หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประเทศต่างๆ ล้วนอยากมาซื้อบ้านในไทย

เนื้อหาโดย doctorsopon

พี่ตู่ครับ ผมมีข่าวดีมาบอก ประเทศมากหลายต่างสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยของเราทั้งนั้น รีบทำให้เหมือนอารยประเทศนะครับ รับรองเศรษฐกิจไทยไปโลด


เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2560 ผมเดินทางไปประชุมสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศอินเดีย และได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ซึ่งถือเป็นผู้รอบรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในอินเดียว่า สนใจไปลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเทศไหนบ้าง (ถ้ามีโอกาส) คำตอบเป็นที่น่าสนใจยิ่งคือ อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 18% อันดับ 2 อังกฤษ 13% อันดับ3-4 ประเทศไทยและออสเตรเลีย 9% อันดับ 5 สิงคโปร์ 8% และอันดับ 6 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 8% (http://bit.ly/2v7Ded3)


จะเห็นได้ว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว อันที่จริงไทยกับอินเดียก็มีความสัมพันธ์กันมาช้านาน แขกอินเดียก็มาค้าขายในไทยนับร้อยปี มหาเศรษฐีจำนวนมากมีเชื้อสายอินเดีย แต่เราอาจรู้จักแต่แขกขายถั่ว ขายโรตี อันนี้ไม่ได้แสดงว่าอินเดียไม่เจริญ แต่เป็นเพราะเราไม่ค่อยรู้จักคนอินเดียรวยๆ มากกว่า ภาพที่เราเข้าใจอินเดียที่มีแต่ขอทานหรือคนนอนข้างถนนนั้นเก่าแล้ว ขอทานมีเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว และจำนวนคนนอนข้างถนนและชุมชนแออัดก็ลดไปมากแล้ว


ประเทศอินเดียมีประชากร 1,267 ล้านคน น้อยกว่าจีนไม่มากนัก ซึ่งจีนมี 1,374 ล้านคน (น้อยกว่ากันเพียง 8% เท่านั้น) ในไม่ช้าจำนวนประชากรอินเดียจะแซงจีนด้วยซ้ำไป ประชากรอินเดียมีรายได้ประชาชาติต่อหัวเพียง 60% ของไทย แต่มีคนรวยมากๆ ราว 5% หรือ 69 ล้านคน หรือมากกว่าประชากรไทยทั้งประเทศเสียอีก ถ้าเราสามารถดึงดูดนักลงทุนอินเดียมาไทย ประเทศไทยก็คง "ไปโลด"


ท่านเชื่อหรือไม่ คนจีนตรวจเช็คดูรายการทรัพย์สินที่จะซื้อนอกประเทศเพื่อการลงทุนโดยดูไทยเป็นอันดับที่ 5 แต่ในการซื้อขายจริง เขาเลือกซื้อทรัพย์สินในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 6 (http://bit.ly/2vZLalT) และมีสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และคานาดา เป็นอันดับที่ 1-3 อย่างไรก็ตามอันดับของไทยนับว่าสูงมากเช่นกัน คนจีนก็มีแนวโน้มจะมาลงทุนในไทยมากขึ้น หากว่าไทยสามารถดึงดูดคนจีนจำนวน 1,374 ล้านคน ให้มาลงทุนในไทยแค่ 1% ก็ 14 ล้านคนเข้าไปแล้ว รับรองว่าเศรษฐกิจไทยที่มีจีนมาเกื้อหนุนคงจะ "ไปโลด" อีกเช่นกัน


