เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ยื่น 1.6 หมื่นรายชื่อ เรียกร้องให้รัฐฯยกเลิกแบนบุหรี่ไฟฟ้า
กองบรรณาธิการข่าว เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 20 คน ยื่นรายชื่อผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผู้สนับสนุนกว่า 16,000 รายชื่อ ต่อพลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์ฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
"ขอให้สนช.ทบทวนการแบนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยชีวิตผู้สูบกว่า 11ล้านคน ระบุรัฐบาลหลายประเทศให้ใช้ได้ถูกกฎหมาย แนบผลการวิจัยต่างประเทศยืนยันอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน"
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ( ECST)” และเฟสบุ๊ค-“บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร”เปิดเผยว่า “เราเปิดแคมเปญ “ลดระดับบุหรี่ไฟฟ้าจากสินค้าต้องห้าม เป็นสินค้าควบคุม” ใน change.org เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้า
ตั้งแต่เดือนตุลาคม มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าและคนทั่วไปที่เห็นด้วยมาลงชื่อกว่า16,000 คนทุกคนเห็นตรงกันว่าผู้สูบกว่า 11.4 ล้านคนควรมีทางเลือกในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อันตรายน้อยกว่าและคนรอบข้างอีกกว่า 15 ล้านคนก็จะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสองน้อยลง
ขณะที่รัฐบาลมี พรบ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ พรบ. สรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่สามารถควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าได้อยู่แล้วซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนและทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้ด้วย”
"ประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่ห้ามการนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนเป็นการบีบบังคับให้ผู้สูบบุหรี่ยังต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อันตรายมากกว่าเพราะมีควันจากการเผาไหม้ และเสี่ยงถูกจับกุมรีดไถ
ทั้งยังสวนทางกับหลายประเทศที่อนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกต้องตามกฎหมายหากปล่อยไว้แบบนี้รัฐบาลจะเสียโอกาสและควบคุมอะไรไม่ได้เลย ทั้งการเข้าถึงของเยาวชน ความปลอดภัยและคุณภาพผลิตภัณฑ์และเป็นช่องทางให้เกิดการรีดไถประชาชนและนักท่องเที่ยวอีก
“ผมเชื่อว่าทุกประเทศในโลกควรสนับสนุนให้ประชาชนใช้สิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้อยลง รัฐบาลในประเทศที่พัฒนาแล้วต่างยอมรับและควบคุมสินค้านี้อย่างถูกกฎหมาย แสดงว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ร้ายแรงถึงขึ้นต้องแบนแต่อย่างใด”
กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ลอนดอน สถาบันมะเร็งอังกฤษ ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ 95% หรือมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน เพราะไม่มีการเผาไหม้ ไม่มีควันซึ่งประกอบไปด้วยสารอันตรายที่ก่อมะเร็งกว่า 7 พันชนิด ไม่สร้างนักสูบหน้าใหม่ และมีศักยภาพในการช่วยเลิกบุหรี่ได้ ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง อังกฤษ สหภาพยุโรป นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกาจึงไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้าแต่ควบคุมอย่างถูกกฎหมาย
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ส่งเสริมให้คนสูบบุหรี่ที่ยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ให้เปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพราะจะเป็นอีกมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดอันตรายจากพิษภัยของยาสูบและจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศได้
“กลุ่มของเราเคยทำหนังสือยื่นไปยังกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงวิทยาศาสตร์ กว่าร้อยฉบับ แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในทางที่ดีขึ้นเลย เท่ากับรัฐบาลปล่อยให้มีคนตายจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ปีละ 51,000 คนต่อไป
วันนี้เลยมาขอความเห็นใจจากสภานิติบัญญัติ ซึ่งมีความเป็นกลางและยินดีรับฟังข้อมูลจากรอบด้านให้ช่วยพิจารณาตั้งคณะกรรมการพิจารณาทบทวนการแบนบุหรี่ไฟฟ้า โดยเรายินดีให้ข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสะท้อนเสียงจากผู้บริโภคที่ต้องการลดอันตรายจากควันบุหรี่”
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า การดำเนินการบางประการของหน่วยงานที่รับผิดชอบดูจะเอียงแบบไม่ต้องไปสืบเสาะแสวงหาข่าว มีปาร์ตี้ เฮฮา ฉลอง ในโอกาสทั้งหลาย สิ่งที่ขาดไม่ได้คืออะไร ? เป็นธรรมเนียมไปแล้ว
ดังนั้นควรกวาดขยะบ้านตัวเองให้สะอาดก่อน คนเขียนข่าวก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เห็นท่านๆ เติบโตจาก รองอธิบดี ผู้ตรวจ จนบัดนี้
แล้วหมอที่ไปขับรถชนรั้วกระทรวง .....หน่วยงานภายใน ออกมารณรงค์บ้างไหม ....เงียบกริบ ....ไปตรวจพวกวัยรุ่นตามงานลอยกระทงซะงั้น ....เพลียยยยยยย.....เมื่อไหร่จะถึง 31 กันยายน 2561 สักทีเน้อ !!!!