ตามคาด อสังหาฯ ใหม่เปิดตัวเพียง 8 โครงการ ต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ไม่เกินความคาดหมาย ในเดือนตุลาคม 2560 การเปิดตัวโครงการใหม่น้อยมาก มีเพียง 8 โครงการน้อยที่สุดในรอบ 15 ปี จากที่สำรวจมาทั้งหมด 23 ปีของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย AREA
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สรุปสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเดือนตุลาคม 2560 โดยพบว่า ในเดือนตุลาคม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการชะลอการเปิดตัวโครงการ ซึ่งนับว่ามีการเปิดตัวน้อยที่สุดในรอบ 15 ปี
สาเหตุที่มีการเปิดตัวน้อยเนื่องจากมีการทยอยเปิดตัวกันไปเป็นจำนวนมากก่อนสิ้นไตรมาส 3 อีกทั้งในเดือนนี้ได้มีการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ด้วย โดยในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 8 โครงการ ลดลงจากเดือนกันยายน 2560 จำนวน 40 โครงการ จึงทำให้มีจำนวนหน่วยขายและมูลค่าลดลง ซึ่งเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัย 7 โครงการ และเป็นอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายทั้งหมด 2,227 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 8,788 ล้านบาท
ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุดเช่นเดือนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 1,954 หน่วย (87.7%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 225 หน่วย (10.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ พาณิชย์ 32 หน่วย (1.4%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนหน่วยขายกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ได้แก่ อาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว ลดลงทุกประเภท โดยจำนวนหน่วยขายของอาคารชุดลดลง 8,472 หน่วย (-81%) ทาวน์เฮ้าส์ลดลง 2,913 หน่วย (-93%) ส่วนบ้านเดี่ยวไม่มีการเปิดขายใหม่เลย ซึ่งทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านธุรกิจเพียง 1 โครงการ ที่เหลือจะตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ส่วนต่อขยายของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีแดง และสายสีชมพู ส่วนทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดขายจะตั้งอยู่พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นต้น
ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คืออาคารชุด 7,711 ล้านบาท (88%) รองลงมาคือ โฮมออฟฟิศ 528 ล้านบาท (6%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารพาณิชย์ 281 ล้านบาท (3%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นอาคารชุดจะเน้นที่ระดับค่อนข้างถูกราคา 1-2 ล้านบาท และราคา 3-5 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 48% ซึ่งเพิ่มจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 40% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด อันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 10-20 ล้านบาท จำนวน 74 หน่วย ขายได้แล้ว 60 หน่วย (81%) รองลงมา คือทาวน์เฮ้าส์ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 82 หน่วย ขายได้แล้ว 63 หน่วย (77%) อันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 529 หน่วย ขายได้แล้ว 371 หน่วย (70%) และ ตามลำดับ
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ อย่างไรก็ตามในพฤศจิกายน มีโครงการเตรียมตัวเปิดตัวอยู่อีกประมาณ 30 โครงการ และเชื่อว่าในเดือนธันวาคม จะมีการเปิดตัวขึ้นอีกมาก จึงมีความหวั่นวิตกว่าอาจเกิดฟองสบู่เกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
ที่มา: https://goo.gl/xytFWG