แม้แต่ประเทศเล็ก ๆ อย่างกัมพูชาที่ผมเดินทางไปสำรวจมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ก็พบว่า 5 อันดับแรกที่นักลงทุนกัมพูชาสนใจลงทุนก็คือ สิงคโปร์ (30%) ประเทศไทย (21%) ออสเตรีเลีย-นิวซีแลนด์ (18%) มาเลเซีย (13%) และสหรัฐอเมริกา (12%) (http://bit.ly/2tn05nX) แสดงให้เห็นชัดว่าคนกัมพูชาก็สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยไม่น้อย แม้จะเลือกเป็นอันดับสองเพราะอาจประทับใจในความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสิงคโปร์ แต่สิงคโปร์มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีการซื้อบ้านของชาวต่างประเทศสูงถึง 15% ของราคาซื้อ จึงทำให้การซื้อขายจริงของชาวกัมพูชาในสิงคโปร์คงมีน้อยมาก


สำหรับประเทศเมียนมา ก็ทำนองเดียวกัน คือ 44% ต้องการซื้อบ้านในสิงคโปร์ รองลงมาคือไทย (30%) และตามด้วยอื่น ๆ อีกไม่มากนัก (ผลสำรวจเมื่อเดือนเมษายน 2560 http://bit.ly/2p1l5Mg) และก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ผลก็ออกมาในทำนองเดียวกัน แสดงว่าเมียนมาก็ชอบประเทศไทยมาก การที่คิดจะไปซื้อบ้านในสิงคโปร์นั้นเป็น "ความฝัน" เป็นหลัก แต่การที่จะซื้อบ้านในไทย นับเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง


ล่าสุดผมได้เดินทางไปแสดงปาฐกถาในงานประชุมสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อาเซียนหรือ ASEAN Real Estate Network Alliance (ARENA 2017) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2560 ก็ได้ข้อคิดว่า ผู้คนจากมากหลายประเทศ ต่างก็สนใจซื้อบ้านในประเทศไทยกันทั้งนั้น ประเทศไทยน่าจะมีเสน่ห์มากพอสมควรทีเดียว ประเทศไทยมีความหวังที่ดียิ่งสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ


อย่างชาวมาเลเซีย พบว่า 22% ต้องการซื้อบ้านในออสเตรเลีย รองลงมาคือประเทศไทย (17%) พวกเขาสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากกว่าในสิงคโปร์ (15%) เสียอีก รองลงมาก็เป็นอังกฤษ (12%) อย่างไรก็ตามมาเลเซียก็สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศอื่นในอาเซียน เช่น เวียดนาม (7%) อินโดนีเซีย (4%) เป็นต้น เชื่อว่าชาวมาเลเซียมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง


ในกรณีของเมียนมา พบว่า 35% ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย รองลงมาคือ 29% ต้องการซื้อในสิงคโปร์ อย่างไรก็ตามการสำรวจครั้งก่อนเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ปรากฏว่า ชาวเมียนมาต้องการซื้อที่สิงคโปร์เป็นอันดับหนึ่งตามด้วยไทย (http://bit.ly/2p1l5Mg) ซึ่งก็คล้ายกับผลการสำรวจเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2558 (http://bit.ly/1RW39tL) อย่างไรก็ตามสิงคโปร์มีข้อกฎหมายที่เข้มงวดในการเก็บภาษีซื้อจากคนต่างชาติถึง 15% ดังนั้นในทางปฏิบัติ ชาวเมียนมาจึงไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ไม่มากนัก และกลุ่มที่ตอบแบบสอบถามที่มาเลเซียล่าสุด (สิงหาคม 2560) นี้เคยเดินทางมาประเทศไทยและสิงคโปร์ จึงคิดจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากกว่าในสิงคโปร์


อย่างไรก็ตามในกรณีของชาวฟิลิปปินส์ พบว่า 21% ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ตามด้วยมาเลเซีย 17% และสหรัฐอเมริกา 14% ส่วนที่จะคิดมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมีเพียง 7% เท่านั้น การนี้เชื่อว่าชาวฟิลิปปินส์ใกล้ชิดกับมาเลเซียและสิงคโปร์มากกว่าไทย รวมทั้งสหรัฐอเมริกาซึ่งเคยปกครองฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากเราสามารถทำการตลาดให้ดี ก็อาจได้ชาวฟิลิปปินส์มาซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยไม่ยาก


