คนที่โดน “ตัดหัว” ในสมัยก่อน จะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่? ผลการวิจัยของแพทย์ชี้ว่าแบบนี้
เรามักจะเห็นในละครหรือหนังสมัยก่อน ที่มีฉากการประหารชีวิตด้วยการตัดหัว แต่ในชีวิตจริงถ้าโดนแบบนั้นจะรู้สึกอย่างไร ที่โดนตัดหัวออกจากบ่า แน่นอนว่าคนที่รู้ดีที่สุกนั้นก็คือคนที่ตายไปแล้ว แต่จากข้อสงสัยนี้เอง ทำให้มีแพทย์ชาวฝรั่งเศสได้ออกมาทำการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้
การทดลองในครั้งนี้ ได้มีแพทย์ชาวฝรั่งเศส 2 คน ได้เสนอแนวคิดที่ว่า คนที่โดนตัดหัวจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดหรือไม่? อย่างไรก็ตาม แพทย์ 2 คนนี้เชื่อว่า ถึงแม้เส้นเอ็นที่คอจะถูกตัดออกไปแล้ว แต่ก๊าซในสมองก็ไม่ได้หมดไปในทันที เพราะฉะนั้นอาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้แต่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ในสมัยก่อนได้มีแพทย์คนหนึ่งได้ทำผิดอย่างร้ายแรง ทำให้เขาโดนลงโทษด้วยการประหารชีวิต จากนั้นเพื่อนของเขาได้บอกกับเขาว่า “ตอนที่หัวของนายตกลงมาที่พื้นแล้ว ฉันจะยกหัวของนายขึ้น แล้วจะเรียกชื่อนาย ถ้านายได้ยินนายต้องมองหน้าฉัน”
เขาก็ยอมทำตามที่เพื่อนของเขาพูด ในขณะที่เขาโดนตัดหัวออก เพื่อนของเขาก็เรียกชื่อเขา เขาก็มองไปที่ใบหน้าของเพื่อนจริงๆ แต่พอเรียกครั้งที่สองก็ไม่มีการตอบสนองอะไรแล้ว
การตัดหัวนั้น จะตัดที่ลำคอคซึ่งก้านสมองจะยังไม่เสียหายในตอนที่คมมีดลงไปที่คอจนคอขาด
และความดันเลือดในสมองก็ยังไม่ตกลงจนหมดสติไปดังนั้น จะสามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้
แต่เท่าที่เราเคยอ่านเจอ มีการวิเคราะหํกันว่าการถูกตัดด้วยดาบแบบฟันฉับเดียวขนาดในเสี้ยววินาที กรณีแบบนี้จะไม่เจ็บปวดมากนักเพราะเซลล์และ receptor ถูกทำลายไม่มาก คือขาดไปเลยในทันที
แต่การสังหารโดยวิธี "เฉือน" แบบนั้นจะเจ็บมาก (จนเกินบรรยาย) เพราะมีความเสียหายของเซลล์และ receptor มาก แบบ ไอเอสนะ
หัวไปแล้ว...หัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ได้ถึง 15 วินาที !!!? เป็นความเชื่อของคนหลายคนทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแค่อเมริกา โดยเชื่อว่าเมื่อคนโดนตัดหัวหลุดจากบ่า แต่แล้วหัวนั้นมันมีชีวิตอยู่ระยะหนึ่ง มันยังคงพะงาบๆ และมันเหลือบมองหน้าคนตัดอย่างอาฆาต!! และมันก็เกิดขึ้นจริงซะงั้น!! เมื่อหัวเราหลุดจากบ่า เรายังมีชีวิตอยู่ต่อได้ไหม เราสามารถกระพริบตาพะงาบๆ สมองยังทำงานได้ไหม !!!?
