ดร.โสภณ พรโชคชัย ฉะ น้ำท่วม กทม.แก้ง่าย แต่ไม่ทำ

ดร.โสภณ พรโชคชัย ให้ควาเห็นกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม.ว่า ตามที่เกิดปรากฏการณ์น้ำท่วมกรุงเทพมหานครฉับพลันในวันที่ 14 ตุลาคม 2560 นั้น ได้แสดงให้เห็นถึงระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่ขาดประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยชี้แจงเหตุผลว่า 

1. ฝนจะตกหนักอย่างไร ก็คงไม่มากเท่ากับปริมาณน้ำที่จะสูบออกได้ตามประสิทธิภาพของเครื่องสูบน้ำ หากมีการสูบน้ำจริง
2. เรื่องขยะต่าง ๆ ที่ปรากฏให้เห็นจำนวนมาก ซึ่งไปอุดขวางทางน้ำนั้น แสดงให้เห็นว่าขาดการจัดการขยะเท่าที่ควร การลอกท่อที่ทำกันอยู่ คงเป็นแค่การ “ลูบหน้าปะจมูก” จึงไม่ได้ผลอะไรเลย
3. อุโมงค์ระบายน้ำ หรือ “อุโมงค์ยักษ์” ที่มีการกล่าวอ้างถึงโครงการเมกะโปรเจกต์ของ กทม.นั้น แทบจะไมได้เห็นการทำงานเลย และไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะเท่าที่ควร ประชาชนแทบไม่รู้ว่ามีอุโมงค์น้ำอยู่บริเวณไหนบ้าง ทำงานอย่างไร กรณีนี้แสดงถึงการขาดความโปร่งใสในการดำเนินงาน
4. สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากฝนที่ตกลงมาหนัก และตกเป็นเวลานาน โดยยังไม่มีสถานการณ์ของน้ำเหนือ หรือน้ำป่าไหลหลาก และการระบายน้ำจากเขื่อน ไม่มีมวลน้ำจากภาคกลาง แต่ยังก่อความเสียหายได้ ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมประกันวินาศภัย สรุปจำนวนรถที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเมื่อวันที่ 13-14 ตุลาคม 2560 พบมากถึง 2,009 คัน 27 โดยมีรถที่ทำประกันวินาศภัยกับบริษัท บ.วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มากที่สุดถึง 500 คัน รองลงมาคือบ.กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บ.เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้แนวทางของการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครสามารถทำได้ ดังนี้

1. การลอกท่อกำจัดขยะ ราชการจะต้องเป็นฝ่ายรุก ทั้งการเดินหน้าโครงการลอกท่อกำจัดขยะอย่างจริงจัง การรณรงค์การไม่ทิ้งขยะเป็นสิ่งที่ดี
2. การใช้อุโมงค์ยักษ์ให้ได้ประสิทธิภาพ เพราะจากแผนระบบการระบายน้ำของ กทม.หากอุโมงค์ยักษ์ที่กล่าวมามีประสิทธิภาพที่เพียงพอ จะไม่มีสถานการณ์ดังที่ผ่านมาเกิดขึ้น
3. การมีระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ พิสูจน์ได้เพื่อการวางใจของประชาชน เพราะปริมาณน้ำฝนที่ตกมาในแต่ละนาที ย่อมน้อยกว่าปริมาณน้ำที่สูบออกได้โดยเครื่องสูบน้ำอยู่แล้ว
4. การสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทำเป็นถนนขนาด 6 ช่องทางจราจรในแต่ละฝั่งแม่น้ำ แบบในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ถนนและให้กลายเป็นเขื่อนป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย แต่ไม่ใช่โครงการถนนเลียบแม่น้ำดังที่กำลังดำเนินการอยู่
5. การสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำเพื่อการแก้ปัญหาน้ำท่วม และนำน้ำมาใช้ในยามจำเป็น เป็นต้น