประคองให้เครื่องอยู่ตรงกลางทางวิ่งให้มากที่สุด
“Man TOGA, SRS, Runway, Auto-thrust blue”
ไม่กี่อึดใจ นักบินผู้ช่วยก็ขาน “V1 ..... rotate!”
เครื่องพุ่งทะลุกลุ่มเมฆหิมะไปเรื่อยๆ จนในที่สุด เราก็มองเห็นดวงดาว ... “เฮ้อ รอดละ”
“Seatbelt sign auto” กัปตันสั่งให้นักบินผู้ช่วย ปิดสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดได้
วางระดับได้ไม่นานนัก ประมาณ 1 ชม. หลังจากที่วิ่งขึ้น หัวหน้าลูกเรือก็โทรเข้ามาแจ้งว่า “ผู้โดยสารชาวเกาหลี มีอาการ angina pectoris เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ตอนนี้ให้ผู้โดยสารนอนพักดูอาการก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นจะขอเพจเรียกหาหมอ”
“รับทราบ คอยรายงานสถานการณ์ด้วยนะ”
15 นาทีต่อมา ลูกเรือบอกว่าผู้โดยสารอาการแย่ลง ได้เพจหาบุคลากรทางการแพทย์ มีพยาบาลมารายงานตัว 3 ท่าน 2 คนเป็นเกาหลี อีกคนเป็นชาวไทย
“ขออนุญาตกัปตันใช้ยาใน EMK (emergency medical kit) นะครับ”
หันไปบอกกับนักบินผู้ช่วยว่า “ตอนนี้เราอยู่ใกล้เซี่ยงไฮ้ที่สุด ถ้าต้องลงฉุกเฉิน เราจะไปเซี่ยงไฮ้นะ เพราะเครื่องเรามีไฟลท์ไปลงอยู่แล้ว น่าจะได้รับความช่วยเหลือทางภาคพื้นได้เร็ว”
แล้วเครื่องก็บินตามเส้นทางไปเรื่อยๆ
“กัปตันคะ ตอนนี้ให้ยาแอสไพริน และยาแก้โรคหัวใจ (จำชื่อไม่ได้) ไปแล้ว รอดูอาการอีก 15 นาทีคะ”
... ตอนนี้ผ่านเซี้ยงไฮ้ไปไกลละ
“ถ้ามีอะไร ก็ไปไทเปละกัน” หันไปบอกนักบินผู้ช่วย
เหตุผลที่คิดว่าจะไต้หวันน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ สนามบินใหญ่ ทางวิ่งยาว และเครื่อง 330 ของมาเลเซียก็บินมาลงที่นี่ เพราะงั้นต้องมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นของสายการบินคอยช่วยเหลือแน่ๆ
“พี่วินดี้ครับตอนนี้ผู้โดยสารอาการแย่ลง ชีพจรอ่อนมาก พยาบาล 2 ใน 3 ลงความเห็นว่าต้องไปเจอหมอแล้ว ตอนนี้เรา standby เครื่อง AED แล้วครับ”
... “งั้นเราจะไปลงไทเป ไม่เกิน 1 ชม. นี้ พยายามดูแลผู้โดยสารด้วยนะ”
บนเครื่องเรามีโทรศัพท์ที่ใช้สัญญาณดาวเทียม satcom เราเลยโทรหาหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการบิน แจ้งว่าเราจะต้องทำการลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินไทเปเพื่อรักษาชีวิตของผู้โดยสาร
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตี 2 บนน่านฟ้าของไต้หวั่น
“สวัสดีคะท่านผู้โดยสาร กัปตันพูดนะคะ ขณะนี้เรามีผู้โดยสารท่านนึงกำลังป่วย และอาการไม่ค่อยดีแล้ว เราจำเป็นจะต้องทำการลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินไทเป ขออภัยในความไม่สะดวก และหวังว่าทุกท่านคงเข้าใจในการตัดสินใจครั้งนี้นะคะ”
นักบินผู้ช่วยบอกหอบังคับการบิน “เรามีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ขอลงที่สนามบินไทเปโดยด่วน เนื่องจากผู้โดยสารมีอาการหัวใจวาย”
หอบังคับการบินบอกให้เราเลี้ยวขวา หันหัวเครื่องไปยังทิศของสนามบินเถาหยวน (ชื่อของสนามบินไทเป ไต้หวัน)
ตอนนั้นอากาศที่สนามบินมีฝนตก แต่ทัศนวิสัย 4000 ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการลงสนาม แต่ไม่มีข่าวอากาศแจ้งว่าระหว่างทางที่จะไปถึงสนามบินนั้น เครื่องบินต้องบินฝ่าพายุฝน
ตอนนี้หน้าจอเรดาร์ มีแต่สีม่วงกับสีเหลือง (อธิบายง่ายๆ คร่าวๆ เรดาร์จะสะท้อนละอองน้ำ ถ้าหนาแน่นน้อยจะเริ่มจากสีเขียว เหลือง ม่วง และเข้มข้นสุดน่ากลัวสุด ห้ามเข้าไปเลยคือ สีแดง) ยังไงก็ต้องฝ่าไป เราไม่มีเวลามาก ชีวิตของผู้โดยสารที่กำลังป่วยก็สำคัญ ชีวิตของผู้โดยสารที่เหลือก็สำคัญพอกัน
มันคือการตัดสินใจว่าจะบินยังไงให้ปลอดภัยที่สุด โดยเสียเวลาน้อยที่สุด
ตอนนั้นเราอยู่ค่อนข้างสูง หอถามว่าเราจะลดระดับทันมั้ย เราต้องคำนวนระยะทางที่เหลือ กับความสูงและหาเทคนิคที่จะทำให้เราลดระดับให้เร็วที่สุด แต่การลดความสูงให้เร็ว ต้องใช้ความเร็วค่อยข้างมาก และความเร็วมากไม่เหมาะจะบินในพายุฝน
อุปสรรคมันมีเข้ามาเรื่อยๆ มันเป็นไฟลท์ที่ไม่ง่ายเลย จากจุดที่เราบอกหอว่าขอลงฉุกเฉิน เรามีเวลาแค่ไม่เกิน 30 นาทีเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ใน 20 นาทีนี้ต้องลดความสูงจาก 40,000 ไป 4,000 ฟุตท่ามกลางพายุที่หลบไม่ได้ ต้องฝ่าเข้าไปอย่างเดียว
เราไม่มีเวลาไปสนามบินอื่น ลูกเรือบอกว่า “ผู้โดยสารเริ่มเขียวแล้ว”
เมื่อเราลดระดับจนถึงเกือบ 5 พันฟุต เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เซ็ทข้อมูลทางวิ่ง 05ขวา ข่าวอากาศ ทุกอย่างลงคอมพิวเตอร์เรียบร้อย จู่ๆ หอก็บอกว่า “เปลี่ยนทางวิ่งเป็น 05ซ้าย”
“เชี่ยยย” (ขออภัยที่ต้องอุทานแบบนี้) “มันอะไรกันวะไฟลท์นี้!”
