ถึงเวลาเอาจริง!! พงศ์พร สั่งการ ทำบัญชีวัด รูปแบบใหม่ จัดระเบียบถึง 6 รายการ มส.ลงมติ เห็นชอบ ..เริ่มที่วัดดาวดึงษาราม!!
(10 ตุลาคม 2560) พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ส่วนกลาง) ครั้งที่ ๗ / ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมชั้น ๓ อาคารหลวงพ่อวัดปากน้ำ หลังที่ ๒ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
จากที่ประชุม เห็นชอบรูปแบบการจัดทำบัญชีวัด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ รูปแบบบัญชีครัวเรือน รับเงินเกิน 3,000 บาทต้องส่งส่วนเกินเข้าวัด
โดยวัดจะต้องทำบัญชี 6 ส่วน ได้แก่ สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายรายวัน สมุดบัญชีเงินฝาก สมุดบัญชีแยกรายรับ สมุดบัญชีแยกรายจ่าย สมุดบัญชีงบประจำปี และเล่มรายงานงบประจำปี
และหลังประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็น การประชุมที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เข้าร่วมประชุมมส.เป็นครั้งแรก จากการประชุมครั้งนี้้ นายสมเกียรติ ธงศรี รักษาการผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า ที่ประชุมมส.ได้เห็นชอบรูปแบบการจัดทำบัญชีวัด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เสนอ
โดยจะเริ่มนำร่องที่วัดดาวดึงษาราม กรุงเทพฯ ในปีงบประมาณ 2561 จากนั้นจะดำเนินการให้ครอบคลุมทุกวัดทั่วประเทศ
สำนักงานพระพุทธศาสนา จะจัดทำหนังสือคู่มือ การจัดทำบัญชีวัดรูปแบบใหม่ พร้อมดำเนินการจัดอบรม พระสังฆาธิการให้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย เพื่อจะได้มีความพร้อม และมีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
การรับและการเก็บรักษาเงินของวัดและการทำบัญชี เป็นงานการศาสนสมบัติของวัดงานหนึ่ง ซึ่งอยู่ในความดูแลและจัดการของเจ้าอาวาส ในกฎกระทรวงข้อ 5-6 ได้ระบุไว้โดยชัดเจน กำหนดวิธีปฏิบัติเป็น 3 วิธี คือ 1. วิธีรับและเก็บรักษาเงินของวัด 2. วิธีทำบัญชีรับจ่าย 3. วิธีทำบัญชีงบปีของวัด
วิธีรับและเก็บรักษาเงินของวัด ....การรับเงินผลประโยชน์ไม่ว่ากรณีใด ๆ วัดจะต้องออกใบเสร็จรับเงิน (ศบว.7 ) แสดงการรับทุกครั้ง แล้วนำยอดเงินตามใบเสร็จนั้น เข้าบัญชีรับและลงเลขที่ใบเสร็จไว้ ในบัญชีรับอีกครั้ง แม้การรับดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารเข้าบัญชีรับ ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน สำหรับอนุโมทนาบัตรจะมีหรือไม่ก็ได้
การรับเงินการกุศล เมื่อออกอนุโมทนาบัตรแล้วลงบัญชีรับและอ้างเลขที่อนุโมทนาบัตร ในบัญชีรับอีกครั้งหนึ่ง
วิธีเก็บรักษาเงินของวัด..... วัดจะเก็บรักษาเงินผลประโยชน์ของวัดเองได้เพียง 3 ,000 บาท ส่วนที่เกิน 3,000 บาท ให้นำฝากกรมการศาสนา จังหวัด อำเภอ ธนาคาร หรือนิติบุคคล ที่กรมการศาสนาให้ความเห็นชอบ ทางปฏิบัตินั้น ต้องฝากธนาคารโดยระบุชื่อบัญชีว่า “วัด .” หรือ “เงินของวัด. .” ห้ามฝากเป็นชื่อเจ้าอาวาส หรือใคร ๆ การเบิกเงินจากธนาคาร ควรกำหนดเงื่อนไข ให้ลงนามร่วมกัน 3 คน คือ เจ้าอาวาส 1 ไวยาวัจกรหรือผู้จัดประโยชน์ 1 ผู้ที่เจ้าอาวาสเห็นควร 1 จึงถอนได้ หรือเมื่อฝากลงนามร่วมกัน 3 คน เมื่อจะถอนลงนาม 2 ใน 3 มีเจ้าอาวาสเป็นหลัก
ส่วนเงินการกุศล ให้เก็บรักษา ตามความประสงค์ของผู้บริจาค ถ้าผู้บริจาคมิได้แจ้งความประสงค์ไว้ ควรอนุโลมตามการเก็บรักษาเงินผลประโยชน์ของวัด
วิธีทำบัญชีรับจ่าย ให้เจ้าอาวาสมอบให้ไวยาวัจกรหรือผู้จัดประโยชน์ของวัด จัดทำบัญชีรับจ่ายประจำเดือน โดยใช้แบบกรมการศาสนา (ศบว.๕) ทุกสิ้นเดือน ให้รวบรวมยอดรับจ่ายหักยอดคงเหลือ และยอดยกไปเดือนต่อไป ผู้ทำบัญชีลงนามรับรองแล้ว เสนอเจ้าอาวาสตรวจ และให้ตรวจทุกเดือน