เรื่องเหล่านี้เริ่มขึ้นในช่วงที่ใช้เครื่องกิโยติน หรือเครื่องตัดหัวเป็นที่นิยมใช้ประหารนักโทษ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการประหารที่ทำให้ผู้ถูกประหารตายอย่างรวดเร็ว หมดจด สมองไม่เสียหาย เวลาประหารแต่ละทีจะทำท่ามกลางประชาชนที่มามุงดูแน่นขนัด
และนั่นเองทำให้พวกเขามีโอกาสเห็นหัวที่ยังมีชีวิตหลังจากถูกตัดไปแล้ว !!? หนึ่งในนั้นคือ สมัยปฏิวัติฝรั่งเศส วันที่ 17 กรกฎาคม 1793 สาวนาม ชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charlotte Corday)
สาวบ้านนอกที่ทำการฆาตกรรม พอล มารัต (Jean-Paul Marat) เธอถูกประหารด้วยกิโยติน หลังจากคมมีดตัดเอาศีรษะเธอกระเด็นออก ผู้ช่วยประหารคนหนึ่งหยิบหัวเธอมา แล้วตบแก้ม พยานโดยรอบยืนยันว่าดวงตาของเธอ
กลอกไปมามองเขาพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจและได้พูดคำว่า “ไม่ได้” (couldn) หลังจากนั้น ผู้คนที่จะถูกประหารด้วยกิโยตินก็จะถูกขอให้กระพริบตา ผลคือมีนักโทษหลายคนแสดงให้เห็นว่าแม้ถูกตัดหัวตนก็ยังมีชีวิตอยู่ !!?
ในปี 1905 จากหลักฐานต่างๆ สามารถสรุปได้ว่าแม้ถูกตัดหัวแล้ว สมองของคุณ ยังคงสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้หลายวินาทีก่อนที่จะตาย โดยหนึ่งในนั้นมาจากงานทดลองของดอกเตอร์ โบเรียคซ์ (Beaurieux) ผู้ซึ่งทำการทดลองจากฆาตกรฝรั่งเศสชื่อ แลงกุยล์เลอ (Languille)
หลังจากเขาถูกแท่นตัดคอนักโทษด้วยเครื่องประหารด้วยกิโยติน (แท่นตัดคอนักโทษที่ถูกออกแบบให้ประหารแบบมนุษยธรรม) ตาของ แลงกุยล์เลอ และปากยังคงขยับดำเนินต่อไปนานถึงห้าถึงหกวินาที และต่อมาเมื่อโบเรียคซ์ ตะโกนเรียกชื่อนักโทษ ก็พบเรื่องน่าขนลุกเมื่อ ตาของ แลงกุยล์เลอเปิดออกอีกครั้งและจ้องมองเขา ทำให้เกิดความเชื่อว่าเมื่อคนหัวขาดอาจสามารถคลองสติได้ถึง 15 วินาที
แพทย์สมัยใหม่เชื่อว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากการ reflex ของกล้ามเนื้อ (คือกล้ามเนื้อกระตุกจากการสูญเสียเลือด หรือการควบคุม ทำให้ตากระพริบหรือกลอกไปมา) ไม่ใช่สติรู้ตัว
แม้สมัยนี้กิโยตินจะถูกยกเลิกแล้ว แต่ใช่ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เมื่อมีเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้น เช่นในเดือนมิถุนายนปี 1989 เมื่อคนสองคนนั่งแท็กซี่แล้วประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกคนหนึ่งศีรษะถูกตัดออก ส่วนอีกคนที่รอดได้พบเหตุการณ์น่าสยอง เธอได้เล่าเรื่องนี้หลังรอดชีวิตว่า "หัวนั้นหงายหน้ามองฉัน ฉันยังสังเกตว่า ปากของเขาพยายามพูดสื่อสารอะไรบางอย่างกับฉันอยู่ แม้ตอนนั้นฉันกำลังสับสน หวาดกลัวและเศร้าโศก แต่ฉันไม่พูดเกินความจริง เขายังกะพริบตาและจ้องฉัน ก่อนที่หัวนั้นจะหลับตาลงและไม่ตื่นอีกเลย”
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=141150419989923&set=pcb.309388489549022&type=3&theater&ifg=1
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1352439