จับสลากบอลโลก ลุ้นจับติ้วแบ่งสายฟุตบอลโลก 2018
คอนเสิร์ตฮอลล์ที่อยู่ภายในอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ของ “เครมลินแห่งมอสโก” ซึ่งจะเป็นที่ชุมนุมของผู้คนมากมายในแวดวงลูกหนัง ที่จะมาร่วมพิธีจับสลากแบ่งสายศึกฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018 หรือฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่จะมีขึ้น ณ แดนหมีขาวในกลางปีหน้า (พฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน-อาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม 2018) อย่างที่ทราบกัน
พิธีจับสลากแบ่งสายรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 จะมี แกรี่ ลินิเก้อร์ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษผู้เป็นดาวยิงสูงสุดฟุตบอลโลก 1986 ที่ผันตัวมาเป็นคอมเมนเตเตอร์ประจำรายการ Match of the Day กับ มาเรีย โคมันด์นาย่า ผู้สื่อข่าวทีวี-วิทยุสาวชาวรัสเชี่ยน เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในนักข่าวกีฬาที่เพื่อนร่วมชาติคุ้นหน้าทางรายการ Match TV, Moscow FM กับ FOX Sports
ส่วนผู้ร่วมทำการจับสลากมีด้วยกัน 8 คน คนที่ต้องแนะนำกันหน่อยเพราะเป็นรุ่นเก๋ากึ้ก คือ นิกิต้า ซิโมเนี่ยน อดีตกองหน้าทีมชาติสหภาพโซเวียตชาวรัสเชี่ยนเชื้อสายอาร์เมเนีย ที่ปัจจุบันมีอายุถึง 91 ปีเข้าให้แล้ว
ซิโมเนี่ยนเคยได้แชมป์ลีกสูงสุดของโซเวียตถึง 4 สมัย (1952, 1953, 1956, 1958), แชมป์โซเวียต คัพ 2 ครั้ง (1950, 1958) และเป็นดาวยิงสูงสุดของโซเวียต ท็อป ลีก อีก 3 สมัยด้วย นอกจากนั้นยังเคยรับใช้ทีมชาติสหภาพโซเวียต 20 ครั้งในช่วงปี 1954-1958 และอยู่ในชุดที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก 1956 ที่เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย กับเข้าถึงรอบควอเตอร์ไฟนัล ฟุตบอลโลก 1958 ที่สวีเดน และเมื่อแขวนสตั้ดแล้วยังคุมทีมต่างๆ หลายทีม คือ สปาร์ตัค มอสโก, อารารัต เยเรวาน, ทีมชาติโซเวียต กับชอร์โนโมเร็ตส์ โอเดซ่า และเมื่อหันหลังให้กับงานเฮดโค้ชแล้วก็มาทำงานให้กับสหพันธ์ฟุตบอลแห่งสหภาพโซเวียต, คณะกรรมาธิการการกีฬาแห่งสหภาพโซเวียต รวมถึงสหภาพฟุตบอลรัสเซียในเวลาต่อมาโดยดำรงตำแหน่งประธานรักษาการ 3 ช่วง
ที่เหลืออีก 7 คน ฟีฟ่าคัดจากทีมชาติทั้ง 7 ซึ่งเคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกที่ผ่านๆ มา ซึ่งก็มีดีกรีแชมป์โลกติดตัวกันเกือบทุกคน เริ่มต้นด้วย โลร็องต์ บล็องก์ (ทีมชาติฝรั่งเศส, ได้แชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998), กอร์ดอน แบ๊งค์ส (อังกฤษ, 1966), ดีเอโก้ มาราโดน่า (อาร์เจนตินา, 1986), คาฟู (บราซิล, 1994 กับ 2002), ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (อิตาลี, 2006), การ์เลส ปูโยล (สเปน, 2010) และ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน มาในนามตัวแทนของทีมชาติอุรุกวัย
สำหรับขั้นตอนการจับลูกปิงปองนั้นไม่ได้เข้าใจยาก ในโถหรือโหล 1 นั้น รัสเซียจะอยู่ในลูกบอลสีแดงเพราะถูกกำหนดให้เป็นทีม A1 แต่แรกจากการที่เป็นทีมชาติเจ้าภาพ อีก 7 ทีมที่เหลือในโถ 1 จึงค่อยถูกจับให้กระจายกันไปอยู่กลุ่มต่างๆ (กลุ่ม B ถึง H) โดยจะได้สถานะเป็นทีม B1-H1 โดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงค่อยกระจายทีมในโถ 2-4 ซึ่งจะมีการจับเลือกอันดับในกลุ่ม (เช่นเป็นทีม B2, B3 หรือ B4) ประกบแต่ละทีมที่ถูกจับชื่อออกมาตามไปด้วย อันดับในกลุ่มนั้นสำคัญตรงที่จะทำให้ได้รู้ว่าจะเจอทีมไหนก่อนหรือหลัง
นอกจากนั้นฟีฟ่าก็จะกันแต่ละกลุ่มไม่ให้มีทีมจากโซนทวีปเดียวกันอยู่ร่วมกัน ยกเว้นทีมจากโซนยุโรปซึ่งมีถึง 14 ทีม แต่จะไม่มีกลุ่มไหนมีทีมจากโซนยุโรปเกิน 2 ทีม เท่ากับว่า 6 ใน 8 กลุ่มจะมีทีมจากโซนยุโรป 2 ทีมแน่ๆ ส่วนทีมใดจะได้อยู่กับใคร ? กลุ่มไหน ? มาร่วมลุ้นไปด้วยกันทางช่อง Fox Sport HD (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 680) และสื่อออนไลน์ของฟีฟ่า
โถทีมวางอันดับทั้ง 4 ก่อนการจับสลาก
โถ 1: รัสเซีย (เจ้าภาพ, A1), เยอรมนี, บราซิล, โปรตุเกส, อาร์เจนตินา, เบลเยียม, โปแลนด์, ฝรั่งเศส
โถ 2: สเปน, เปรู, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, โคลอมเบีย, เม็กซิโก, อุรุกวัย, โครเอเชีย
โถ 3: เดนมาร์ก, ไอซ์แลนด์, คอสตาริกา, สวีเดน, ตูนิเซีย, อียิปต์, เซเนกัล, อิหร่าน
โถ 4: เซอร์เบีย, ไนจีเรีย, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, โมร็อกโก, ปานามา, เกาหลีใต้, ซาอุดีอาระเบีย
ขอบคุณข้อมูล https://goo.gl/nAo9Qc