โชคดีที่นักบินผู้ช่วยทำหน้าที่ช่วยเหลือได้ดีมาก เปลี่ยนทางวิ่งในคอมให้ เราเช็คดูความถูกต้องทุกอย่างได้ทัน
แล้วเราก็ลงบนทางวิ่ง 05ซ้าย ท่ามกลางฝนที่กำลังตกลงมา อย่างปลอดภัย เข้าไปยังงวงจอดที่ใกล้ที่สุด พร้อมรถพยาบาลที่มารอรับเรา
เอาผู้โดยสารไปส่งถึงมือหมอเรียบร้อย จริงๆแล้ว ต้องบอกว่า หมอ
👩⚕️ ขึ้นมาหาผู้โดยสารถึงบนเครื่องเลยต่างหาก
จากที่ไฟลท์อินชอน ดอนเมือง ตามตารางบินต้องถึงก่อนตีห้า เราก็ไปถึง 8 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น
มันเป็นไฟลท์ที่เหนื่อยและยาวนานมาก มันทำให้กัปตันมีผมงอกเพิ่มมาอีก 18 เส้น แต่ก็ถือว่าก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สามารถรักษาชีวิตของผู้โดยสารได้
ต้องขอยกความดีให้กับทีมงาน เราช่วยเหลือกันดีมาก ตั้งแต่หัวหน้าลูกเรือ Purser เกม (Pharnuwat) ที่ตัดสินใจ เรื่องการปฐมพยาบาลได้ดี SCC กระต่าย (Sansanee) ที่คอยดูแลผู้โดยสาร และแจ้งความคืบหน้าให้นักบินตลอด และยังมีลูกเรือเกาหลี ซองจู ที่ทำหน้าที่ล่าม แปลอาการ สื่อสารกับคนป่วย ลูกเรือที่น่ารักอีก 5 ท่านที่คอยดูแลความเรียบร้อยของผู้โดยสารท่านอื่นๆ และช่างประจำเครื่องที่คอยอำนวยความสะดวก ดูแลความเรียบร้อยของเครื่อง
ในฐานะครู CRM ไฟลท์นี้ทำให้เห็นว่า สิ่งที่สอนไป ทุกคนเอามาประยุกต์ใช้ได้ดี ไม่ว่าจะเรื่อง Communication, Teamwork, Decision making และ นักบินผู้ช่วยเองก็มีการเสนอแนะ ให้ข้อคิดเห็น เตือนสติกันตลอด แสดงให้เห็นว่ามี Assertiveness ที่ดีมาก
👍🏻
ขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณในความร่วมมือกันทำงาน มันไม่ง่ายเลยจริงๆ สำหรับไฟลท์นี้ แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอชมเชยจากใจจริง และในฐานะกัปตัน รู้สึกภูมิใจกับทีมนี้จริงๆ คะ
🙏🏻
สุดยอดไปเลยครับผมขอชื่นชมจากใจ คุณคือฮีโร่ของผู้โดยสารอย่างแท้จริงครับ ผู้ป่วยรอดชีวิตเพราะการตัดสินใจของกัปตันและการช่วยเหลือของแพทย์และลุกเรือทุกคน รวมถึงผู้โดยสารทุกคนที่เข้าใจสถานการณ์ทีเครื่องต้องดีเลย์ไป..ขอบคุณทุกๆคนด้วยครับ...
แหล่งที่มา: Suwapich Angelica Wongwiriyawanich
https://www.facebook.com/Angelica.Windy/posts/10156088000192392
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
ทางบุญลุ้นทางรวย:พิธีเสกพระปิดตา ณ โบสถ์มหาอุด 1,000 ปี วัดป่าเลไลยก์
นักร้องเคป็อประดับตำนานเผย "ผมไม่ค่อยชอบเพลงฮิตอย่าง APT ของโรเซ่"
Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น