การที่จะส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยก็หวังว่าจะทำให้เศรษฐกิจสะพัดขึ้นในระดับหนึ่ง ได้กำลังแรงงานคุณภาพ รวมทั้งกำลังซื้อต่างชาติเข้ามาจับจ่ายในประเทศไทยด้วย แต่การจะยกให้ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์กันง่าย ๆ ก็คงไม่ได้ ก็คงต้องมีมาตรการด้านภาษีแบบเดียวกับในสิงคโปร์ แต่คนไทยรวยๆ ที่อาจมีอิทธิพลทางการเมืองอาจไม่ยอมให้มีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง


จากข้อมูลข้างต้น ถ้าเราเป็นนักพัฒนาที่ดินที่ในขณะนี้สถานการณ์การขายค่อนข้างอืด แล้วเราอยากทำ Roadshow ไปเมืองนอก ก็ไม่ต้องไปไกลนัก ไปแค่ประเทศเพื่อนบ้านเช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา มาเลเซียหรือสิงคโปร์ก็เหลือเฟือ อยู่ที่เราต้องมีพันธมิตรที่ดี ผมไปสำรวจวิจัยและมีเครือข่ายในประเทศเหล่านี้ สัมผัสมาสม่ำเสมอ เชื่อว่ามีกำลังซื้อจริง ขนาดกัมพูชา ยังมีคนมาหาหมอที่ รพ.บำรุงราษฎร์ เดือนละ 500 รายเลย


ในด้านนโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งรัฐ ผมมองว่าเราควรกำหนดภาษาสำหรับคนซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ เช่น ในสิงคโปร์ อ่องกง แคนาดา สหรัฐอเมริกา แคนาดา ที่เก็บภาษีกับคนต่างชาติที่ 5-15% บ้าง และควรมีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นธรรม เช่น เสียภาษีปีละ 1% - 3% ของราคาตลาด ไม่ใช่เก็บตามราคาประเมินราชาการ และมีข้อยกเว้นถึง 50 ล้านบาท แถมเก็บในอัตราที่ต่ำมาก จะคุ้มค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษีหรือไม่ ถ้าไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสากล ก็เท่ากับเรายกอสังหาริมทรัพย์ให้ต่างชาติฟรี ๆ เพียงเพราะคนรวยๆ อยากเลี่ยงภาษีนั่นเอง


อย่างไรก็ตามผมพบคนอินเดีย หลายคนผิดหวังที่ประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่เป็นประชาธิปไตย เขาภูมิใจว่าประเทศของเขาเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แต่ก็มีการซื้อเสียงมากมาย แต่ไม่มีรัฐประหาร!) ส่วนชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ลาวและกัมพูชาต่างก็ไม่รู้สึกดีนักกับสถานการณ์บ้านเมืองไทยแบบนี้ ดังนั้นในเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ เราควรที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นประเทศประชาธิปไตยตามอารยะสากลโดยเร็ว เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาตินั่นเอง


หวังว่าผู้ประกอบการไทยจะไปเจาะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศชาติฟื้นฟูทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ


ที่มา: http://bit.ly/2xHb1OU

เนื้อหาโดย: doctorsopon
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
doctorsopon's profile


โพสท์โดย: doctorsopon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
44 VOTES (4/5 จาก 11 คน)
VOTED: paktronghie, XxICExX, อัญญาท้าว, น้องขนุน, doctorsopon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชงสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหมแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอมปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บ้าน คอนโด ที่ดิน
สถานการณ์อสังหาฯ เปิดใหม่ตุลาคม 2568คอนโดภูเก็ต สุดยอดตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดแนะนำร้านขวัญใจช่างไม้ ‘วิวัฒน์ชัยค้าไม้’ ทำไมถึงเป็นที่นิยมการปฏิวัติวงการที่อยู่อาศัยไทยด้วยระบบภาษี
ตั้งกระทู้ใหม่