เปิดอาณาจักร 100 ไร่ "วิถีพอเพียงบ้านไร่อุดมสุข จ.เชียงราย" ของเบิร์ด ธงไชย
เป็นเรื่องซาบซึ้งตรึงใจสำหรับศิลปินซูเปอร์สตาร์ เบิร์ด – ธงไชย แมคอินไตย์ ที่เคยได้มีโอกาสเข้าไปถวายงานร้องเพลงเฉพาะพระพักตร์เนื่องในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส 50 ปี และในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสประโยคที่ทำให้หัวใจที่แห้งเหือดของเบิร์ดที่เพิ่งเสียคุณแม่ไป กลับมาสดใสอีกครั้ง “ปลูกข้าวที่เชียงรายอยากให้ทําต่อไปนะ เบิร์ดเป็นคนดีที่หนึ่ง”
ศิลปินยอดนิยมอมตะ เบิร์ด – ธงไชย แมคอินไตย์ มีโอกาสได้เข้าไปถวายงานร้องเพลงเฉพาะพระพักตร์เนื่องในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส 50 ปี หลังจากร้องเสร็จได้เข้าเฝ้าฯส่งเสด็จฯกลับ ซึ่งเบิร์ดได้เล่าให้แพรวฟังว่า
“…เบิร์ดลงกราบพร้อมกับถือโอกาสจับพระบาทของทั้งสองพระองค์เอาไว้ สมเด็จพระนางเจ้าฯมีรับสั่งว่า ‘ร้องเพลงไพเราะมาก’ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ ในหลวงรับสั่งว่า ‘ปลูกข้าวที่เชียงรายอยากให้ทําต่อไปนะ เบิร์ดเป็นคนดีที่หนึ่ง’ เบิร์ดกราบทูลตอบว่า ‘รับใส่เกล้าพระพุทธเจ้าข้า’ เนื้อตัวตอนนั้นขนลุกไปหมด ในใจปลื้มจนไม่รู้จะปลื้มอย่างไร เพราะหมายถึงพระองค์ท่านทรงอ่านเรื่องที่เบิร์ดเคยให้สัมภาษณ์ไว้ใน แพรว จึงทรงทราบว่าบ้านที่เชียงรายปลูกข้าว…พอส่งเสด็จฯเสร็จแล้วกลับขึ้นรถได้เท่านั้น เบิร์ดร้องไห้ซะ กลับถึงบ้านรีบจุดธูปเล่าให้แม่ฟัง แต่แม่คงเห็นแล้ว เพราะเบิร์ดพารูปแม่ติดใส่กระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกซ้ายเข้าวังด้วย พลังใจจากการได้เข้าเฝ้าฯครั้งนั้นทำให้ใจเบิร์ดที่เคยหดหายเพราะแม่เพิ่งจากไปไม่นาน กลับมาสดใสอีกครั้ง ซึ่งชีวิตนี้คิดว่าครั้งนั้นคือสูงสุดแล้ว…”
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2545 แพรวได้ไปเยือนบ้านไร่อุดมสุขที่จังหวัดเชียงราย ของศิลปิน เบิร์ด – ธงไชย ที่ได้ออกแบบร่วมกับพี่ชายที่เป็นสถาปนิก โดยหวังให้เป็นที่อยู่อาศัยร่วมกับคุณแม่ โดยวันนี้แพรวจะขอย้อนไปโฟกัสยังบ้านไร่อุดมสุข สถานที่พักกายใจที่เบิร์ด – ธงไชย ได้นำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 หรือสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นหลักแนวทางในการใช้ชีวิต
“หลังจากนั้นเบิร์ดก็เกิดความคิดตามพระราชดำรัส เพราะไปเจอภาพฝีพระหัตถ์ของในหลวง ซึ่งพระองค์ท่านทรงวาดเอาไว้ในหนังสืออะไรสักอย่าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับพอมีพอกินนี่แหละ เลยมาคิดกับพี่ๆว่า อย่าสักแต่มีบ้านเลย เรามาทำให้คนในพื้นที่ได้มีอะไรทำดีกว่า ลูกหลานเขาจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก เขาปลูกอะไรอยู่ เราก็ช่วยหาทางที่จะให้เขาเกิดรายได้จากสิ่งที่เขาทำอยู่ เช่น ข้าว ลำไย ลิ้นจี่ พริก โดยทำโรงอบเพื่อเป็นแหล่งรับผลผลิตของหมู่บ้านเราหรือหมู่บ้านใกล้เคียง
“เบิร์ดทำตลาดให้เขาด้วย รับซื้อเขาด้วยราคากลาง ราคาอย่างที่เขาแฮ็ปปี้ เขาไปที่อื่นอาจจะไม่ได้อย่างนี้ อย่างราคาพริกนะ ขึ้นลงเหมือนกับราคาหุ้น เช้าถูก เย็นแพง เบิร์ดก็เอาพริกมาจากทั่วประเทศเลย แล้วทำวิจัยและทดลองปลูกขึ้นมา เสร็จแล้วแจกพันธุ์พริกให้กับชาวบ้าน พอเขาปลูกเสร็จก็เอาผลผลิตมาส่ง ได้เงินกลับไป
“แล้วเราไม่ได้ทำกันสุ่มสี่สุ่มห้านะ เราได้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาช่วยทำการวิจัยเป็นโครงการเลยว่าดินเราควรจะปลูกอะไร วิจัยน้ำว่ามีไนโตรเจน ออกซิเจนแค่ไหน พอที่จะปลูกพืชไร่ไหม นี่คือสาเหตุที่บ้านเบิร์ดต้องมีบึงกว้างๆ และมีน้ำพุเพื่อให้เกิดออกซิเจนในน้ำ เพื่อเอามาหมุนเวียน เลี้ยงปลาก็ได้ สูบเข้าเครื่องกรองเอามาใช้ในบ้านก็ได้ นาไร่ต่างๆเราก็สูบน้ำนี้ไปใช้ เบิร์ดตั้งใจมากที่จะทำให้มันเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา
“เบิร์ดบอกชาวบ้านว่าให้ดูแลครอบครัว ดูแลที่ดินกันให้ดี แล้วเบิร์ดจะดูแลเขาให้มีงานทำ ใครมีปัญหาอะไรก็ให้มาพูดคุยกัน อย่าถึงขนาดขายที่ ไม่มีตังค์ก็มาบอกกันได้ ช่วงที่สร้างบ้านเขาก็มีรายได้ประมาณหนึ่ง พอโรงอบเสร็จ และเราสามารถรับซื้อผลิตผลของเขาได้ ลูกหลานผลัดต่อไปจะได้ไม่ต้องไปหางานที่อื่น เพราะเขามีนามีไร่ที่สามารถทำผลิตผลส่งได้”
บ้านนี้เบิร์ดออกแบบเอง ให้ง่ายๆเข้าไว้ เลยออกมาสูงๆ โปร่งๆ โล่งๆ ใหญ่ๆ เหมือนศาลาการเปรียญ ส่วนทะเลสาบหลังบ้านสร้างเป็นรูปหัวใจ ตกเย็นเบิร์ดจะพายเรือเล่น มองลงไปสิ เห็นปลาเพียบ
แปลงเพาะพริก อีกหน่อยถ้าทำคุณภาพดีๆได้ จะบอกให้ทั่วเลยว่านี่แหละ Bird’s Chilli