ติโย่ ซาทริโอ้ เด็กน้อยสู้ชีวิตผู้ไม่มีแขนขา !!!
แต่ในบางเรื่อง ติโย่ ก้ยังต้องพึงพ่อแม่ ในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันหลายๆ อย่าง เช่น ช่วยอาบน้ำให้ ใส่เสื้อผ้า และพาไปไหนมาไหนเพราะเขาไม่มีแขนและขา แต่ถ้าอยู่กับบ้าน เวลาจะเดินไปไหนในบ้าน ติโย่ จะใช้วิธีคืบคลานเอา หรือไม่ก็กลิ้งไปกลิ้งมา ซึ่งเขาบอกว่า เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ว่องไวอีกด้วย
หลายคนที่รู้สึกท้อ หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อ หรือคิดว่าชีวิตตนเองนั้นเลวร้าย จนอยากฆ่าตายตัว อยากให้ลองดูเรื่องราวชีวิตของเด็กคนนี้ที่เกิดมา ไม่มีแขน ไม่มีขา มีแต่ลำตัวกับหัวและชีวิตเท่านั้นที่พระเจ้าให้มา แต่ว่าเขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างเช่นคนปกติได้ และอยู่ในโลกนี้ได้ โดยไม่ยอมพ่ายแพ้ให้แก่โชคชะตาของตนเอง
ติโย่ ซาทริโอ้ เพิ่งอายุได้เพียงแค่ 11 ปี ถึงแม้เขาจะไม่มีทั้งแขนและขา แต่เขาก็ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา
แม้จะยังเด็กแต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง !!!
ไม่เพียงแต่ใช้ปากคาบปากกาเขียนหนังสืออย่างได้เชี่ยวชาญ
แต่เขายังชื่นชอบการเล่นเกมเพลย์ต่างได้อย่างคล่องแคล่วและสนุกสนานอีกด้วย
เมื่อตอนที่ตั้งครรภ์ แม่ของ ติโย่ ซาทริโอ้ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกของเธออยู่ในสภาพที่ไม่มีแขนและขา แม้กระทั่งตอนคลอดออกออกมาแล้ว นางพยาบาลก็ยังบอกเธอว่าเขาแข็งแรงสมบูรณ์ดี แต่พอในบ่ายของอีกวัน พวกเขาถึงบอกความจริงกับเธอ ซึ่งก็ทำเธอก็ตกใจมาก
เธอไม่คิดว่าลูกคนสุดท้องของเธอจะเกิดมีสภาพแบบนี้ ในขณะที่ลูกของเธอทั้ง 4 คนก่อนหน้านี้ก็สมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่เมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว ลูกคลอดมาแล้ว แม้ในตอนแรกเธอทำใจไม่ได้ เครียด วิตกกังวลไปสารพัด แต่ในตอนนี้ เธอเริ่มทำใจได้ และเฝ้าสอนลุกให้เรียนรู้และใช้ชีวิตให้อยู่รอดในสังคมนี้ให้ได้ เมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่แล้ว
มิมิและวาวัน สองสามีภรรยา เลี้ยงดู ติโย่ จนตอนนี้เขามีอายุ 11 ปีแล้ว ถึงแม้เขาไม่มีทั้งแขนและขา แต่ก็ฝึกฝนใช้ปากคาบปากกาเขียนหนังสือได้อย่างเชี่ยวชาญ เขาฝึกทำทุกอย่างด้วยตนเองจนมีความชำนาญไม่ว่าจะแกะเข้าของต่างๆ รวมไปถึงลูกอมขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย หรือแม่กระทั่งเล่นเกมคอมฯ
แต่ในบางเรื่อง ติโย่ ก้ยังต้องพึงพ่อแม่ ในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันหลายๆ อย่าง เช่น ช่วยอาบน้ำให้ ใส่เสื้อผ้า และพาไปไหนมาไหนเพราะเขาไม่มีแขนและขา แต่ถ้าอยู่กับบ้าน เวลาจะเดินไปไหนในบ้าน ติโย่ จะใช้วิธีคืบคลานเอา หรือไม่ก็กลิ้งไปกลิ้งมา ซึ่งเขาบอกว่า เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว ว่องไวอีกด้วย
ทั้ง มิมิ และ วาวัน สามีของเธอ ทั้งสองคนมองว่าการดูแลติโย่ลูกชายนั้น เป็นงานแบบเต็มเวลาที่ต้องทำตลอดทั้งวัน ซึ่งทุกวันนี้เขาต้องทนกับแรงกดดัน เพราะรัฐบาลขาดส่งเงินช่วยเหลือคนพิการให้กับครอบครัวเขามาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว
แต่ก็เป็นโชคดีของครอบครัวที่ ติโย่ มีโอกาสได้เข้าเรียนที่ SLB Firdaus ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่โรงเรียนที่จะรับเขาเข้าเรียน
หนูน้อยคนนี้ เป็นเด็กเรียนดี เขาเก่งทั้งคณิตศาสตร์และศาสนา ความพิการของเขาไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนร่วมกับเพื่อนนักเรียนคนอื่นเลย แม้แต่ครูใหญ่ก็ยังชื่นชมกล่าวชื่นชมเขา แม้จะยังอยู่แค่ชั้นป.2 แต่ก็สามารถแก้โจทย์ปัญหาของชั้นป.4 ได้
ในช่วงแรกๆ การไปโรงเรียนเป็นสิ่งที่ลำบากใจที่สุดสำหรับติโย่ เพราะว่าเขารู้สึกแตกต่างจากเด็กทั่วไป แต่ในทุกวันนี้ เขามีความสุขกับการที่ได้ไปเรียนหนังสือ ได้เอาการบ้านกลับมาทำที่บ้าน ได้พบกับเพื่อนๆที่โรงเรียน เพราะเพื่อนนักเรียนและคุณครูต่างก็ปฏิบัติกับติโย่เหมือนเช่นคนปกติทั่วไป ไม่มีใครมองหมิ่นหรือว่า ดูถูกเขาแม้แต่น้อย แต่ทุกคนยังช่วยเหลือติโย่ในทุกเรื่องเป็นอย่างดี จนเขาไม่มีความรู้สึกว่าตนเองมีปมด้อยแต่อย่างใด
ขอบคุณที่มา: https://www.greannews.com/?p=4444
http://icechuks2.blogspot.com/2016/07/this-boy-with-no-arms-and-legs-does-not.html